รวบ 4 คนไทยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงินพ่อฆ่า 3 ศพแม่ลูก ฝั่งกัมพูชา

'บิ๊กโจ๊ก' พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ปฏิบัติการร่วมกับตำรวจกัมพูชา ทลายจุดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวบ 4 คนไทยทำหน้าที่โทรหลอกโอนเงิน คดีพ่อฆ่าลูกและภรรยา 3 ศพที่สมุทรปราการ


จากเหตุการณ์ที่นายสาณิช ดอกไม้ ที่เครียด ใช้มีดปาดคอฆ่าภรรยา และบุตร 2 คน เสียชีวิตรวม 3 ศพ จากนั้นได้ปาดคอตัวเองหวังฆ่าตัวตายตาม เหตุเกิดในเขตพื้นที่ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา /โดยสาเหตุความเครียด ปัญหาหนี้สินค้ำประกันซื้อรถให้เพื่อนบ้าน เป็นเงิน 8 แสนบาท จนถูกฟ้องและกรมบังคับคดีจะยึดบ้าน


นอกจากนี้ภรรยายังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นแอพเงินกู้และสูญเงินไปกว่า 1.7 ล้านบาท และหลังจากที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางไปกัมพูชา เพื่อประสานขอความร่วมมือกับ พล.ต.อ.ซอ เทศ ผบ.ตร.กัมพูชา ติดตามจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับคดีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ จึงได้วางแผนร่วมกันทลายแก๊งนี้


ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ร่วมกับ พล.ต.ท.เสียง เทีย ริต รองผู้อำนวยการ กองบัญชาการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติกัมพูชา รวมถึง นายตำรวจจากหลายหน่วยงานของกัมพูชา ร่วมกันติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่หลบหนีอยู่ในกัมพูชาได้เพิ่มอีก 4 คน


1.นายสุพล วงเวียน อายุ 21 ปี ทำหน้าที่ หัวหน้าคนไทยควบคุมพนักงานคอลเซ็นเตอร์ฝั่งกัมพูชา และจัดหาบัญชีธนาคารของผู้อื่น (บัญชีม้า)

2.น.ส.นิศารัตน์ สุขเกษม อายุ 22 ปี ทำหน้าที่ พนักงานในคอลเซ็นเตอร์

3.น.ส.กนกพร ไกรสุข อายุ 19 ปี ทำหน้าที่ พนักงานในคอลเซ็นเตอร์

4.น.ส.กรกนก สิงทิศ อายุ 19 ปี ทำหน้าที่ พนักงานในคอลเซ็นเตอร์


ในข้อกล่าวหา คือ "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" และได้ตรวจยึดของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ, บัตร ATM, สมุดบัญชีธนาคาร และอื่นๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 100 รายการ และเงินสดจำนวนกว่า 240,000 บาท


สำหรับคดีนี้ได้ออกหมายผู้ต้องหาไปแล้วทั้งสิ้น 30 หมายจับ /สามารถจับกุมได้ 16 ราย แบ่งหน้าที่กันชัดเจน ทั้งกลุ่มเจ้าของบัญชีม้ารับโอนเงิน ,กลุ่มผู้ถอนเงิน ,กลุ่มจัดหาบัญชีม้า กลุ่มพนักงานในคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งอยู่ในกัมพูชาและกลุ่มชาวจีน ผู้ควบคุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อยู่ในกัมพูชาเช่นกัน


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับคดีที่เกิดกับครอบครัวนายสาณิช ในสภ.บางแก้ว จากการขยายผล ตั้งแต่บัญชีม้าจนถึงหัวหน้าขบวนการชาวจีนมีมากถึง 30 ราย โดยจับกุมแล้ว 12 ราย และสืบทราบว่ากลุ่มเหล่านี้ตั้งออฟฟิซอยู่ที่ปอยเปต กัมพูชา จึงได้ประสานงานกับ พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.กัมพูชา เพื่อทลายจุดคอลเซ็นเตอร์นี้


กระทั่งวันนี้ ตำรวจกัมพูชา สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้เพิ่มเติมอีก 4 ราย ซึ่งทำหน้าที่โทรหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงิน โดยจะนำตัวกลับไทยเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/3Y7sEftKTzk