'เศรษฐา' นั่งรถไฟลุย อุดรฯ-หนองคาย ถกโครงการรถไฟรางคู่ พัฒนาส่งออกไทย

นายกรัฐมนตรี เตรียมผลักดันหลายโครงการเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-ลาว เชื่อมต่อการค้าไปจีน พอใจการลงพื้นที่ 3 จังหวัดภาคอีสาน ก่อนจะเริ่มประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เริ่มที่ัจังหวัดหนองบัวลำภู คาดว่าจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ติดตามรายงานจากคุณฐปณีย์ เอียดศรีไชย



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เริ่มต้นภารกิจที่จังหวัดอุดรธานี ด้วยการเดินเยี่ยมชมตลาดเกษตรที่ให้เกษตรกรนำผลผลิตมาขายโดยตรง ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมลงพื้นที่พร้อมผลักดันราคาสินค้าเกษตรให้ดีขึ้น



ไฮไลต์วันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นายเศรษฐา ได้นั่งรถไฟจากสถานีอุดรธานีไปยังสถานีหนองคาย ร่วมกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมผลักดันโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 จากจังหวัดขอนแก่นมายังจังหวัดหนองคาย เชื่อมต่อการขนส่งไปยังลาวและจีนผ่านรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะเพิ่มช่องทางการขนส่งสินค้าไปยังจีนด้วย



ขบวนรถไฟของนายกรัฐมนตรีและคณะได้จอดที่สถานีนาทา เพื่อรับฟังข้อเสนอโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เสนอปรับพื้นที่รองรับตู้คอนเทนเนอร์ส่งออกสิ้นค้า ลดต้นทุนการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือแหลมฉบังและท่่าเรือคลองเตยได้มาก รวมถึงการสร้างรถไฟทางคู่ และศูนย์ one stop service รวมศูนย์ศุลกากรและทุกหน่วยงานอำนายความสะดวกในการส่งออก รวมถึงการปรับปรุงสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-ลาว รองรับการบรรทุกสินค้า เชื่อว่าจะเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้อีกมาก



ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำในการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ด่านพรมแดนหนองคาย ตั้งเป้าให้เกิดการขยายเส้นทางการค้าที่สำคัญ



นายกรัฐมนตรียังได้ไป สักการะ หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย และ พระพุทธรูปหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองหนองคาย รวมถึงนมัสการ พระเทพวชิรคุณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย ที่ให้พรให้นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีไปนานๆ



หลังจากนั้นนายกได้ไปเยี่ยมชมตลาดผ้านาข่า ผ้าพื้นเมืองของจังหวัดอุดรธานี ที่ประสปความสำเร็จในการขายสินค้าพื้นเมืองและการค้าออนไลน์ ที่น่าส่งเสริม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สนับสนุนซื้อผ้าไหม เพื่อใช้ใส่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย



ซึ่งนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวคิดจะประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ โดยเริ่มที่จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นที่แรก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย คาดว่าจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้



นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำถึงการเข้มงวดในการใช้งบประมาณเพราะเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมีวินัยการเงินและการคลัง จึงอยากให้ส่วนราขการต่างๆคำนึงถึงการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงที่ตำหนิการเพิ่มงบงานมหกรรมพืชสวนโลก ก็หวังว่าจะเข้าใจ



นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าการลงพื้นที่ภาคอีสานหลังได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรู้สึกอบอุ่นมากกว่าช่วงหาเสียง ขอบคุณประชาชนที่ให้การต้อนรับ โดยสัแดาห์หน้าจะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเดินทางไปร่วมประชุม UN ที่สหรัฐอเมริกา และในวันพรุ่งนี้จะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องนโยบายยาเสพติด โดยจะใช้บ้านพิษณุโลก บ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการประชุมเป็นครั้งแรก