แกะรอยเส้นทางหนีของ 'หน่อง' ก่อนถูกวิสามัญ 'รองต่อ' ยันเป็นตามยุทธวิธี เหตุผตห.ยิงสู้

สำหรับเส้นทางหลบหนีของหน่อง ตำรวจใช้วิธีปล่อยข่าวลวงว่ามือปืนยิงขับรถหลบหนีลงใต้ ขณะที่ทีมสืบสวน เกาะติดในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และกาญจนบุรี เพราะพบความเคลื่อนไหวต่อเนื่องจนเจอตัวพยายามเจรจาให้มอบตัว แต่ไม่ยอม ก่อนจะยิงสู้เปิดทางหนี



จากแนวทางการสืบสวนของตำรวจพบว่า คืนวันที่ 6 กันยา หน่อง หลังจากยิงสารวัตรศิว ที่งานเลี้ยงหน้าที่ทำการกำนันนกแล้ว กำนันนก และนายหน่อง ได้แยกการหลบหนีจากที่เกิดเหตุ โดยใช้รถคนละคัน ซึ่ง กำนันนกใช้รถยนต์ ส่วนนายหน่องใช้รถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ทั้งคู่ขับรถไปแยกกันที่ช่วงอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดย กำนันนก ได้เดินทางไปพบทนายความ ส่วนนายหน่องได้เดินทางกลับไปที่บ้านที่จังหวัดราชบุรี และได้บอกกับแม่และภรรยาว่า เขาไปก่อเหตุฆ่าคนมา



จากนั้น ก็เก็บเสื้อผ้าเดินทางออกจากบ้านช่วงกลางดึก มุ่งหน้าไปที่จังหวัดกาญจนบุรี เพราะมีความชำนาญและคุ้นเคยกับพื้นที่



ระหว่างนั้นตำรวจปล่อยข่าวลวงว่า นายหน่อง ขับรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า สีเทา ไปตามถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าภาคใต้ พร้อมระบุว่า เป็นรถต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นของคนร้ายขับหลบหนี เพื่อเบี่ยงประเด็นให้คนร้ายตายใจ แต่ในทางกลับกัน ตำรวจมีข้อมูลชัดเจนว่า คนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง จึงนำกำลังกระจายอยู่ในพื้นที่เป้าหมาย ที่คาดว่าจะเป็นที่หลบซ่อน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเพื่อน บ้านคนสนิท รวมทั้งรีสอร์ท และสถานที่พักต่าง ๆ



จากการเฝ้าติดตามตลอดทั้งวันนายหน่อง ได้โทรศัพท์โทรกลับมาหาครอบครัวตลอด แต่ใช้วิธีเปลี่ยนเบอร์มือถือ เพื่อให้ยากแก่การติดตาม แต่สุดท้ายตำรวจก็รู้พิกัดที่ชัดเจน



และนี่คือกล้องวงจรปิดตอนประมาณตี 3 จะเห็นรถกระบะของนายหน่องเลี้ยวซ้ายเข้ามาที่โรงเจร้าง ในพื้นที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดกาญจนบุรี และจอดนอนอยู่ที่นี่จนรุ่งสางตำรวจตามมาเจอ จึงนำกำลังแสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายหน่องยิงต่อสู้ ทำให้ถูกวิสามัญฆาตกรรม



พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุวิสามัญ พร้อมเปิดเผยว่า ขณะตำรวจชุดไล่ล่า 4 นาย ตามมาเจอนายหน่อง ก็ตะโกนให้ออกมามอบตัว แต่นายหน่อง กลับลงจากรถมาพร้อมอาวุธปืน และยิงใส่ตำรวจ 2 นัด ทำให้ตำรวจกระโดดหาบังเกอร์หลบกระสุน และยิงสวนไปที่นายหน่อง 4 นัด กระสุนเข้าบริเวณลำคอ 1 นัดและหน้าอก 1 นัด ข้างลำตัว 1 นัด อีกนัดยิงไม่โดน เสียชีวิตคาที่ ยืนยันตำรวจไม่ได้แก้แค้น แต่ทำไปตามยุทธวิธี



ล่าสุดร่างของนายหน่อง ถูกส่งมายังสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อผ่าชันสูตรศพตามขั้นตอนของกฎหมาย หาสาเหตุการตายที่แท้จริง โดยคาดว่า จะมีการรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดหนองกบ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.)



โดยญาติเล่าว่า ไม่เคยเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของนายหน่อง ถึงจะอยู่บริเวณรั้วบ้านเดียวกันมานานกว่า 10 ปี แต่ยืนยันว่า นายหน่อง ไม่ใช่คนดื่มสุรา มีนิสัยดี โดยปกติมีการทักทายกันตามประสาคนรู้จัก จึงมองว่า เป็นไปไม่ได้ที่นายหน่องจะดื่มสุราในวันเกิดเหตุ ส่วนการเสียชีวิตจากการวิสามัญของตำรวจ ทางครอบครัวไม่ติดใจ เพราะหลังจากเกิดเหตุ คิดไว้แล้วว่าจะเป็นไปในลักษณะนี้ เนื่องจาก ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่นายหน่อง ฆ่าตำรวจ



ด้านพลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มาประชุมร่วมกับตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี เพื่อวางแนวทางการสืบสวน-สอบสวน เบื้องต้นตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานรายงานรายละเอียดทั้งหมดว่า ที่เกิดเหตุพบพยานหลักฐานใดบ้าง และในขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะส่งไปเปรียบเทียบต่าง ๆ ว่าอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ในการยิงต่อสู้ตำรวจ เคยใช้ก่อเหตุในคดีอื่นอีกหรือไม่ รวมถึงขยายผลผู้ให้การช่วยเหลือหลบหนี



ในส่วนเจ้าที่ตำรวจ 21 คน ที่อยู่ในงานก่อนเกิดนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเท็จจริงทั้งหมด ว่า ณ วันเกิดเหตุ เจ้าที่ตำรวจภาค 7 มีใครอยู่ในบริเวณจุดดังกล่าวบ้าง และถ้าหากว่ามีการพบกระทำความผิดก็จะมีการลงโทษตามกฎระเบียบต่อไป



ล่าสุดมีรายงานว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมเซ็นคำสั่งโยกย้ายนายตำรวจยศ "พลตำรวจตรี" ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. หลังพบพฤติกรรมเคยไปร่วมงานวันเกิดกำนันนก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/5s8bjKnaytE