เศรษฐกิจ

สาวกู้เงินออนไลน์ 18 เจ้า ทบต้นทบดอก หนี้พุ่งกว่า 2.6 ล้าน จ่ายไม่ไหว ดอกเบี้ยวันละแสน

โดย thichaphat_d

5 ก.ย. 2566

4K views

เตือนภัยอย่าหลงเชื่อ แม่ค้าสาวที่นครพนมตกเป็นเหยื่อ แก๊งเงินกู้ออนไลน์ หวังนำเงินมาลงทุนค้าขาย สุดท้ายจ่ายไม่ไหว ถูกขูดรีดดอกเบี้ย รวมค่าปรับ ทบต้นรวมดอกกว่า 2.6 ล้านบาท ในห้วง 2-3 เดือน จากรับเงินจริงแค่ 5 แสนบาท สุดท้ายรวมต้องจ่ายต้นดอกวันละนับแสนบาท รับภาระไม่ไหว ถูกแก๊งนายทุนเงินกู้ออนไลน์ คุกคาม ข่มขู่สารพัด โร่แจ้งความตำรวจ กลัวถูกทำร้าย ยันไม่มีเจตนาเบี้ยว ยอมรับตกเป็นเหยื่อเพราะหวังนำเงินมาลงทุน เตือนอย่าหลงเชื่อ วอนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ช่วยเหลือ ขอจ่ายหนี้ตามจริง

เมื่อวันที่ 4 กันายายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ได้มีแม่ค้าสาวอายุ 26 ชาว อ.ปลาปาก จ.นครพนม ออกมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ พร้อมสะท้อนเตือนภัยสังคม กรณีหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินกู้นอกระบบ ในรูปแบบออนไลน์ หลังตกงาน หวังหาเงินมาลงทุนค้าขาย จึงพบเห็นมีการเปิดให้กู้ผ่านระบบออนไลน์ แอปพลิเคชั่นไลน์ จึงทดลองเข้าไปทักแชท สอบถามรายละเอียดพูดคุย ก่อนแจ้งข้อมูลเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงที่อยู่หมายเลขโทรศัพท์มือถือ พร้อมได้รับอนุมัติวงเงินกู้ งวดแรก จำนวน 30,000 บาท แต่ถูกหักดอกเบี้ยล่วงหน้า 10,000 บาท รับเงินจริง แค่ 20,000 บาท เงื่อนไขส่งคืนเต็ม 30,000 บาท ในเวลา 7 วัน แต่งวดแรกหาเงินส่งคืนทัน



ต่อมางวดที่สอง จึงได้รับอนุมัติวงเงินกู้เพิ่ม เป็นเงิน 50,000 บาท หักดอกเบี้ยล่วงหน้าตามเดิม รับเงินจริง จำนวน 32,000 บาท กำหนดจ่ายเงินคืนภายใน 7 วัน จากนั้นเกิดปัญหาสภาพคล่อง นำเงินไปค้าขาย ไม่สามารถส่งคืนได้ตามกำหนด จึงตัดสินใจไปกู้ผ่านระบบออนไลน์เจ้าอื่น เพื่อหมุนเวียนในรอบ 2-3 เดือน ไม่ทราบมาก่อนว่าหากเลยกำหนดชำระ จะถูกเรียกทั้งดอกเบี้ย รวมถึงค่าปรับล่าช้า อีกหลาย 10 เท่า จนกระทั่งเกิดปัญหาทับถม ทั้งต้นทั้งดอกจากการกู้ออนไลน์ รวม 18 เจ้า เป็นหนี้ทั้งต้นทั้งดอก รวม 2.6 ล้านบาท ถูกติดตามให้ชำระต้นรวมดอกวันละประมาณ 1.5 แสนบาท แต่ไม่ไหว ทำให้ถูกคุกคามข่มขู่ทุกรูปแบบ พร้อมโพสต์ประจาน เชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ จึงเกรงจะเกิดอันตรายกับตน และครอบครัว

เบื้องต้นจึงได้เข้าแจ้งความเป็นหลักฐานกับ พนักงานสอบสวน สภ.ปลาปาก เพื่อพิจารณาดำเนินคดีในส่วนที่มีความผิดเกี่ยวกับการทวงหนี้ รวมถึงออกมาร้องทุกข์ผ่านสื่อ สะท้อนปัญหาไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง เตือนภัยสังคม เรียกร้องให้ภาครัฐปราบปรามจริงจัง โดยยืนยันไม่มีเจตนาเบี้ยวหนี้ แต่พร้อมที่จะชำระหนี้ตามกฎหมาย และดอกเบี้ยตามความเป็นจริง



แม่ค้าผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ยืนยันไม่มีเจตนาจะเบี้ยวหนี้ แต่เริ่มแรกต้องการนำเงินมาลงทุนค้าขาย เพราะตกงาน จึงทดลองกู้ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อ ไม่คิดว่าจะได้จริง จึงทำการกู้รอบแรก และมีการชำระคืน จนได้วงเงินเพิ่ม อีกเท่าตัว จากนั้นมีข้อพิรุธว่า จะมีนายทุนเงินกู้นอกระบบออนไลน์ อีกจำนวนมาก เข้ามาทักแชท ผ่านไลน์ ชักชวนให้กู้ยืม ส่วนใหญ่จะเป็นไลน์อวตารไม่มีตัวตน ตนจึงหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ มารู้ทีหลังว่าเป็นนายทุนคนเดียวกัน แต่ทำงานเป็นทีม ยอมรับหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเพราะคิดง่าย ปัจจุบันเป็นหนี้ทบต้นดอก และรวมค่าปรับล่าช้า รวม 2.6 ล้านบาท ถูกข่มขู่ให้ผ่อนชำระวันละ ประมาณ 1.5 แสนบาท ทั้งที่รับเงินจริงแค่ 4-5 แสนบาท สุดท้ายไม่มีความสามารถที่จะจ่ายไหว ทำให้ถูกข่มขู่คุกคามจะทำร้ายทุกรูปแบบ

จึงต้องออกมาขอความช่วยเหลือจากทางภาครัฐหน่วยงานตำรวจ และสะท้อนปัญหาผ่านสื่อ เตือนภัยสังคม และเรียกร้องให้ปราบปรามขบวนการปล่อยเงินกู้ออนไลน์ อย่างจริงจัง โดยพร้อมที่จะชดใช้หนี้ตามกฎหมาย เป็นยอดเงินตามจริงที่รับเงินมา แต่หากถูกข่มขู่คุกคาม ทวงหนี้ผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินคดีเช่นกัน ปัจจุบันยังมีการโทรมาข่มขู่คุกคามทุกวัน และยืนยันคำเดียวจะให้ชำระหนี้คืนทั้งหมด ไม่ให้ผ่อนชำระ ไม่มีส่วนลด

คุณอาจสนใจ

Related News