'บิ๊กโจ๊ก' ยันหลักฐานแน่น 'กำนันนก' สั่งลูกน้องยิง พร้อมขอหมายจับ 4 ตร. เอี่ยวช่วยทำลายหลักฐาน

ขอหมายจับ 4 ตำรวจ เอี่ยวช่วยทำลายหลักฐานยิงตร.ทางหลวง ระดมพนักงานสอบสวน เร่งสอบปากคำ 25 ตำรวจ ร่วมงานเลี้ยง



ตำรวจจ่อออกหมายจับ 4 ตำรวจร่วมงานเลี้ยงกำนันนก มีเอี่ยวช่วยทำลายพยานหลักฐาน ขณะที่บิ๊กโจ๊กยันมีตำรวจร่วมกระทำผิดอย่างแน่นอน พร้อมย้ำหลักฐานมัดแน่นกำนันนก คือคนสั่งให้ลูกน้องยิงสารวัตรทางหลวง



พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจค้นบ้านพักของกำนันนก จุดเกิดเหตุ และออฟฟิศ สามารถแยกกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องได้แล้ว 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ช่วยเหลือในการถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด กลุ่มที่ช่วยเหลือพาผู้ก่อเหตุหลบหนี และกลุ่มที่แยกย้ายกันออกจากจุดเกิดเหตุทันที



ซึ่งตอนนี้มีข้อมูลจากการสืบสวนค่อนข้างครบแล้ว ดังนั้น หากตำรวจทั้ง 25 นาย จะให้การ ไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ซึ่งหากพบว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือผู้ก่อเหตุหนีและทำลายพยานหลักฐานก็จะขออนุมัติหมายจับต่อศาล ซึ่งตอนนี้สามารถสรุปได้ชัดแล้วว่า มีตำรวจให้การช่วยเหลือแน่นอน แต่เป็นใครบ้างอยู่ระหว่างการรอสรุปข้อมูล



สำหรับประเด็นที่ว่า กำนันนก เป็นผู้สั่งให้นายหน่อง ก่อเหตุยิงจริงหรือไม่นั้น ขณะนี้มีพยานหลักฐานในชั้นพนักงานสอบสวนที่สามารถยืนยันได้ชัดเจนแล้วว่า คนสั่งยิง คือ กำนันนก หลังจากนี้ จะมีการไล่ข้อมูลทั้งหมด เพื่อขยายผลต่อว่าใครที่เป็นเครือข่ายของกำนันนกบ้าง เพื่อถอนรากถอนโคนให้สิ้นซาก



ทั้งนี้ตลอดทั้งวันมีรายงานว่า พนักงานสอบสวนเตรียมออหมายจับตำรวจ ที่อยู่ในงานเลี้ยงของกำนันนกในวันเกิดเหตุ จำนวน 4 นาย โดยมีทั้งสัญญาบัตรและชั้นประทวน ซึ่งทั้งหมดมีส่วนร่วมในการช่วยกำนันนกและนายหน่องทำลายหลักฐานทางคดี และช่วยในการหลบหนี ซึ่งทีมข่าวพยายามตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แต่ยังไม่ได้รับการเปิดเผยแต่อย่างใด



พร้อมระดมพนักงานสอบสวน เร่งสอบปากคำ 25 ตำรวจ ร่วมงานเลี้ยงบ้าน "กำนันนก" รวมถึง เมียหน่อง ขณะที่คนงานปิดปากเงียบ



ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมเสสะเวช อาคารกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 มีการประชุมคณะทำงานเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และทำการสอบปากคำตำรวจ 25 นาย รวมถึงพลเรือน ที่อยู่ภายในงานเลี้ยงสังสรรค์บ้านกำนันนก เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการเตรียมพนักงานสอบสวนไว้กว่า 50 นาย เพื่อสอบปากคำ มีทั้งตำรวจสอบสวนกลาง ทีมสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 7 และทีมของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.



ขณะที่ห้องวงศ์ปิ่น ใช้เป็นห้องสอบสวนพยานพลเรือน ซึ่งก็มีบุคคลที่มาร่วมงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ทยอยเดินทางเข้ามาสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ รวมถึงภรรยาของนายหน่อง มือปืน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้ปล่อยตัวภรรยาของนายหน่อง สอบถามเบื้องต้นทราบว่า มาให้ข้อมูลหลังจากมีสายข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเหตุนั้น น.ส.วัฒนิกา อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่ง น.ส.วัฒนิกา ยังยืนยันคำเดิมว่า ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุอย่างที่กล่าวอ้าง และไม่รู้ไม่เห็นใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับงานเลี้ยงสังสรรค์ จากนั้นได้เดินทางขึ้นรถกลับไป



ส่วนคนงานชายของกำนันนก จำนวน 3 คน ที่ทำงานอยู่ภายในบ้านกำนันนกนั้น เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาสอบปากคำ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่มีใครให้ข้อมูลอะไรกับผู้สื่อข่าว



ต่อมาช่วงบ่าย พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผู้กำกับการ ตม.จันทบุรี ซึ่งเป็น 1 ในชุดทำงาน กล่าวว่า ได้เชิญตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ 23 นาย มาให้ข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีการแยกการทำงานและพิจารณาตามความสำคัญ ซึ่งจะเร่งสอบสวนให้ครอบคลุมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุนั้น มีการร่วมกันกระทำความผิดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่



ส่วนเรื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกถอดออกไปนั้นอยู่ระหว่างการทำงาน ยังไม่พบว่าใครเป็นผู้ถอดไป ขณะที่คนงานในบ้านของกำนันนก จำนวน 3 คน ที่ถูกเชิญตัวมาสอบปากคำ อยู่ระหว่างการสอบสวนเช่นกัน ที่สามารถบอกได้คือ ถือว่าให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก ตอนนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ส่วนเรื่องที่มีการกล่าวถึงว่า ภายหลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย พาผู้บาดเจ็บ ไปส่งโรงพยาบาล แต่ทั้งนี้จะต้องพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ จะต้องมีการสอบสวนให้ชัดเจน แน่ชัดเพื่อดูพฤติกรรมต่างๆ ว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่มีการสอบสวนอยู่นั้น เค ร้อยล้าน ได้เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตำรวจทั้ง 21 นาย ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุตำรวจทั้ง 21 นายไม่ผิด เพราะต้องช่วยชีวิตสารวัตรแบงก์ผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน ไม่ใช่จับกุมคนร้าย ก่อนจะถูกตำรวจควบคุมตัวออกไปทันที

เพราะเกรงว่าจะก่อความวุ่นวาย

https://youtu.be/k88pccF0fyg