สังคม

ยึดทรัพย์ทุนจีนเทา หอบเงินกว่าพันล้านซื้ออสังหาฯ-ตั้งนอมินีเปิดบริษัท ฟอกเงินในไทย

โดย panwilai_c

31 ส.ค. 2566

158 views

ตำรวจสอบสวนกลางปฏิบัติการยึดทรัพย์ นายทุนแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งฟอกเงิน โดยสืบสวนจากผู้เสียหาย 1 คน สูญเงิน 13 ล้านบาท แต่เส้นทางการเงินที่โอนเข้ามามากกว่า 30 ทอด ร่วมกว่า 1,000 ล้านบาท ทำให้พบเงินของผู้เสียหายรายอื่นๆจำนวนมาก ถูกนำมาฟอกเป็นบ้านหลังละกว่า 50 ล้านบาท 17 หลัง และรถหรูอีก 12 คัน ส่วนนายทุนชาวจีนทราบชื่อและได้ออกหมายจับแล้ว โดยประวัติเป็นที่ต้องการของรัฐบาลจีนด้วย



ผู้เห็นพฤติกรรมแก๊งคอลเซนเตอร์คนจีน ที่อยู่ในหมู่บ้านหรู ที่นายทุนแก๊งคอลเซนเตอร์ชาวจีนกว้านซื้อทั้งหมู่บ้าน มีแก๊งหิ้วกระเป๋าบรรจุเงินมาส่งที่หมู่บ้านทุกวัน



แม้ผู้ต้องหา จากหมายจับจำนวน 9ราย จาก 14 หมายจับ ปฏิเสธ ไม่รู้ไม่เห็น แต่จากหลักฐาน ที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดย ปอท. ใช้เวลาสืบสวนนานเกือบปี จนหลักฐานที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศ มาประติดประต่อเห็นเส้นเงินที่เชื่อมถึงกันในแถวสุดท้าย เข้าสู่หัวหน้าใหญ่ชาวจีน



จากการสืบสวนพบ ระดับนายทุน ไม่รับเงินที่โอนมาแถวแรกที่เห็นเส้นเงินชัดโดยง่าย แต่แถวแรกของแก๊งคอลเซนเตอร์ แก๊งนี้แยบยลด้วยการ ให้หญิงไทย ที่ชาวจีน จ้างไว้ หรือมีความสนิทส่วนตัว เช่น นส.กีกี้ แม็กซิม มาเปิดกระเป๋าตังค์อิเล็กทรอนิกส์ หรือกระเป๋าwallet ให้ไหยื่อที่หลอกลงทุน โอนเข้ามา และทำการเปลี่ยนเป็นเหรียญคอยน์ในสกุลเงินดิจิทัล เมื่อเงินลอยอยู่ในอากาศ ก็ยากจะสืบถึง ก่อนจะแปลงเป็นเงินบาท แต่หากนำออกมาใช้ทันทีจะเห็นเส้นเงินได้ นอกจากจะหลอกเหยื่อคนไทยแล้วซ้ำเติมด้วยการเใช้ไทยเป็นแหล่งฟอกเงินอีกรอบ แผนการจดทะเบียนตั้งบริษัทขึ้นมา 6บริษัท มีผู้ถือหุ้นเป็นจีน และไทยเป็นนอมินิ หน้าฉากสวยงามอ้างขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ขายเครื่องสำอางค์ แต่เบื้องหลังฟอกเงินกันอย่างมโหฬาร มหาศาลเพราะ มีบริษัทกฎหมายร่วมด้วย



พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บั้ญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า จากการถือครองทรัพย์สิน โดยจัดตั้งบริษัทขึ้นมาถือหุ้นคนจีน 1 คนและคนไทย 3 คน เพื่อให้ซื้อทรัพย์สินได้ การสอบเส้นทางเงินไปถึงตัวการใหญ่นายทุนแก๊งคอลเซนเตอร์ จนพบว่า ทางการจีนก็ต้องการตัวเช่นเดียวกัน เชื่อว่าการจับถึงตัวการใหญ่จะตัดวงจรไปได้มาก



ส่วนอัยการระบุว่า เป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติร้ายแรง อัยการจะร่วมสอบสวนและสั่งฟ้อง หากมีบริษัทช่วยเหลือทางกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องจะตรวจสอบว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่



ผลปฏิบัติการจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 คน จาก 14 หมาย เป็นคนจีน 2 คน ที่เหลือเป็นไทย และพม่า โดยแบ่งเป็นกลุ่มนายทุน กลุ่มทำหน้าที่หลอกลวง กลุ่มนายหน้าหาบัญชีม้า กลุ่มบัญชีม้า และกลุ่มฟอกเงิน

คุณอาจสนใจ

Related News