อาชญากรรม

แถลงรวบ “ขช.” หนีศาล เผยพฤติกรรมไม่วายแวะเอายาบ้า

โดย attayuth_b

26 เม.ย. 2567

253 views

ผู้ต้องขังหนีศาล แต่ยังไม่วายแวะเอายาบ้า 14,000 เม็ด  ตกใจตำรวจบุกรวบคารีสอร์ท เร่งทิ้งชักโครกทำลายหลักฐาน แต่ปรากฏยาบ้าเยอะเกิน เลยไม่ทัน เหลืออีก 8,000 เม็ด

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 26 เมษายน 2567 ที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น นายจักร ลิ่มบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น นายปิยวัฒน์ กองสุราษฏร์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม น.ช.รัชพล เขียนนอก อายุ 35 ปี นักโทษคดียาเสพติด ที่หลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลและปีนประตูรั้วด้านข้างศาลหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่มารอรับหลบหนีไป เมื่อช่วงเวลา 17.00 น. วันที่ 24 เม.ย.67 ที่ผ่านมา จับกุมได้พร้อมนายพลังวัชร ขุนสินไชยรัชร อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/4 ถนนทหาร ต.ถนนนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ

พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวถึงการสืบสวน จับกุม น.ช.รัชพล หรือนายอาร์ต และนายพลังวัชรหรือนายน็อต ว่า หลังจากที่ นายน็อต ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน ขพฉ-780 ระยอง มารับนายอาร์ตหลบหนีไป ก็ไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านญาติในพื้นที่บ้านผือ ต.พระลับ เพื่อถอดโซ่ตรวจออกจากขาของนายอาร์ต เมื่อถอดโซ่ตรวจได้แล้ว นายอาร์ตก็ไปเอารถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้าโวลูน่า สีอนด์ทอง ทะเบียน กต-5872 ขอนแก่น ซึ่งเป็นของคนรู้จักกัน ขับขี่ออกมาเพื่อหลบหนีต่อ ส่วนรถจักรยานยนต์คันที่ใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนีจากศาลนั้น จอดทิ้งไว้ในบ้านญาตินายน้อต

จากนั้นทั้งสองคนไปเอายาบ้า จำนวน 14,000 ที่ซุกซ่อนไว้ในพื้นที่อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม แล้วก็เปิดห้องพักในรีสอร์ทแห่งหนึ่งพื้นที่ตำบลกู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม แล้วออกจากรีสอร์ทจุดนี้ช่วงเวลา 05.00 น.แล้วเข้าพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านศิลา ม.18 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยเข้าพักที่ห้องหมายเลข 24 ในเวลา 05.40 น.วันที่ 26 เมษายน จากนั้นเวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบใครเข้าออก จึงเชื้อได้ว่านายอาร์ตและนายน็อต น่าจะพักอยู่ในห้องเดียวกัน จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุม

เมื่อเข้าในห้องก็มีกลิ่นยาบ้าคละคลุ้ง ในชักโครกของห้องส้วมก็มีน้ำสีแดง ถุงบรรจุยาบ้าเกลื่อนพื้น และมียาบ้าในถุงบางส่วนถูกน้ำจนละลาย จากนั้นได้ตรวจยึดยาบ้าในห้องจำนวน 8,000 เม็ด ส่วนยาบ้าที่ถูกแกะลงชักโครกนั้นรวม 6,000 เม็ด จึงควบคุมตัวนายอาร์ตและนายน็อตเอาไว้พร้อมของกลางยาบ้าทั้งยังเหลือเป็นเม็กและน้ำในชักโครก รวมทั้งยาบ้าที่ละลายในถุงบรรจุ รวมยาบ้า 8,000 เม็ด ตรวจยึดรถเก๋งจำนวน 1 คัน จากนั้นนำตัวไปตรวจค้นและยึดโซตรวนที่บ้านญาติ รวมทั้งชุดนักโทษสีน้ำตาล หมวกกันน็อค และรถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง

ผกก.สส.ภจว.ขอนแก่น กล่าวอีกว่า ในส่วนของ นางสาวธีระดา ศิริสุทธา อายุ 30 ปี ภรรยาของ น.ช.รัชพล นั้น จากการสอบสวน นังไม่พบพิรุธว่ามีการช่วยเหลือให้นักโทษหลบหนี ส่วนการสอบสวน นายอาร์ต หรือ น.ช.รัชพล ยอมรับว่า เคยถูกตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น จับกุมตัวพร้อมยาบ้า จำนวน 8,600 เม็ด เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 และถูกคุมตัวเข้าทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น จนถูกศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ขณะไปที่ศาลหลังฟังคำพิพากษาแล้วเดินไปขึ้นรถ เพื่อกลับเข้าคุก เห็นภรรยาและเพื่อนชื่อน็อต จอดรถจักรยานยนต์อยู่ริมถนนเทพารักษ์ จึงตัดสินใจวิ่งหนีข้ามรั้ว ออกไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเพื่อน ให้พาหลบหนี โดยคิดว่า เมื่อหนีรอดมาได้ ก็ไปเอายาบ้า จำนวน 14,000 เม็ดที่ซ่อนเอาไว้ ส่งให้เครือข่ายเอาไปขาย เอาเงินหนีต่อ แต่ขณะกำลังหลบหนี ก็ถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ ซึ่งหลังถูกจับกุมตัว ทั้งสองคนจะถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดก็หมาย จากนั้น น.ช.รัชพลจะถูกแจ้งข้อหา หักแหกหลบหนี เพิ่มอีก 1 ข้อหา ส่วนนายน็อตหรือนายพลังวัชร คนที่พา น.ช. รัชพล หลบหนี จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มจากยาเสพติดอีก 1 ข้อหาคือข้อหา พานักโทษหักแหกหลบหนี

ส่วนนายน็อต หรือนายพลังวัชร ขุนสินไชยรัชร อายุ 20 ปี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก่อนการแถลงข่าวว่า การช่วยเหลือนายอาร์ตหนีนั้น ไม่ได้วางแผนกันมาก่อน เพียงแค่รู้ว่านายอาร์ต ซึ่งเป็นลูกพี่ และเป็นหัวหน้าทีมในการขายยาบ้า มาขึ้นศาล จึงมาดู และพบเมียนายอาร์ต ยืนอยู่นอกรั้วศาล ในช่วงเวลาที่นักโทษกำลังขึ้นรถ จากนั้น นายอาร์ต วิ่งหนีมาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ และสั่งให้พาหนี จึงตัดสินใจพาหนีและคิดว่าจะหนีได้ไกลกว่านี้ไม่คิดว่า จะถูกจับได้ง่ายแบบนี้

ทางด้าน นายปิยวัฒน์ กองสุราษฏร์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ได้มอบเงินรางวัลนำจับ จำนวน 5000 บาท ให้ชุดสืบสวน ที่ตามจับ น.ช.รัชพลและนายพลังวัชรได้ จากนั้นได้ให่สัมภาษณ์ ถึงการจับกุม น.ช.รัชพลว่า เมื่อถูกจับทางตำรวจก็จะมีการสอบสวนดำเนินคดีเพิ่มเติม ทั้งในส่วนที่พบยาบ้าขณะเข้าจับกุมจำนวน 8,000 เม็ด และคดีเกี่ยวกับการแหกหักหลบหนีศาล ซึ่งเดิมมีคดียาเสพติดอยู่แล้ว และหลบหนีศาลในวันศาลนัดฟังคำพิพากษายาบ้า 8,600 เม็ด ก็จะเพิ่มโทษเข้าไปอีก

ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ก็มีการหารือร่วมกับทางศาล ว่าหลังเสร็จภารกิจในเคสของ น.ช.รัชพล ก็จะมีการประชุมร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถอดบทเรียนที่เกิดขึ้น เพื่อเพิ่มมาตรการป้องกันเพิ่มเติม เพราะจากเหตุการณ์ล่าสุดนั้น ทำให้พบว่ามีมาตรการป้องกันในหลายจุดยังต้องปรับปรุง แต่ทั้งนี้ตามกฎหมายในการนำนักโทษไปขึ้นศาลนั้นเป็นภารกิจความรับผิดชอบของตำรวจ โดยราชทัณฑ์เป็นที่ควบคุมตัวเท่านั้น ตำรวจศาลจะเป็นผู้ดำเนินการคุมตัวหากจะมีการเบิกตัวนักโทษ เราจะไม่โทษว่าใครถูกใครผิด ซึ่งต้องดูสาเหตุที่เกิดว่าเกิดความบกพร่องที่จุดไหน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทราบดีอยู่แล้ว แต่การแหกหักหลบหนีที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นที่ศาล เราก็จะดูในเรื่องภาพรวมของศาลและตำรวจ ว่ามีจุดบกพร่องตรงไหนหรือไม่ แล้วนำมาถอดบทเรียนร่วมกันระหว่างศาลและตำรวจ ในการเพิ่มมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก

คุณอาจสนใจ

Related News