เลือกตั้งและการเมือง

'พิธา' ปั่นจักรยาน-นั่งสามล้อ ช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมระยอง ปราศรัยเดือด เลือกให้เขารู้ กูไม่กลัวมึง

โดย passamon_a

21 ส.ค. 2566

64 views

'พิธา' ปั่นจักรยาน-นั่งรถสามล้อ ช่วย 'โย พงศธร' หาเสียงเลือกตั้งซ่อมระยอง กองเชียร์รุ่นใหญ่เพียบ ก่อนปราศรัยเดือด ยืนยันมีเราไม่มีลุง เพราะประชาชนสลายขั้วให้แล้ว มีลุงไม่มีเบี้ยคนชรา ลั่นกูไม่กลัวมึง จะเลือกตั้งไปจนกว่าจะได้ผู้นำที่มีสัจจะ สร้างความเปลี่ยนแปลงได้


เมื่อวันที่ 20 ส.ค.66 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ควง นางสาวเบญจา แสงจันทร์ หาเสียงในพื้นที่ดอนมะกอกล่างและปากน้ำประแส ร่วมกับ โย นายพงศธร ศรีเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 3 เบอร์ 1 ในการเลือกตั้งซ่อมวันที่ 10 กันยายน 2566 นี้


โดยกิจกรรมวันนี้ นายพิธาและนายพงศธร ได้เดินหาเสียง เคาะประตูบ้านพี่น้องประชาชนชาวดอนมะกอกล่าง สลับกับขึ้นรถแห่ปราศรัยชูนโยบาย พร้อมอ้อนขอให้พี่น้องประชาชนในเขต 3 ออกไปใช้สิทธิใช้เสียงในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เพื่อให้พรรคก้าวไกลได้กลับมาดูแลพี่น้องประชาชน


ก่อนจะขึ้นรถสามล้อพ่วงข้างซึ่งเป็นพาหนะที่ช่วยสำหรับการขนส่งเดินทางในพื้นที่ ขึ้นหาเสียงในพื้นที่ปากน้ำประแส เนื่องจากขนาดพื้นที่ถนนที่แคบและใช้สำหรับขนอุปกรณ์ประมงและคนในครอบครัวเดินทางไปมา ตลอดการนั่งรถสามล้อพ่วงข้างหาเสียงในโซนปากน้ำประแส มีพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะโหวตเตอร์รุ่นใหญ่คอยเฝ้ากับ พิธาและพงศธร เพื่อให้กำลังใจ และถ่ายภาพสนับสนุน และอวยพรให้นายพงศธร เลือกตั้งชนะในหนนี้


ขณะเดียวกันผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งโพสต์คลิปนายพิธา ไสข้างปั่นจักรยานของประชาชน เหมือนคนสมัยก่อน โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า "ไสข้างเหมือนตอนกุหัดจักรยานใหม่ ๆ เลย เป็นว่ะ อย่างได้ # นายกพิธา"


จากนั้นนายพิธา ได้เดินทางต่อไปยังเขาดิน ชี้มาเพื่อขอชัยชนะให้กับนายพงศธร พร้อมรับรองในฐานะมิตรสหายตั้งแต่สมัยเรียน เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มั่นใจทั้งอุดมการณ์และการทำงานที่เข้มข้นของนายพงศธร โดยเฉพาะการทำงานอยู่เบื้องหลังตั้งแต่ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ มาจนทำให้พรรคก้าวไกล คว้าชัยชนะทั้ง จ.ระยอง รวม 5 เขต รับรองคนระยองเขต 3 จะได้ สส. ที่มีคุณภาพ อ้อนทั้งระยองพิธาจองแล้ว


โดยระหว่างการขึ้นรถแห่ปราศรัยสนับสนุน โย พงศธร มีพี่น้องประชาชนบริเวณเขาดินและพื้นที่ใกล้เคียง เดินทางมารับฟังการปราศรัยและให้กำลังใจสนับสนุนพรรคก้าวไกล โดยนายพิธาได้ทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรไม่ต้องฟัง ไม่ต้องเชื่อ ไม่ต้องเชื่อในตัวของตน แต่ขอให้ประชาชนเชื่อในตัวเอง แม้เราอาจจะไม่ชนะทันที แต่ชนะในที่สุด พร้อมเชิญชวนประชาชนไปรับฟังการปราศรัยหาเสียง ณ บริเวณอนุสรณ์เรือรบหลวงประแส ในวันนี้ เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป


เวลา 15.00 น. ที่ตลาดผาสุข อ.แกลง นายพิธาได้ขึ้นรถแห่หาเสียง โดยเปิดประเด็นว่า วันที่ 10 กันยายนนี้ เรามีนัดกัน พร้อมยืนยันว่า มีลุงไม่มีเรา ประชาชนได้สลายขั้วให้แล้ว เทคะแนนเสียงเพื่อจะไม่เอาลุงอีกต่อไปแต่ก็ยังมีอุปสรรค์ พร้อมนี้ยังบอกว่า มีลุงไม่มีเบี้ยคนชรา ซี่งพิธาก็บอกว่า พี่ ๆ สื่อมวลชลเป็นคนบอกมา และก็ได้ถามลุง ๆ ป้า ๆ แล้วว่า 600 บาท พอหรือไม่ ก็ยังพอได้ใช้วันละ 20 บาท


น.ส.จิดาภา อายุ 51 ปี ได้นำทุเรียนหมอนทองแท้ จากระยอง จำนวน 2 ลูก มามอบให้กับพิธา มาให้กำลังใจพิธา พร้อมทิ้งท้ายว่า ทุเรียนก็รักส้มนะคะ


พร้อมกันนี้ นายพิธายังบอกอีกว่า โย พงศธร เป็นเพื่อนตั้งแต่เรียน บัญชี ธรรมศาสตร์ อายุรุ่นเดียวกัน และอยู่ในพรรคอนาคตใหม่มาก่อน มั่นใจได้อุดมการณ์ มั่นใจได้ประสิทธิภาพในการทำงาน เลือกตั้งที่ผ่านมา เขาคือขุนพลดูแลใน 5 เขตของระยอง อยู่เบื้องหลังมานาน คราวนี้ส่งมาเป็นแถวหน้า มารับใช้พี่น้องชาวระยอง ขอให้พี่น้องชาวระยองเชื่อมั่นได้ว่าเราจะไม่ทิ้งกัน ประชาชนต้องชนะ


ด้าน นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร สส. เบอร์ 1 เขต 3 พรรคก้าวไกล เผยว่า มั่นใจ100 % เหมือนเดิม ตลอดการลงพื้นที่ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนชาวแกลง เขาชะเมา พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เสียดายที่พรรคก้าวไกล พรรคอันดับ 1 ของประชาชนที่เลือกมา ให้ความยอมรับและไว้ใจ ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล บางคนเดินมากอดพร้อมน้ำตา เสียดายที่พิธาไม่ได้เป็นนายก ไม่ได้มีแค่วัยรุ่น ทั้งผู้เฒ่าผู้แก่ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมเสียงประชาชนนั้นมีค่าน้อยกว่าเสียง สว. นี่เป็นสิ่งสะท้อนว่า ประชาชนอยากให้ผู้มีอำนาจทั้งหลายช่วยเคารพเสียงของประชาชน เลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นเสียงสะท้อนเจตจำนงของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศแน่นอน


ต่อมา นายพิธา ลงพื้นที่ช่วย โย พงศธร หาเสียงในพื้นที่ตำบลปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง โดยจุดแรกเริ่มที่ชุมชนตลาดเขาดิน มีประชาชนมารอต้อนรับ จุดนี้ นายพิธา ได้กล่าวกับประชาชนบนรถปราศรัยหาเสียง ช่วงหนึ่งว่า นี่มันเลือกตั้งซ่อมหรือเลือกตั้งส้มกันแน่ วันนี้ตนเองมาตามหาชัยชยะให้ โย พงศธร และขออย่าปล่อยให้เขต 3 ฟันหลอ เพราะเขต 1 เขต 2 เขต 4 เขต 5 ก็ของก้าวไกล จึงเชื่อว่าคนที่เลือกพรรคก่าวไกลไปแล้วก็ยังจะเลือกพรรคก้าวไกลเหมือนเดิม


นายพิธา ยังบอกอีกว่า ก่อนเลือกตั้งบอกว่า มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง ประชาชนก็อุตส่าห์ เข้าคูหาเพื่อไปสลายขั้วให้ ฝ่ายประชาธิปไตยสลายขั้วให้เรียบร้อย แต่พอเลือกตั้งเสร็จ สุดท้ายก็ไปเทกองรวมกัน


แล้วพอมาตอนนี้บอกมีลุงไม่มีเบี้ยคนชรา เช้านี้ตนเลยไปที่ดอนมะกอก และไปที่ประแส เพื่อพูดคุยกับผู้สูงอายุ ที่ระยอง มีกว่า 8-9 หมื่นคนที่อยู่กับเบี้ยคนชรา ภาษีก็เสียกันถ้วนหน้า แต่บอกขอพิสูจน์ก่อนว่าจนจริงรึเปล่า ตอนโควิดก็ฝนตกไม่ทั่วฟ้า เยียวยาไม่ทั่วถึง ชีวิตนี้คำนึงนึกถึงแต่ความตาย มาแล้ว ระบบประเทศไทยไม่สามารถตรวจสอบได้แม่นยำ บางทีก็ตกหล่น เบี้ยคนชรา 600 ก็ยังพอประทังชีวิตได้บ้าง พอมาหลังเลือกตั้ง บอกไม่มีเบี้ยคนชรา หรือเอาไปซื้อเรือดำน้ำหมด งบความมั่นคง กระทรวงกลาโหมลงมาที่ระยอง 400 ล้าน แต่งบของ พม.ลงมาอยู่ระยอง 2 ล้านกว่าบาท แล้วใครมาบอกว่าพรรคนี้ไม่สนใจเรื่องความมั่นคง ไม่สนใจเรื่องทหารเรืออย่าไปเชื่อ


นายพิธา ยังกล่าวอีกว่า ขอให้เลือก โย พงศธร เข้าสภา ไม่แน่ว่าอาจจะได้เลือกพิธาเป็นนายกอีกรอบก็ได้ ในอีก 10 เดือนข้างหน้าเมื่อ สว.หมดอำนาจจะได้เจอกันอีกทีแน่นอน


จากนั้น นายพิธา พร้อมด้วยนายพงศธร ไปต่อที่ตลาดผาสุกยืด (จุดที่ 2) ซึ่งจุดนี้มีฝนตกลงมาด้วย จากนั้นไปจุดที่สาม ที่ชุมชนบ้านแหลมสน ก่อนจะไปจุดสุดท้าย ขึ้นเวทีปราศรัย ที่อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส


โดยจุดสุดท้าย นายพิธาได้ขึ้นปราศรัยบนรถปราศรัยจุดนี้ เนื้อหาคล้ายกับจุดแรก แต่จุดนี้เน้นย้ำช่วงหนึ่งด้วยว่า ขอให้ประชาชนไม่ต้องห่วง ว่าตกลงจะเป็นรัฐบาล หรือตกลงจะเป็นฝ่ายค้าน ไม่สนใจ ทำงานเพื่อประชาชนได้แน่นอน และมาถึงปากน้ำประแส ก็มีชาวประมงที่เจ็บปวดช่วงรัฐบาล คสช. วันอังคารนี้ ที่ 22 ส.ค. พรรคก้าวไกล ยื่นร่างแก้ไขพรบ.ประมง เพื่อซับน้ำตาพี่น้องชาวประมงทั่วประเทศแน่นอน


และย้ำอีกว่าก่อนหน้านี้ไปพบกับพ่อแก่แม่เฒ่า ก่อนเลือกตั้งบอกมีลุงไม่มีเราตอนนี้บอก มีลุงไม่มีเบี้ยคนชรา รู้มั้ยว่าคนรุ่นใหม่ใส่ใจคนรุ่นใหญ่มากขนาดไหน ยังต้องมาพิสูจน์ความจน ปล่อยให้ตกหล่นเหมือนตอนโควิด ฝนตกไม่ทั่วฟ้า เยียวยาไม่ทั่วถึง ชีวิตนี่คำนึงคิดถึงแต่ความตาย คราวนี้เบี้ยคนชราเป็นสิทธิพลเมืองคือรัฐสวัสดิการไม่ใช่สังคมสงเคราะห์ และตนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เขาไม่ได้ให้นั่งอยู่ในทำเนียบ แต่มานั่งในใจพี่น้องได้ไม่ได้


"ตอนนี้รัฐบาลแห่งชาติที่เขาสลายขั้วกันอยู่ผมก็ไม่เข้าใจ เพราะพี่น้องไปเลือกตั้ง 14 พ.ค. ก็สลายขั้วให้เขาเรียบร้อย 15 พ.ค.ผมก็จัดตั้งรัฐบาล 312 เสียง ผ่านไป 100 กว่าวัน อยู่ดี ๆ ก็ไปเทรวมกับเผด็จการซะอย่างงั้น ก็ 14 พ.ค. คุณเลือกแล้วไหนฝ่ายประชาชน ไหนฝ่ายเผด็จการ ประชาชนสลายขั้วให้แล้ว นักการเมืองไปเทกองรวมกันซะอย่างงั้น เพราะฉะนั้นพี่น้องเลือกให้เขาดูว่า กูไม่กลัวมึง เลือกให้เขารู้ว่าจะเลือกไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ผู้นำที่มีสัจจะ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ต้องได้ความเชื่อมั่นจากประชาชน ต้องมีสัจจะ ต้องมีความน่าเชื่อถือ คุณอาจจะมีงบประมาณ อาจจะมีอำนาจแต่ไม่มีความเชื่อมั่นจากประชาชน"


นายพิธา กล่าวต่ออีกว่า และในทางกลับกันตนอาจจะต้องไปเป็นฝ่ายค้าย แต่จะเป็นฝ่ายค้านของประชาชน เป็นฝ่ายค้านที่มีประชาชนในทุกรูขุมขน แล้วตนจะเปลี่ยนให้มากกว่าเขาคอยดู


และภายหลังการปราศรัยเสร็จสิ้น นายพิธา ก็แจกลานเซ็น ถ่ายรูปร่วมกับประชาชน ก่อนจะประกาศว่าสัปดาห์หน้าจะมาช่วยหาเสียงที่อำเภอเขาชะเมา


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/lYAd9qreGKg

คุณอาจสนใจ

Related News