'ก้าวไกล' โวยถูกรุมกินโต๊ะในวงถกแบ่ง กมธ. ส่วนเรื่องผู้นำฝ่ายค้าน รอศาลฯ ชี้ขาดคุณสมบัติ 'พิธา' ก่อน

สำหรับความเคลื่อนไหวในฝั่งของพรรคก้าวไกลวันนี้ วิปพรรคก้าวไกลออกมาเปิดเผยว่าถูกรุมกินโต๊ะจากฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลในการแบ่งคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ส่วนเรื่องตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน เลขาธิการพรรคก้าวไกลขอให้รอศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดคุณสมบัตินายพิธาก่อน



นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์เรื่องตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน หลังจากนายปิยบุตร แสงกนกกุล ออกมาโพสต์ว่ายังไม่มีผู้ใดมีคุณสมบัติเลย โดยนายชัยธวัช กล่าวว่าเบื้องต้นเป็นไปตามนั้น และได้มีการหารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ นอกรอบ ก็เห็นตรงกันว่า หากดูตามรัฐธรรมนูญจะไม่มีการไหลไปพรรคลำดับรอง เพราะจะกลายเป็นไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำฝ่ายค้าน



ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ประธานสภาฯ เห็นตรงกันว่าตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน จะยังไม่มีการไหลไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช บอกว่า หากพรรคประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคเป็น สส.ก็จะมีคุณสมบัติ แต่หากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เป็น สส.ก็จะไม่ไหลไปพรรคอันดับรอง เพราะถือว่าเป็นคุณสมบัติของผู้นำฝ่ายค้าน และพรรคก้าวไกลรอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์



นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปพรรคก้าวไกล เปิดเผยความคืบหน้าการเจรจาเก้าอี้กรรมาธิการว่าในปี 2562 มีกติกาคือพรรคที่ได้เสียงมาเป็นอันดับแรก ก็จะเลือก กมธ.ก่อน และจะวนกัน ก็หมายความว่า พรรคใหญ่ก็จะได้เปรียบในการในการเลือกก่อน สุดท้ายทุกคนก็ไม่ได้ทุกอย่าง และก็ไม่ได้เสียทุกอย่าง และทุกอย่างก็จะเป็นไปอย่างราบรื่น



แต่พอมาครั้งนี้ มีการเสนอกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า ให้แต่ละพรรคเลือกมาก่อน หากอันไหนที่ซ้ำกันค่อยมาตกลงเจรจา ซึ่งพรรครัฐบาลต้องการจะเป็นประธาน กมธ.ที่เกี่ยวเนื่องกับที่เป็นเจ้ากระทรวง ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องเลือก กมธ.ซ้ำกัน



ขณะที่พรรคใหญ่ของฝ่ายค้าน คือ พรรคก้าวไกลก็จะซ้ำเยอะที่สุด เพราะฉะนั้นการโยนมาว่า ปัญหาคือพรรคก้าวไกลไปเลือกซ้ำกับคนอื่น แบบนี้ไม่แฟร์กับพรรคก้าวไกลเท่าไหร่



นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า การกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลไม่ถอย ก็ต้องถามกลับว่า แล้วพรรคที่เป็นเจ้ากระทรวง ไม่ถอยเพื่อให้ตรวจสอบบ้างเลยหรือ และย้ำว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเหมือนเป็นการรุมกินโต๊ะพรรคก้าวไกล และถ้าหากพรรคก้าวไกลไม่ยอม ก็ จะกลายเป็นคนดื้อหรือไม่ หรือจริงๆ แล้ว 3-4 พรรคนั้น ไม่ถอยให้พรรคก้าวไกลสักก้าว



ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำหรับกรรมาธิการชุดสำคัญที่การประชุมเมื่อวานยังไม่สามารถตกลงกันได้ มี 6 คณะ ทำให้ยังไม่สามารถแบ่งคณะกรรมาธิการชุดที่เหลือได้ ประกอบด้วย



1.คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน พรรคก้าวไกลและเพื่อไทยอยากได้

2.คณะกรรมาธิการการคมนาคม พรรคก้าวไกลและพรรคประชาชาติอยากได้

3.คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ พรรคพลังประชารัฐและพรรคก้าวไกลอยากได้ ซึ่งรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงเกษตรฯ คือ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า จากพรรคพลังประชารัฐ

4.คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยอยากได้

5.คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พรรคก้าวไกลและพรรคพลังประชารัฐอยากได้ ซึ่งรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงทรัพย์ฯ คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ

6.คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามบริหารงบประมาณ ซึ่งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยอยากได้



ล่าสุด ทางพรรคก้าวไกล บอกว่าที่ตกลงได้แล้ว คือ กมธ.ติดตามงบประมาณ แต่ กมธ.อีกคณะที่ก้าวไกลอยากได้ แต่ยังตกลงไม่ได้ คือ กมธ. ป.ป.ช. เนื่องจากพรรคเพื่อไทยก็ต้องการ