สังคม

'บิ๊กโจ๊ก' เผยวงจรปิด 2 ตัวสำคัญ ถูกถอดสายแลนรอ พลิกคดี เข้าข่ายวางแผนฆ่า

โดย panwilai_c

15 ก.ย. 2566

126 views

บิ๊กโจ๊ก เผยกล้องวงจรปิดที่สำนักงานกำนันนกโดนถอดปลั๊กก่อนเกิดเหตุ สอดคล้องกับข้อมูลของตำรวจ พฐ. ที่พบว่ากล้อง 2 ตัวนี้ถูกถอดจากตั้งแต่ 10 โมงเช้า วันที่ 6 กันยายน



พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันกับทีมข่าวช่อง 3 ถึงกรณี การกู้ภาพวงจรปิดจากกล้อง 2 ตัวสุดท้าย บริเวณสำนักงานของกำนันนก ว่า ได้รับรายงานว่าไฟล์ภาพวงจรปิดของกล้องทั้งสองตัวไม่มีการบันทึก เพราะถูกดึงปลั๊กออกก่อนจะมีการยิงกันภายในงาน เนื่องจากกล้องทั้งสองตัว ถูกติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด



ซึ่งการดึงปลั๊กก่อนที่จะเกิดเหตุเชื่อว่าเป็นการวางแผนเตรียมการเอาไว้ก่อน ขณะนี้ให้ฝ่ายสอบสวนดำเนินการรวบรวมหลักฐาน ว่าใครเป็นผู้สั่งการและเป็นผู้ดึงปลั๊ก ซึ่งได้เรียกตำรวจที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ และพลเรือน ที่อยู่ในงานมาอสอบประเด็นอีกครั้งที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7



ส่วนกล้องวงจรปิด 13 ตัว แม้จะไม่เห็นที่โต๊ะเกิดเหตุ แต่บันทึกภาพพฤติกรรมของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ในช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน กล้องบางมุมสามารถบันทึกภาพของนาทีที่มีการเดินเข้าหาโต๊ะก่อนการยิงได้ด้วย



สอดคล้องกับข้อมูลที่ทีมข่าวอาชญากรรมได้มาจากทีมงานสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ว่า เซิฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่สำนักงานของกำนันนกเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิด 15 ตัว ผ่านระบบสายแลน ที่ติดตั้งรอบบริเวณที่จัดงานเลี้ยง สามารถสั่งการผ่านโทรศัพท์มือถือได้ โดยเจ้าหน้าที่ สามารถกู้ภาพจากกล้องวงจรปิดได้แล้ว 13 ตัว ภาพบางส่วนที่กู้ได้แล้ว เป็นภาพเหตุการณ์หลังจากได้ยินเสียงปืน จากนั้นกลุ่มตำรวจและพลเรือนในงานต่างแยกย้ายกันวิ่งหนี แต่ยังสามารถบันทึกเหตุการณ์ที่มีนายตำรวจบางนาย เข้าไปช่วยเหลือ สารวัตรศิว และรองวศิน ที่ถูกยิง นำตัวส่งโรงพยาบาล



จากภาพยังระบุเวลาที่กำนันนก ออกจากที่เกิดเหตุในเวลา 21.26 น. ก่อนถึงบ้านพักในเวลา 21.36 น. ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงเวลา 10 นาทีนี้ ไม่รู้ว่ากำนันนกได้ลบไฟล์วงจรปิดผ่านมือถือหรือไม่ หรือทำอะไรกับกล้องวงจรปิด เพราะไม่มีใครยึดมือถือของกำนันนกไว้



ส่วนเซิฟเวอร์ที่เชื่อมต่อกล้องวงจรปิดที่ "บ้าน" กำนันนก พบว่า มีความเสียหายอย่างมาก จนไม่สามารถกู้ภาพได้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จำเป็นต้องส่งไปยังบริษัทผลิตกล้องวงจรปิด เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญกู้ภาพ แต่จากการประสานบริษัท ซีเกตฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตกล้อง ที่อยู่สหรัฐอเมริกา ได้รับแจ้งว่า ให้เจ้าหน้าที่ ส่งกล้องไปที่สำนักใหญ่ในประเทศไทย ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้ช่างที่อยู่ในประเทศไทย เป็นผู้กู้ภาพ ภายใต้คำแนะนำผ่านวีดีคอลจากช่างซ่อมของบริษัทแม่ โดยเชื่อมั่นว่า จะสามารถกู้ภาพได้ แต่ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง



ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำเซิฟเวอร์ใหม่ 2 ตัว มาแบ็คอัพข้อมูล เพื่อเก็บไฟล์ต้นฉบับไว้เป็นหลักฐาน และส่งมอบให้ บิ๊กโจ๊กไปแล้ว 1 ตัว



นั่นเท่ากับว่า เซิร์ฟเวอร์ที่ตำรวจได้มามี 2 ตัว ตัวแรกเป็นของสำนักงานกำนันนก ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง มีกล้องวงจรปิด 15 ตัว สามารถกู้ได้ 13 ตัว ส่วนอีก 2 ตัว ไม่มีภาพ เพราะถูกถอดปลั๊กตั้งแต่ 10 โมงเช้า ภาพสุดท้ายที่บันทึกได้ คือ ภาพกำนันนกกำลังล้างรถเบนลี่อยู่ และหลังจากนั้นไม่มีภาพอีก ส่วนเซิร์ฟเวอร์ตัวที่ 2 คือ ที่บ้านกำนันนก เซิร์ฟเวิร์ตัวนี้คือตัวที่ถูกทำลายเสียหายอย่างหนัก ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่สามารถกู้ภาพได้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทแม่มาดำเนินการ



ขณะที่ทีมข่าวอาชญากรรมโทรศัพท์สอบถาม แหล่งข่าวที่รู้ข้อมูลเรื่องการติดตั้งวงจรปิดสำนักงานกำนันนก เปิดเผยว่า เดิมทีสำนักงานกำนันนกมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว 6 ตัว และช่วงเดือนมีนาคม 2566 ได้เรียกช่างเข้าไปติดตั้งเพิ่มอีก 7 ตัว รวมเป็น 13 ตัว และมีกล้องบริเวณหน้าบ้าน 2 ตัว ที่ไม่สามารถบันทึกภาพได้ เพราะเป็นกล้องดัมมี่



ส่วนมุมกล้องที่จะเห็นบริเวณงานเลี้ยง หลักๆ แล้วก็จะมีอยู่ 2 ตัว คือกล้องที่บริเวณห้องกระจก จะหันมาทางด้านเวที และกล้องที่ข้างห้องสีดำ จะเห็นบริเวณที่จัดงานเลี้ยง ซึ่งนอกจากกล้อง 2 ตัวนี้แล้ว เท่าที่ทราบ ก็ไม่มีกล้องตัวไหนที่จะเห็นภาพบริเวณจุดจัดงานเลี้ยงอีก



ขณะที่แหล่งข่าว ยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ปกติแล้วเซิร์ฟเวอร์ของกล้องวงจรปิด จะรวมกันเป็นเซิร์ฟเวอร์เดียว ไม่ว่าจะมีกล้องกี่ตัวก็ตาม อย่างของบ้านกำนันนก เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีช่องสัญญาณ 16 ช่อง ดังนั้น ตามหลักการเทคนิคแล้ว หากกู้ภาพได้ ภาพของทุกกล้องก็จะน่าจะต้องกลับมาทั้งหมด ส่วนการจะตั้งใจทำลายเซิร์ฟเวอร์ให้ภาพในกล้องเสียหายเพียงแค่ 2 ตัว มองว่าทำได้ยากมาก แม้แต่ช่างผู้เชี่ยวชาญก็ยังทำไม่ได้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jAmqAfzOmoA

คุณอาจสนใจ

Related News