เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 13 ก.ย.66 สภาป่วน เพื่อไทย-ก้าวไกล ประท้วงวุ่น / รับศพ ผกก.เบิ้ม / ลูกสาวหน่อง ขอโทษแทนพ่อ

1. สุดเศร้า! ครอบครัวรับศพ ผกก.เบิ้ม ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

สุดเศร้า! ครอบครัวรับศพผู้กำกับเบิ้ม ที่นิติเวช ไปประกอบพิธีรดน้ำศพ – สวดคืนแรกวัดตรีทศเทพฯ ญาติๆร่ำไห้เกือบเป็นลม ไม่ติดใจสาเหตุการตาย บิ๊กต่อเข้ากอดปลอบใจ ลูกชายวัย 8 ขวบที่อยู่ในอาการโศกเศร้า เพื่อนสนิทเผยเบิ้ม เครียดหนัก โทษตัวเองเป็นต้นเหตุสารวัตรศิว ถูกยิงตาย

2. บิ๊กต่อ เล่านาที ผกก.เบิ้ม เกาะขารู้สึกผิดพาสารวัตรแบงค์ไปตาย

บิ๊กต่อ เผยผู้กำกับเบิ้ม เสียใจมาก วันที่สารวัตรศิว โดนยิง ถึงขั้นมาเกาะขาร้องไห้ เสียใจพาน้องไปตาย อยากบวชเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ยันผลชันสูตรชัดฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกจัดฉากหรือฆ่าตัดตอน

พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ร่ำไห้ น้องรักจากไป 2 คน เตรียมขอสร้างอนุสาวรีย์ให้เกียรติกับทั้งคู่ วอนอย่าเสนอข่าวซ้ำเติม ไม่อยากให้มีศพที่ 3 ตามมา

3. จ่ออกหมายจับ ตร. 2 นาย เอี่ยวคดียิงสารวัตรแบงค์

ชุดสืบสวนคดีการตาย สารวัตรศิว เรียกตำรวจในที่เกิดเหตุ 28 นาย - พลเรือน 17 คนสอบปากคำเพิ่ม พบให้การไม่ตรงกัน ส่วนการกู้เซิร์ฟเวอร์วงจรปิดบ้านกำนันนกได้ 1-2 วันนี้ พนักงานโต๊ะจีนเผยได้ยินแค่เสียงปืนดังรัว 4-5 นัด ทำให้ตกใจไม่กล้าออกมาดู ไม่เห็นและไม่รู้จักใครในงาน แหล่งข่าวคาดอาจออกหมายจับตำรวจเพิ่มอย่างน้อย 2 นาย ยศนายร้อย ที่ร่วมโต๊ะจีน

4. ลูกสาวหน่อง ขอโทษแทนพ่อ วอนสังคมอย่าด่าลามครอบครัว

เผาร่างหน่อง มือยิงสารวัตรศิว วานนี้มีลูกชายและหลานๆ รวม 4 คนบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับหน่อง และสารวัตรศิว ลูกสาวไม่ติดใจสาเหตุการตาย และอยากขอโทษแทนพ่อ วอนกระแสสังคมอย่าโจมตีคนในครอบครัวเพราะไม่เกี่ยวกัน

5. ดีเอสไอลุยเก็บหลักฐาน 2 บริษัทกำนันนก จับตาฮั้วประมูลหรือไม่

งานงอก! ดีเอสไอ ลุยเก็บหลักฐาน 2 บริษัทกำนันนก ชนะประมูล 18 โครงการ หากพบฮั้วประมูล จะรับเป็นคนดีพิเศษ ลากคอเอาผิดทุกคนที่เอี่ยว ป.ป.ช.ภาค 7 จับตาตรวจสอบโครงการบริษัทกำนันนก พร้อมร่วมตรวจสอบหากดีเอสไอประสานมา

6.แม่นกน้อย หนุน ป๋อ หมอลำไม่จำเป็นต้องหยาบคาย

วงการหมอลำสะเทือน แม่นกน้อย อุไรพร ไลฟ์สดพูดถึงประเด็นดราม่า เพลงดัง คนจนมีสิทธิ์ไหมคะ บอกเรื่องนิดเดียวจะเถียงกันไปเพื่ออะไร ลั่นหมอลำซิ่งไม่ต้องใช้คำหยาบคาย ให้เป็นการทำร้ายแปลงเพลง แต่เนื้อเพลงสองแง่สองง่ามใช้ได้ ไม่ต้องใช้คำตรงขนาดนั้น พร้อมหนุนป๋อ ณัฐวุฒิ พูดถูก คนอีสานงดงาม ภาษาอีสานก็งดงาม จากรุ่นพ่อ-รุ่นแม่

เรื่องเล่าการเมือง

-เศรษฐา ขอบคุณทุกความเห็น ลั่น 4 ปี จะทำงานหนักให้คุ้มภาษี

การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ เสร็จสิ้นไปเมื่อเวลา 24.31 น. หลังใช้เวลาอภิปรายมา 2วันเต็ม โดยนายกรัฐมนตรี ขอบคุณ และยืนยันจะนำความเห็นของสมาชิกไปพิจารณา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปการแถลงนโยบายรัฐบาล ยืนยันว่าหลังจากนี้ รัฐบาลจะทำรายละเอียดนโยบายให้ครบถ้วน มีตัวชี้วัด มีที่มาของงบประมาณ และระยะเวลาการดำเนินงานที่ชัดเจน ตามที่สมาชิกเรียกร้อง โดยจะบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการของแต่ละกระทรวง แต่ต้องขอเวลา เพราะเพิ่งจะเข้ามาทำหน้าที่

ยืนยันว่า 4 ปีจากนี้ไปจะเป็น 4 ปีที่ทำงานหนัก ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ให้คุ้มเงินภาษีและความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้

พร้อมเชิญชวน สมาชิกรัฐสภาและประชาชน ร่วมกันติดตามการทำงาน ของรัฐบาล เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนด้วย

ทั้งนี้ก่อนปิดการประชุม สส.รังสิมันต์ โรม จากพรรคก้าวไกล ได้พยายามประท้วงโดยเรียกร้องให้ นายเศรษฐา ตอบข้อซักถามของฝ่ายค้านให้ครบถ้วน แต่นายเศรษฐา กลับลุกขึ้นออกจากที่ประชุมไปทันที โดย นายรังสิมันต์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า นายเศรษฐา ไม่ตอบคำถามและเลือกที่จะเดินหนี เหมือน พลเอกประยุทธ์



-สภาป่วน! เพื่อไทย-ก้าวไกล ประท้วงวุ่นปมนายกฯส้มหล่น

ย้อนไปดูบรรยากาศตลอดทั้งวันของการอภิปรายนโยบายรัฐบาลเมื่อวาน มีช่วงหนึ่งที่บรรยากาศดุเดือดขึ้นมา หลังจาก สส.พรรคก้าวไกล อภิปรายนโยบายเกี่ยวกับเรื่องแรงงาน และช่วงหนึ่ง มีการพูดถึง "นายกฯส้มหล่น" ทำให้ สส.รัฐบาล ลุกขึ้นประท้วง จนมีการตอบโต้กันวุ่นวาย

สส.ก้าวไกล ที่อภิปรายเรื่องแรงงานคนแรก คือ นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ ปีกแรงงาน โดยตั้งคำถามถึงการที่รัฐบาลไม่ได้บรรจุนโยบายด้านแรงงานที่เคยหาเสียงไว้ในนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ที่สำคัญ คือ เรื่องค่าแรง 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท

และช่วงหนึ่งได้หยิบยกแถลงการณ์มาพรรคเพื่อไทยเมื่อวันแรงงาน 1 พ.ค. ที่ผ่านมา มาอภิปราย และตั้งคำถามต่อนายกฯเศรษฐา ทวีสิน อย่างดุเดือด

จากนั้นเป็นการอภิปราย ของนายศิริโรจน์ ธนิกกุล สส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกลเหมือนกัน ที่ช่วงหนึ่งได้อภิปรายถึงแรงงานกลุ่มไรเดอร์ และได้หยิบเสื้อไรเดอร์สีเขียวมาใส่ บอกเคยเป็นไรเดอร์ส่งอาหารมาก่อน จึงมาเป็นปากเป็นเสียงให้ เพราะไรเดอร์ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการปฏิบัติงาน

และช่วงท้ายได้ฝากให้นายกฯเศรษฐา ตอบทุกประเด็น ให้สมกับการเป็นนายกของประชาชน ไม่ใช่ "นายกส้มหล่น"

ทำให้ น.ส.สรัสนันท์ อรรณพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ประท้วงให้ถอนคำพูด และนายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ลุกมาประท้วงเรื่องการใส่เสื้อไรเดอร์

ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นตอบโต้ด้วย จนบานปลาย ตอนหลังมีคำว่า "สันดาน" หลุดมาด้วย


-นายกฯ ประกาศ ปรับค่าแรง 400 โดยเร็ว - พักหนี้เกษตรกร ทั้งต้นทั้งดอก ปลายปี

ขณะที่นายกฯเศรษฐา ที่แม้จะเพิ่งเคยเจอบรรยากาศการประท้วงในสภาแบบนี้ แต่ท่านก็ยังยิ้มได้ แถมบอกให้บรรดา สส.ใจเย็น ๆ และเมื่อวานท่านก็ประกาศกลางสภาเรื่องปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท และ พักหนี้เกษตรกรทั้งต้นทั้งดอกในปลายปีนี้

โดยหลังการประท้วงและโต้เถียงกันอย่างดุเดือด เป็นจังหวะที่นายกฯเศรษฐา ทวีสิน กำลังจะขอลุกขึ้นชี้แจงพอดี จึงพูดถึงบรรยากาศการประท้วงด้วยร้อยยิ้ม ว่า "ใจเย็นๆ กันนิดนึง ยังเช้าอยู่เลย วันนี้เราต้องอยู่กันดึก ยิ้มแย้มบ้าง สมาชิกบางท่านหน้ายังขึงขังอยู่เลย"

จากนั้นนายเศรษฐา ได้ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ โดยบอกว่าเตรียมจะปรับขึ้นเป็น 400 บาทโดยเร็ว

ต่อมา นายกฯเศรษฐา ลุกขึ้นมาชี้แจงอีกครั้ง ยืนยันว่า ไม่ลืมแน่นอนว่ารัฐบาลนี้มาจากประชาชน ไม่หลงลืมความยากแค้นของประชาชน

ก่อนจะชี้แจงประเด็นปัญหาของกลุ่มไรเดอร์ว่า ได้ให้กระทรวงแรงงานไปเจรจากับภาคเอกชน เพื่อยกระดับสวัสดิการแรงงานให้เป็นธรรมมากขึ้น

และให้กระทรวงคมนาคมไปศึกษาเพื่อสร้างแอปพลิเคชันเรียกรถของรัฐบาล เพื่อจัดระเบียบค่าโดยสาร ทั้งวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไรเดอร์ แท็กซี่ ให้มีความยุติธรรม และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารและไรเดอร์

และอีกประเด็นสำคัญที่นายกฯเศรษฐา ประกาศในที่ประชุมเมื่อวาน คือ เรื่องการพักหนี้เกษตรกร โดยยืนยันว่าการประชุม ครม.นัดแรกวันนี้ จะพิจารณาเรื่องนี้ด้วย และตั้งเป้าจะพักหนี้เกษตรกรทั้งต้นทั้งดอกให้ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้



-ชวนเตือนเศรษฐา อย่าโกง ดูชะตากรรมอดีตนายกฯ เป็นตัวอย่าง

จากนั้นในช่วงเย็นเป็นการอภิปรายของนายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์

โดยนายชวน แสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมอธิบายเหตุผลที่ตนเองไม่เห็นชอบนายเศรษฐา ว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติ แต่เป็นเพราะมาจากพรรคการเมืองที่เลือกปฏิบัติกับประชาชนโดยเฉพาะกับภาคใต้

นายชวน ยังแนะนำว่า นายเศรษฐา ถือเป็นบุคคลที่คุณสมบัติไม่ด้อยกว่าคนอื่น แต่อย่าไปล้ำเส้น ถึงขั้นติดคุก หนีออกไปต่างประเทศ อย่างที่เคยมีมา ซึ่งชะตากรรมของนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการปฎิบัติ แต่ทั้งหมดจะหนีจากชะตากรรมคดีความได้ ก็ด้วยการไม่โกง

ด้านนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงต่อจากนายชวน น้อมรับข้อเสนอแนะต่างๆ และยืนยันว่า ตนเองมายืนตรงนี้เพราะหัวใจที่เปิดกว้าง รักประเทศชาติ มีความต้องการที่จะเห็นพี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมยืนยันว่าความตั้งใจอันสูงสุดของตนต้องให้ความเป็นธรรม ให้ความเสมอภาค กับ คนไทยทุกคน เพราะการเลือกปฏิบัติ เป็นสิ่งที่ไม่สมควร นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังท้วงติง คุณชวน ที่ เรียกชื่อตนเองผิด ว่า “เชษฐา “ ด้วย


-ก้าวไกล อัดรัฐบาลเศรษฐา ส่วนต่อขยายระบอบประยุทธ์

ขณะที่อีกไฮไลท์น่าสนใจ มีการอภิปรายนโยบายด้านการเมืองและประเด็นเกี่ยวข้องกับกองทัพ จากสส.พรรคก้าวไกล ก็พูดถึงการไม่กล้าแตะเรื่องการปฏิรูปกองทัพ เป็นการสยบยอม และชี้ว่ารัฐบาลเศรษฐา เป็นเหมือนส่วนต่อขยายของระบอบประยุทธ์

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายเปิดเป็นคนแรก ถึงนโยบายการเมืองและกองทัพ ก็ตั้งคำถามถึงการ “ปฏิรูปกองทัพ” ที่เปลี่ยนมาเป็นร่วมกัน “พัฒนากองทัพ” เหมือนส่งสัญญาณว่า รัฐบาล จะไม่ยุ่ง ไม่แตะกองทัพ

นอกจากนี้ยังพูดถึง กฎหมายป้องกันและต่อต้านการรัฐประหาร ที่เคยบอกไว้ก็หายไป ซึ่งไม่แม้แต่จะพูดถึงคำว่า “รัฐประหาร” ในการแถลงนโยบาย

อีกทั้งกรณีนโยบายการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร มาเป็นแบบสมัครใจ ก็ยังคลุมเครือ ก็บอกว่าหากนโยบายรัฐบาล เป็นการ “ลดการเกณฑ์ทหาร” เท่ากับไม่มีอะไรใหม่ จากสิ่งที่กองทัพดำเนินการอยู่แล้ว

นายชัยธวัช ทิ้งท้าย ว่าจากที่ฟังคำแถลงนโยบายของรัฐบาล นี่ไม่ใช่นโยบายการพัฒนากองทัพร่วมกัน แต่นี่คือ “นโยบายเขตทหารห้ามเข้า” และทำให้คิดได้ว่า “รัฐบาลเศรษฐา” กลายเป็นส่วนต่อขยายของระบอบประยุทธ์ ที่เต็มไปด้วยความสยบยอม หรือสมยอมกัน

จากนั้น นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายต่อเนื่อง พูดถึงการให้คุณสุทิน คลังแสง มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำให้ไม่มีความหวังในการปฏิรูปกองทัพ และมองว่า เป็นแค่ “แมสเซ็นเจอร์หรือโฆษกของกองทัพ” ซึ่งทำได้เพียงรับคำสั่งจากกระทรวงกลาโหมแล้วส่งให้ครม.อนุมัติ

หลังจาก 2 สส.ก้าวไกลอภิปราย ทำให้นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงทันที ย้ำว่าการใช้คำว่า “พัฒนากองทัพ” มีความหมายใกล้เคียงกัน พร้อมระบุว่า เข้าใจวิธีการนำเสนอ แต่คำพูดต่างๆ ทำให้บรรยากาศทำงานร่วมกัน ในการพัฒนาสถาบันทหารจะลำบากขึ้น ดังนั้นในฐานะผู้นำรัฐบาล มีความเป็นห่วง เรื่องการใช้วาทกรรมด้อยค่ากัน ก็ย้ำว่า ประเทศชาติต้องการความสามัคคี แก้ปัญหา และ พูดกันด้วยความเข้าใจ

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/hT24T5a_-uw