สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 23 ส.ค.66 ทักษิณกลับไทย-เศรษฐานั่งนายกฯ คนที่ 30 - ศาลฎีกายกฟ้อง สุเทพรอดคุก

โดย thichaphat_d

23 ส.ค. 2566

45 views

1.ทักษิณกลับไทย ในรอบ 17 ปี สส.-มวลชนรอต้อนรับที่สนามบินสุดอบอุ่น

ทักษิณ ชินวัตร กลับไทย ในรอบ 17 ปี ตม.อายัดตัวบันทึกการจับกุม ก่อนเดินออกมาถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าอาคาร MJETS และโบกมือทักทาย สส.เพื่อไทย และมวลชนคนเสื้อแดง ที่รอต้อนรับ ก่อนเดินกลับเข้าอาคารเพื่อขึ้นรถราชทัณฑ์ไปศาล

2.ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุกทักษิณ 3 คดีรวม 8 ปี คุมตัวเข้าเรือนจำทันที

ศาลฎีกาฯ พิพากษาสั่งจำคุกทักษิณ 3 คดี ปล่อยกู้ EXIM Bank / หวยบนดิน / แก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป รวม 8 ปี เจ้าตัวใบหน้าเรียบเฉย ไม่มีสีหน้าเคร่งเครียด กังวล มาพร้อมทนาย 4 คน ไม่ได้สวมกุญแจมือ หรือ พันธนาการ เพราะมามอบตัว และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี เจ้าหน้าที่คุมตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที

3.กรมคุกแยกทักษิณ ขังเดี่ยวแดน 7 เหตุ กลุ่มเปราะบาง-มีโรคประจำตัว

ราชทัณฑ์แถลงมาตรการดูแลทักษิณ แยกขังเดี่ยว แดน 7 สถานพยาบาลในเรือนจำ เพราะเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัวเพียบ ทั้งกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ปอดอักเสบเรื้อรัง มีพังผืดในปอด หลังติดโควิด ความดันโลหิตสูง และภาวะเสื่อมตามอายุ มีเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอด 24 ชม. ส่วนนำตัวไปรักษานอกเรือนจำขึ้นอยู่กับวินิจฉัยของคณะแพทย์ ส่วนการยื่นขออภัยโทษ คาดใช้เวลา 1-2 เดือน

4.กองเชียร์เฮ! เศรษฐา นั่งนายกฯ คนที่ 30

สส. – สว. เท 482 เสียงโหวต เศรษฐา เป็นนายกฯ คนที่ 30 กองเชียร์เฮสนั่น! ลั่นพรรคเพื่อไทย ดีใจน้ำตาท่วม เสื้อแดงโคราช ตะโกนสุดเสียงนายกเศรษฐา หลังเฝ้าติดตามการโหวตทั้งวัน

5.สุเทพ รอดคุก! ศาลฎีกาฯ ยกฟ้องคดีทุจริตก่อสร้าง 396 โรงพัก

ศาลฎีกาฯ พิพากษายืน ยกฟ้องสุเทพ และพวก 6 คน คดีฮั้วประมูลสร้างโรงพัก 396 แห่ง ทั่วประเทศ เจ้าตัวดีใจที่ยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม เตรียมปรึกษาทีมกฎหมายฟ้อง ป.ป.ช. กลับหรือไม่ ?



เรื่องเล่าการเมือง

- ผ่านฉลุย! ที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบเศรษฐาเป็นนายกฯ


ที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นชอบให้นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบท่วมท้นมากถึง 482 เสียง โดยมี สว.โหวตให้มากถึง 152 เสียง

นี่เป็นผลการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นชอบให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ด้วยคะแนนเสียง 482 เสียง / ไม่เห็นชอบ 165 เสียง และ งดออกเสียง 81 เสียง ถือเป็นคะแนนเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา และเป็นคะแนนเสียงที่ท่วมท้น

โดยในเสียงเห็นชอบ 482 เสียงนี้ เป็นเสียงจาก สส. 330 เสียง และมี สว.เห็นชอบมากถึง 152 เสียง

โดยในส่วนของเสียง สส. 330 เสียงนั้น นอกจากเสียงของ สส.พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งขาดเพียงร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง สส.พรรคเพื่อไทย ที่ลาป่วย ไม่ได้มาลงมติ

ก็ยังมีเสียงเห็นชอบมาจากพรรคประชาธิปัตย์ อีก 16 เสียง นำโดย นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ที่ส่วนใหญ่มาขอโหวตในภายหลังการขานชื่อในรอบแรก ท่ามกลางกระแสข่าวว่ามีการดีลเข้าร่วมรัฐบาลในนาทีสุดท้าย

ขณะที่ นายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน สองอดีตหัวหน้าพรรค โหวตไม่เห็นชอบ และนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ รักษาการหัวหน้าพรรค และ สส.อีกส่วนของพรรค โหวตงดออกเสียง

ทางด้าน สว. ปรากฏว่า สว.สายทหารส่วนใหญ่โหวตเห็นชอบ รวมถึง พลเอกปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่วนผู้บัญชาการเหล่าทัพลาประชุม ไม่ได้ลงมติ และมี 13 สว.โหวตไม่เห็นชอบ เช่น / นายสมชาย แสวงการ / นายเสรี สุวรรณภานนท์ / นายจเด็จ อินสว่าง / นายถวิล เปลี่ยนศรี / พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม

ด้านพรรคก้าวไกล ไม่เห็นชอบทั้งพรรค เช่นเดียวกับ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม ส่วนพรรคไทยสร้างไทย ทั้ง 6 เสียง โหวตงดออกเสียง



-เศรษฐา ขอบคุณ ปชช. - สส. สว. ลั่นจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

นายเศรษฐา ขอบคุณประชาชน รวมทั้ง สส. สว. ที่ให้ความเห็นชอบเป็นนายก บอกจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ภายหลังทราบผลการลงมติของรัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน ว่าที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งติดตามการประชุมเลือกนายกฯ อยู่ที่พรรคเพื่อไทย ได้ลงมาแถลงข่าวและพบปะกับมวลชนคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม บรรยากาศชื่นมื่น

นายเศรษฐา ระบุว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย ขอขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคน พรรคร่วมรัฐบาล สส. และ สว. ที่โหวตให้ในวันนี้ และบอกว่า จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ลืมความเหน็ดเหนื่อย ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน

จากนั้นนายเศรษฐาได้เดินไปพบปะกับมวลชนและกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารอให้กำลังใจด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตลอด โดยกลุ่มมวลชนได้ตะโกนตลอดเวลาว่า "นายกฯเศรษฐาๆ"

ระหว่างนั้นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้เดินทางมาถึงที่พรรค และได้เข้ามาแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา และพบปะมวลชนพร้อมกับนายเศรษฐา ขณะที่มวลชนแสดงความยินดีและได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธารด้วย ที่วันนี้ ได้ทั้งคุณพ่อกลับบ้านและได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย


-ก้าวไกล แถลงพร้อมเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ตรวจสอบฝ่ายบริหาร

ขณะที่พรรคก้าวไกลแถลง หลังการโหวตนายกรัฐมนตรี ประกาศ พร้อมเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร และผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สส.พรรคก้าวไกล แถลงว่า วันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ มิได้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนส่วนใหญ่ ที่ได้แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง และมิใช่การสลายขั้วความขัดแย้ง แต่ถือเป็นการสยบยอม และต่อระบบการเมืองที่คณะรัฐประหารเมื่อปี 2557 สถาปนาขึ้น

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ต่อจากนี้ไปพรรคก้าวไกลจะทำงานในฐานะพรรคฝ่ายค้าน โดยเราจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ทำงานอย่างสุดความสามารถ ทั้งในด้านการตรวจสอบฝ่ายบริหาร ผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า ผ่านกลไกต่างๆ ของสภา รวมทั้งทำงานกับประชาชนนอกสภา เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมร่วมกันอย่างไม่ท้อถอย

ส่วนความชัดเจน เรื่องตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังมีเวลาพิจารณาว่าจะต้องเลือกตำแหน่งใด และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ต้องลาออก รองประธานสภา หรือไม่ และต้องดูความชัดเจน เรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติ นายพิธา ของศาลรัฐธรรมนูญด้วย จึงอยากเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด



-ชัยธวัช ลั่นก้าวไกลไม่โหวตเศรษฐา ชี้ขัดเจตจำนง ประชาชน

การอภิปรายญัตติ เลือกนายกรัฐมนตรี ช่วงหนึ่งนายชัยธวัช ตุลาธน เป็นตัวแทนพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปราย ย้ำจุดยืนจะไม่โหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน และมองว่าเป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่ขัดต่อเจตจำนงของประชาชน

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล อภิปรายก่อนการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ยืนยัน ว่า สส.พรรคก้าวไกล ไม่สามารถเห็นชอบ คุณเศรษฐา ทวีสินได้ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ขัดต่อเจตจำนงของประชาชน มองว่าทางออกของการเมืองเวลานี้ ไม่ใช่การสลายขั้วความขัดแย้ง ด้วยการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว

และการจัดตั้งรัฐบาลแบบพิเศษ ที่ต้องกลืนเลือดครั้งนี้มีต้นทุนที่ประชาชนต้องจ่ายดังนั้น เมื่อไหร่ที่ประชาชนหมดศรัทธาต่อระบบการเมืองแล้ว ย่อมเป็นอันตราย

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นชี้แจง และตอบข้อซักถาม ในนามของพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จุดยืนของพรรคเพื่อไทยไม่สามารถเห็นการ สูญเสียโอกาสของประชาชน เพียงเพราะมีความคิดต่างกัน ถ้าคุณมีพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงจะเป็นอันตรายต่อสถาบันหลักของชาติย่อมมีการต่อสู้ทำลายล้าง จึงไม่สามารถปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นได้ และถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยืนยันว่า เพื่อไทยไม่มีทางจับมือกับ พรรคก้าวไกล แต่ถือว่าคิดผิด เพราะยิ่งจับมือยิ่งตั้งรัฐบาลไม่ได้



-วันนอร์ เดือด ฉุน สส.ก้าวไกล กล่าวหารู้เห็นเป็นใจเสียงข้างมาก

ย้อนไปที่การประชุมรัฐสภาช่วงเช้า เริ่มต้นด้วยการพิจารณาญัตติของ สส.รังสิมันต์ โรม ที่ให้ทบทวนมติห้ามเสนอชื่อซ้ำโหวตนายกฯ ช่วงหนึ่งมีการประท้วงและปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่าง สส.ก้าวไกล กับ ประธานวันนอร์

เมื่อเริ่มการประชุม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม อนุญาตให้นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล อภิปรายเกี่ยวกับการเสนอญัตติให้ทบทวนมติของรัฐสภาเรื่องห้ามการเสนอชื่อซ้ำในการโหวตนายกฯ

และประธานวันนอร์ ได้ใช้อำนาจประธานตัดสินไม่รับญัตติของนายรังสิมันต์ เพราะจะกระทบกับความน่าเชื่อถือของมติรัฐสภา และอาจมีการเสนอทบทวนมติอยู่เรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการอภิปรายของ สส. รังสิมันต์ ประธานวันนอร์ ได้เตือนอยู่ 2 รอบว่าให้เร่งสรุป เพราะได้ประเด็นแล้ว และใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำให้นายรังสิมันต์ ท้วงว่าเพิ่งอภิปรายไป 12 นาที จนทำให้นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นมาประท้วงขอให้ประธานทำหน้าที่ให้เป็นกลาง

ต่อมา สส.ก้าวไกล ก็ลุกขึ้นมาประท้วงการทำหน้าที่ของประธานวันนอร์อีก และมาดุเดือดที่สุดในช่วงของ สส.ธีรัจชัย ที่ระบุว่า จะไม่เกิดปัญหาเรื่องมติห้ามเสนอชื่อซ้ำ หากประธานวันนอร์ ไม่อนุญาตให้มีการเสนอญัตตินี้ตั้งแต่ต้น ซึ่งเป็นไปได้ 2 กรณี คือ เพราะประธานไม่กล้าใช้อำนาจตัดสิน หรือ รู้เห็นเป็นใจกับเสียงข้างมาก พอนายธีรัจชัย พูดถึงตรงนี้ ประธานวันนอร์จึงสั่งให้ถอนคำพูดทันที



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8l955rIkN3c

คุณอาจสนใจ

Related News