กองปราบ ขอย้าย 6 ตร.ช่วยเหลือ 'กำนันนก' ขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - จ่อแจ้งข้อหา ม.157 เพิ่ม

กองปราบฯ ขอศาลย้ายตัวตร.ผู้ต้องหา 6 นายที่ถูกดำเนินคดีก่อนหน้านี้มาขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จ่อแจ้งข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ม.157 เพิ่ม คาดสัปดาห์หน้ามีความชัดเจน


พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วยชุดทำงาน ประชุมความคืบหน้าคดีกำนันนก ที่กองปราบปราม จากนั้นช่วงเวลา 15.00น. พันตำรวจเอกวิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการกองปราบปราม ในฐานะโฆษกชุดคลี่คลายคดี ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประชุมหารือกับคณะทำงาน


โดยได้ทำหนังสือไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม เพื่อขอโอนฝากขังมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และทำหนังสือไปที่กรมราชทัณฑ์ เพื่อขอโอนการขังผู้ต้องหาทั้ง 6 นาย มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันการแทรกแซงของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่


เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าหากย้ายผู้ต้องหาทั้ง 6 นาย มาขังที่เดียวกับกำนันนก และจะกลับคำให้การหรือไม่ พันตำรวจเอกวิวัฒน์บอกว่าตนไม่ทราบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ ต้องขึ้นอยู่กับระเบียบของกรมราชทัณฑ์


ส่วนการดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 กับตำรวจอีก 13 นาย จะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า และคาดว่าอาจจะมีการออกหมายเรียกหรือออกหมายจับบุคคลอื่นเพิ่มเติม แต่ส่วนตัวเชื่อว่ามีตำรวจมากกว่า 6 นาย


ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าตำรวจสามารถไปงานเลี้ยงได้หรือไม่ พันตำรวจเอกวิวัฒน์ระบุว่าตำรวจที่ไปงานเลี้ยงก็ยังถือว่าอยู่ในสถานภาพของการเป็นตำรวจ พอมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็เหมือนเป็นตำรวจที่ยังมีหน้าที่อยู่ ต้องจับกุมคนร้าย ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และรักษาที่เกิดเหตุ ซึ่งทั้งหมดเป็นพยานหลักฐานชุดเดียวกัน เพราะฉะนั้นจะต้องไล่เรียงทีละคนว่าหลังเกิดเหตุการณ์แต่ละคนทำหน้าที่อะไร ทำหน้าที่สมบูรณ์หรือไม่ และจากการสอบปากคำยังพบว่ามีตำรวจบางนายให้การขัดแย้งกันอยู่ แต่ไม่เยอะ พร้อมยืนยันว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา


ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดในบ้านกำนันนกที่หลายคนเข้าใจว่ามีมากกว่า 15 ตัว มี 2 ตัวที่ทำงานถึงเดือนสิงหาคม และมี 1 ตัว ทำงานถึง 10 โมงเช้าของวันเกิดเหตุ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นส่วนสำคัญทางคดี แต่ถึงแม้จะไม่มีกล้องชี้ไปที่จุดเกิดเหตุก็มีกล้องตัวอื่นอยู่ รวมถึงประจักษ์พยานก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากล้องวงจรปิด


เมื่อสอบถามว่า จากกระแสข่าวว่า การโอนย้ายสำนวนมาส่วนกลาง เป็นเพราะสำนวนที่ภาค 7 ทำมีความสะเปะสะปะหรือไม่ ทางพันตำรวจเอกวิวัฒน์ บอกว่าไม่ใช่อย่างนั้น แต่เป็นการส่งต่อหลักฐานมาทำเพิ่มเติม และที่ผ่านมาก็มีการทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ต้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/f9aTucaumQI