วงการสีกากีฉาวอีก! ตร.เรียก 5 แสน ค่าทำคดีรถชนสามีดับ ล่าสุดผู้การโคราชสั่งสอบแล้ว

เมียผู้เสียชีวิตร้องสื่อ ผัวถูกรถชนตายได้เงินชดเชย 1 ล้าน ถูกตำรวจเรียกเงินค่าทำคดี 5 แสน ปรึกษาทนายกลับถูกเรียกอีก 105,000 บาท ล่าสุดผู้การโคราชสั่งสอบแล้ว เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นางอารยา อายุ 50 ปี ลูกจ้างร้านวัสดุก่อสร้าง ที่อำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเดือนกันยายน 2565 สามีขี่มอเตอร์ไซค์แล้วถูกกระบะชนเสียชีวิต ศาลตัดสินให้คนขับกระบะต้องชดใช้เงินสินไหมให้เป็นเงิน 1,000,000 บาท แต่กลับถูกพนักงานสอบสวน สภ.ขามทะเลสอ ยศพันตำรวจโท ซึ่งเป็นเจ้าของคดี เรียกเงินค่าทำคดี 500,000 บาท โดยพยายามเรียกเงินทุกครั้งที่เรียกไปสอบปากคำ

นางอารยาจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาทนายความคนหนึ่ง หวังจะขอความช่วยเหลือ ทนายความก็ไปช่วยเจรจากับพันตำรวจโท ต่อรองลดราคากัน สุดท้ายตกลงราคาค่าทำคดีอยู่ที่ 200,000 บาท ส่วนทนายความมาเรียกเงินค่าดำเนินการจากเธอ 100,000 บาท บวกค่าน้ำมันอีก 5,000 บาท

กระทั่งวันที่ 25 ตุลาคม 2565 นางอารยาได้รับเช็คค่าสินไหม 1,000,000 บาทจากธนาคาร ตำรวจยศพันตำรวจโท และทนายความ ก็รีบขับรถตามไปที่ธนาคารเพื่อทวงเงิน เธอได้ยกมือไหว้ขอความเห็นใจจากพันตำรวจโทว่า อย่าเอาเงินก้อนนี้ไปเลย ขอให้เธอนำไปรักษาอาการป่วยเรื้อรัง และดูแลลูกๆ อีก 2 คนเถอะ เพราะครอบครัวสูญเสียเสาหลักไปแล้ว แต่พันตำรวจโทไม่ยอม ยืนยันว่าจะต้องได้เงิน 200,000 บาท

สุดท้ายจึงต้องยอมให้เงินไป โดยจ่ายใส่ซองกระดาษสีน้ำตาล ให้กับลูกน้องพันตำรวจโท และต้องจ่ายเงินสดให้ทนายความไปอีก 105,000 บาท รวมเป็นเงินที่เสียไป 305,000 บาท

ตอนนั้นนางอารยาไม่กล้าเปิดเผยเรื่องราวนี้ เพราะไม่มีความรู้ทางกฎหมาย จนมีคนมาแนะนำให้รวบรวมพยานหลักฐานมาต่อสู้ เพื่อเรียกเงินที่ไม่ควรจะต้องจ่ายให้กับตำรวจและทนายความคืนมา จึงเอาหลักฐานต่างๆ มาร้องเรียนกับสื่อมวลชน หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม

สำหรับทนายความคนดังกล่าว ปัจจุบันทำงานอยู่ที่จังหวัดหนองคาย ส่วนพันตำรวจโท เจ้าของคดี ถูกย้ายจาก สภ.ขามทะเลสอ ไปประจำอยู่ สภ.โนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ในตำแหน่งสารวัตรสอบสวน ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปทางโทรศัพท์มือถือ ของนายตำรวจคนดังกล่าวแล้วหลายครั้ง แต่เจ้าตัวไม่ยอมรับสาย

ล่าสุดวันนี้ (31 ส.ค.) พลตำรวจตรี อิทธิพล นาคคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งอาจเข้าข่ายฐานความผิดมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยได้มอบหมายให้ พันตำรวจเอก มารุต เรืองจินตนา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมเร่งการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน เพราะหากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ถือเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สร้างความเสียหายต่อองค์กร และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และเอาผิดทางวินัยให้ถึงที่สุด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/kVC3I_bPjg4