อาชญากรรม

รองสารวัตรจราจร ขับนำขบวน ‘กำนันนก’ อ้างบ้านติดกัน ไปทางเดียวกัน ยันไม่ได้พาหนี

โดย petchpawee_k

16 ก.ย. 2566

804 views

เรียก “รองสารวัตรจราจร” ขับนำขบวนรถฟอร์จูนเนอร์ กำนันนก ขณะหลบหนีคืนเกิดเหตุยิงสารวัตรแบงค์ สอบปากคำอีกครั้ง ให้การอ้างบ้านติดกัน เลยไปทางเดียวกัน ลูกสาวเผยพ่อไปงานบ้านกำนันนก กลับมาสุดเครียด

 จากกรณีภาพวงจรปิดเห็นรถกระบะ สีดำ 4 ประตู ขับออกจากที่เกิดเหตุสำนักงานกำนันนก ในวันที่ 6 ก.ย.หลังเกิดเหตุยิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิต แล้วนำขบวนรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ซึ่งเป็นรถของกำนันนก ขณะหลบหนี


จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า คนขับรถคันดังกล่าวคือ รองสารวัตรจราจร สังกัดหนึ่งในจังหวัดนครปฐม (ร.ต.ท. มนัส จันทร์มีทรัพย์ รองสารวัตรจราจร) เป็นคนขับรถคันนี้ ทางตำรวจได้คุมตัวมาสอบปากคำแล้ว


โดยให้การอ้างว่าหลังเกิดเหตุ ตนเองได้ขับรถเพื่อจะกลับบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านกำนัน ที่ตำบลตาก้อง จึงใช้เส้นทางเดียวกัน และยังบอกอีกว่าตนเองเป็นญาติกับกำนันนก  ทั้งนี้รองสารวัตรคนดังกล่าวให้การเป็นประโยชน์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นใครทำอะไรบ้าง  


วานนี้ (15 ก.ย.) มีรายงานว่าพนักงานสอบสวน ได้เรียกรองสารรัตรจราจรคนดังกล่าว มาสอบปากคำอีกครั้ง ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แต่ผู้สื่อข่าวไม่มีใครได้เจอตัว ร.ต.ท. มนัส จันทร์มีทรัพย์ รองสารวัตรจราจร


ส่วนจะมีความผิดฐานร่วมกันในการพาหลบหนีหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะข้อมูลดังกล่าวที่ได้จากรองสารวัตรนั้นเป็นข้อมูลใหม่จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม


ส่วนข้อมูลจากชุดคลี่คลายคดี ยืนยันว่า รองสารวัตรดังกล่าว ถ้าหลักฐานสาวไปถึงว่า รองสารวัตรคนดังกล่าว เข้าข่ายความผิดอยู่ในที่เกิดเหตุแต่ไม่ให้การช่วยเหลือ ก็จะออกหมายจับ


ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านของรองสารวัตรจราจรนายนี้ ที่ตำบลศรีมหาโพธิ์ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เจอกับลูกสาวของรองสารวัตร บอกว่า ปกติคุณพ่อจะอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ จะมีบางวันที่เข้าเวรก็ไม่ได้กลับมา


ส่วนที่ตำบลตาก้อง เป็นบ้านเกิด พอแต่งงานกับคุณแม่ก็มาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ซึ่งกับกำนันนก คุณพ่อก็รู้จักกันมานานในฐานะเพื่อนบ้าน และเพิ่งจะไปงานเลี้ยงได้แค่ 2 ครั้ง โดยกำนันนกชวนไป บอกว่า ไปกินข้าวกันในวันเกิดเหตุ คุณพ่อได้ขับรถกระบะคันสีดำไปจริง และกลับมาถึงบ้านตอนประมาณ 5 ทุ่ม แต่ก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง บอกแค่ว่ามีคนยิงกันในงาน


หลังจากวันนั้นมาคุณพ่อก็มีอาการเครียด แต่ก็ไม่ได้เล่าอะไรให้คนในครอบครัวฟัง ซึ่งเธอก็ไม่รู้ในรายละเอียดลึก ๆ และวันนี้ (15 ก.ย.) คุณพ่อได้ไปให้ปากคำกับตำรวจที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งเดินทางไปตั้งแต่เช้าแล้ว


ทีมข่าวทดลองวัดระยะทางจากที่สำนักงานกำนันนก ที่อำเภอตาก้อง จนมาถึงบ้านของรองสารวัตรคนนี้ มีระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาในการขับรถไม่น่าเกิน 20 นาที แต่หากดูจากวงจรปิดที่ออกมาจากสำนักงานราว 3 ทุ่มครึ่ง แต่กลับถึงบ้านตอน 5 ทุ่ม ทำให้เกิดคำถามว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง รองสารวัตรคนนี้หายไปไหน ทำอะไร

----------------------------------------

อดีต ผบช.ภ.1 สอนมวยชุดคลี่คลายคดีกำนันนก ‘สาวไส้ให้กากิน’ ทำทนายผู้ต้องหายิ้มกริ่ม

พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 โพสต์ภาพ พร้อมข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก “พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน” ระบุว่า “การแถลงผลการสืบสวนสอบสวน…กับการสาวไส้ให้กากิน” สองเรื่องนี้มีความหมายใกล้เคียงกันมากจนแทบจะแยกไม่ออก !!! “สาวไส้ให้กากิน” หมายความว่า การนำความลับของฝ่ายตน ไปเปิดเผยให้คนอื่นรู้ เป็นการประจานตนหรือพรรคพวกของตน

ส่วนการแถลงผลการสืบสวนสอบสวน… เป็นเรื่องของการแถลงข่าวให้ข้อมูลในการปฏิบัติงานด้านการสืบสวนสอบสวนให้สังคมได้รับรู้เท่าที่จำเป็นและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดี ไม่เสียความยุติธรรม และไม่กระทบต่อเกียรติยศชื่อเสียงของบุคคล ซึ่งโดยปกติถ้าอยู่ในชั้น “สืบสวน” (ยังไม่แน่ชัดว่ามีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้นหรือไม่) เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ก็อาจจะให้ข่าวต่อสาธารณะได้ค่อนข้างมาก


แต่เมื่อใดที่เข้าสู่ชั้น “สอบสวน” (มีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้นแล้ว) การให้ข่าวก็จะถูกกำจัดลงเพราะเป็นการเริ่มต้นของกระบวนการยุติธรรมแล้ว(เมื่อมีการสอบสวน) ใครอยู่ในที่เกิดเหตุบ้าง? ใครทำอะไร? ที่ไหน? เมื่อไหร่? อย่างไร? ใครให้การอย่างไร? วงจรปิดจับภาพอะไรได้บ้าง? ได้อะไรมาเป็นพยานหลักฐานสำคัญในทางคดี ? …….. วันละสามเวลาหลังอาหารทนายความฝ่ายผู้ต้องหาคงนั่งยิ้มกริ่ม ขอบคุณแล้วขอบคุณอีก… จะให้ขอบคุณกันไปถึงไหน


กระผมกำลังจะบอกว่ามันจะเกิดความเสียหายต่อรูปคดี เกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้เสียหาย….. ปรมาจารย์งานสืบสวนสอบสวนซึ่งเป็นปูชนียบุคคลในงานด้านนี้ ตั้งแต่อดีตจะถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ขออ้างอิงพลตำรวจเอกประยูร โกมารกุล ณ นคร ซึ่งกระผมได้ติดสอยห้อยตามทำคดีสำคัญๆ กับท่านมาแทบจะนับไม่ถ้วน ไม่เคยเลยที่ท่านจะปริปากเอาเรื่องในสำนวนการสอบสวนไปพูดเป็นฉากๆ ..”เรื่องนี้เป็นความลับในสำนวนบอกได้เพียงว่าเรามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด..(จบ)... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/2722144/


https://youtu.be/P9O71UqMGnU


คุณอาจสนใจ

Related News