เลือกตั้งและการเมือง

'ผบ.เรือนจำ - บก.น.6' ประสานเสียง 'ทักษิณ' ยังอยู่ รพ.ตำรวจ จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว หนุนด้านความปลอดภัย

โดย nattachat_c

25 ส.ค. 2566

29 views

วานนี้ (24 ส.ค. 66) พลตำรวจตรี นครินทร์ สุคนธวิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีที่เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ราชทัณฑ์ได้ส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าทำการรักษาด่วนจ ากสาเหตุความดันโลหิตสูง แน่นหน้าอก และขณะนี้ อยู่ในระหว่างการพักรักษาตัวบนชั้น 14 รพ.ตำรวจ ว่า


หลังจากที่มีกระแสข่าวลือตลอดว่าทาง รพ.ตำรวจ จะย้ายตัว นายทักษิณ ไปยัง รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ขอยืนยันว่า ขณะนี้ ทางโรงพยาบาลตำรวจ และกรมราชทัณฑ์ ยังไม่มีแผนว่าจะย้ายตัวของนายทักษิณไปยังโรงพยาบาลอื่น แต่ยังคงให้รักษาตัวอยู่ที่เดิมและห้องเดิม


นอกจากนี้ ยังยอมรับว่าได้มีการออกบันทึกข้อความด่วนที่สุด เรื่องการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วสนับสนุน สน.ปทุมวัน ออกไปจริง

โดยให้รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 และผู้กำกับการ สน. ในพื้นที่ของตำรวจนครบาล 6 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสารวัตรเป็นผู้ควบคุม 1 นายระดับรองสารวัตรเป็นหัวหน้าชุด 1 นาย และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันปราบปราม เป็นชุดปฏิบัติการ 4 นาย


โดยให้แต่ละชุดจัดกำลังตามข้อสั่งการ และเตรียมพร้อมในที่ตั้งของสถานีตำรวจของตนเอง ซึ่งอาจมีการเรียกออกปฏิบัติหน้าที่ใน 15 นาที หรือตรวจสอบกำลังได้

-------------

วานนี้  (24 ส.ค. 66) นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นายทักษิณยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยังไม่ได้มีแผนการจะโยกย้ายไปรักษาที่ รพ.เอกชน


สำหรับการนอนพักรักษาตัวเป็นคืนที่ 2 ของนายทักษิณ จะเป็นการกำกับรับผิดชอบของทีมแพทย์ รพ.ตำรวจ ราชทัณฑ์มีบทบาทหลักคือการดูแลรักษาความปลอดภัย และความเรียบร้อยให้ผู้ต้องขัง ราชทัณฑ์จะไม่ได้รับรายงานแนวทางกระบวนการรักษา เพราะถือเป็นเรื่องสิทธิของผู้ป่วย รวมถึงจะเป็นความรับผิดชอบของ รพ.ตำรวจ และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่จะทำงานประสานร่วมกัน


ส่วนเอกสารประวัติการรักษาต่าง ๆ ของอดีตนายกฯ ราชทัณฑ์ได้ส่งมอบให้กับ รพ.ตำรวจ ครบถ้วนแล้ว ส่วนจะมีการกักตัวเพื่อรักษาโรคต่อเนื่องหรือไม่ ก็เป็นดุลพินิจของทีมแพทย์ที่รับหน้าที่ในส่วนดังกล่าว


นายนัสที ยังกล่าวว่า การดูแลเรื่องอาหารของนายทักษิณ จะเป็นทางเจ้าหน้าที่ รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รับผิดชอบดูแลร่วมกัน ซึ่งจะเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยสูงวัย และมีโภชนาการเหมาะสม ปลอดภัยต่อโรค
--------------

ขณะเดียวกัน มื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ราชทัณฑ์ได้มีการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจ พูดคุยในเชิงการปฎิบัติ การคัดกรองความปลอดภัย และเกณฑ์การเยี่ยม


โดยจะมีแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจน พร้อมทั้งได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมกันของทั้ง 3 หน่วยงาน ซึ่งได้จัดตั้งไว้ที่ รพ.ตำรวจ เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากในการปฎิบัติหน้าที่ทางโรงพยาบาลตำรวจก็มีระเบียบของหน่วยงานตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาของการเยี่ยมช่วงเช้า-ช่วงบ่าย และการปฏิบัติต่อคนป่วย ต่อญาติ


เนื่องจากต้องเรียนแจ้งว่า ในอาคารยังมีญาติของผู้ป่วยรายอื่น ๆ ด้วย ดังนั้น ก็จะต้องทำงานร่วมกัน ไม่สามารถเอาระเบียบของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง มากางใช้เพียงอย่างเดียว ต้องบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน

-------------

ทั้งนี้ เกณฑ์การเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ทาง รพ.ตำรวจ ค่อนข้างมีความชัดเจนเรื่องกรอบเวลาการเข้าเยี่ยม


โดยในช่วง 5 วันแรก ที่นายทักษิณอยู่ระหว่างการกักโรคโควิด (ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.- 27 ส.ค.) จะไม่สามารถเปิดให้บุคคลใดเข้าเยี่ยมได้ ยกเว้นทนายความตามกฎหมาย แต่จะเป็นการเยี่ยมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แทน


เมื่อพ้น 5 วันกักโรคแล้ว จะเป็นญาติหรือบุคคลตาม 10 รายชื่อ ที่นายทักษิณได้แจ้งกับราชทัณฑ์ไว้ จะเข้าเยี่ยมได้ ซึ่งขณะนี้ราชทัณฑ์มีรายชื่อทั้งหมดเเล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นญาติและครอบครัว  


ทั้งนี้ ราชทัณฑ์ต้องขอสงวนความเป็นส่วนตัวในการเปิดเผยรายชื่อผู้เข้าเยี่ยมคนไข้ และจะไม่มีในส่วนของบุคคลทั่วไป


นายนัสที ยังกล่าวอีกว่า เบื้องต้นในที่ประชุมเมื่อวานนี้ ได้มีการกำหนดให้มีการเยี่ยมได้ 2 ช่วงเวลา คือ ช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 11.00 -13.00 น. ส่วนช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 17.00 -20.00 น.


โดยทาง รพ.ตำรวจ ได้มอบหมายให้ราชทัณฑ์เป็นผู้จัดการรายชื่อ 10 บุคคล ที่จะเข้าเยี่ยมนายทักษิณ โดยราชทัณฑ์ได้มีการให้ลงทะเบียนเพื่อขอทำการติดต่อเยี่ยม


จากนั้น จะมีบัตรอนุญาตสำหรับผู้เข้าเยี่ยม (บัตรเพื่อการเฉพาะ) ซึ่งในส่วนนี้เป็นไปเพื่อขั้นตอนรักษาความปลอดภัยแก่นายทักษิณ และจะเป็นบัตรที่จะทำให้เจ้าหน้าที่โรงบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ เข้าใจได้ว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการอนุญาตจากราชทัณฑ์ และนายทักษิณให้เข้าเยี่ยมได้

-------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/WwJf6EkLsMM

คุณอาจสนใจ

Related News