เครือข่ายปชช.บุก 3 กระทรวง ทำกิจกรรมนอนตาย ค้านตัดเบี้ยผู้สูงอายุ

เครือข่ายภาคประชาชน 53 องค์กร บุก 3 กระทรวง ยื่นหนังสือคัดค้านตัดเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ขอให้ยกเลิกระเบียบมท.ใหม่ กลับไปใช้แบบเดิม เพื่อให้สิทธิอย่างเท่าเทียม ไม่ต้องพิสูจน์ความจน



จุดแรกที่เครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งมีกลุ่มเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ, เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม (We Fair) และเครือข่ายสลัมสี่ภาค เป็นแกนนำ ไปยื่นหนังสือคัดค้านพร้อมเสนอข้อเรียกร้อง คือที่กระทรวงการคลัง ได้รวมกลุ่มปักหลักอยู่ข้างรั้วหน้ากระทรวง เพราะ ปิดประตู ไม่อนุญาตให้เข้าไปภายใน มีตำรวจประจำการอยู่ภายในดูแลความเรียบร้อย



ทางกลุ่มยืนยัน จะเข้าไปยืนหนังสือกับปลัดกระทรวงการคลัง แต่ทางปลัดฯไม่ได้ออกมาตามคำเรียกร้อง ทางผู้ชุมนุมจึงไม่ได้ยื่นหนังสือ จึงใช้วิธีพับหนังสือเรียกร้องเป็นรูปจรวด และร่อนเข้าผ่านรั้วเข้าไปภายในกระทรวงคลังแทน

และต่อมา จึงเคลื่อนขบวนไปที่กระทรวงมหาดไทย โดยไม่มีเหตุรุนแรง



ส่วนบรรยากาศที่กระทรวงมหาดไทย ก็เหมือนกับที่กระทรวงการคลัง ปิดประตูไม่ให้เครือข่ายประชาชนเข้าไปภายใน ทางกลุ่มจึงจัดกิจกรรมด้านหน้าแทน แต่ต่อมามีเจ้าหน้าที่เป็นตัวแทน มารับหนังสือข้อเรียกร้องแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย



จากนั้น ทางเครือข่ายฯไปยื่นหนังสือต่อ ที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือพม.ที่นี่ได้อนุญาตให้ทางเครือข่ายภาคประชาชนเข้าไปภายในกระทรวง จัดกิจกรรมบริเวณหน้า



ก่อนที่นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. เป็นผู้รับหนังสือ โดยมีตัวแทนเครือข่ายฯ ได้อ่านแถลงการณ์ มีสาระสำคัญคือ กังวลต่อนโยบายด้านสวัสดิการสังคมของรัฐบาลรักษาการณ์ ที่ออกเบียบมหาดไทย หลักเกณฑ์คุณสมบัติผู้ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ซึ่งถือเป็นการลิดรอนสิทธิ สวัสดิการของประชาชน ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ด้วยการให้พิสูจน์ความยากจน แสดงถึงความไม่เชื่อมั่น ในระบบสวัสดิการถ้วนหน้า จึงออกมาร่วมคัดค้านการตัดเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ



โดยมีข้อเรียกร้อง 5 ข้อ คือ



1. กระทรวงมหาดไทย ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ กลับไปใช้ระเบียบเดิม คงสิทธิถ้วนหน้า โดยไม่ต้องพิสูจน์ความยากจน



2. คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ต้องออกมาปกป้องสิทธิของผู้สูงอายุทุกคน ไม่ให้ถูกลิดรอน ไม่สนองตอบ ต่อหลักเกณฑ์ใหม่



3. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยกระดับการเปลี่ยนเบี้ยยังชีพให้เป็นบำนาญถ้วนหน้า โดยกฎหมายรองรับ ไม่ใช่ ใช้นโยบายจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตามมติคณะรัฐมนตรี



4. กระทรวงการคลัง ตัดงบรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และหาแหล่งรายได้ใหม่ ๆ เข้ารัฐ เพื่อเพิ่มรายได้ มาจัดสวัสดิการให้ประชาชนแบบถ้วนหน้า



5.รัฐบาลใหม่ ต้องผลักดัน ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ บรรจุสิทธิแบบถ้วนหน้า



ซึ่งปลัดพม.กล่าวถึงจุดยืน ในฐานะเลขาฯคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ของ พม. ต้องปกป้องสิทธิ์ผู้สูงอายุอยู่แล้ว พร้อมให้คำสัญญา จะไม่ให้ประชาชนเสียศรัทธาอย่างแน่นอน ส่วนจะไปแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยใหม่นั้น ไม่ใช่ของ กระทรวง พม.ไม่สามารถไปก้าวก่ายได้



ช่วงท้ายหลังยื่นหนังสือ เครือข่ายประชาชนได้ทำ "กิจกรรมนอนตาย" เป็นเชิงสัญลักษณ์ สะท้อนให้เห็นว่า ถ้า 3 กระทรวง (กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ) รับลูกกัน และมีการปรับเกณฑ์จ่ายเงินผู้สูงอายุ จะมีผู้สูงอายุบางคนไม่ได้รับสิทธิ ก็ต้องตายอย่างแน่นอน



ซึ่งปลัดพม. ได้เอื้อมมือไปดึงผู้สูงอายุ ที่นอนทำกิจกรรมอยู่ พร้อมพูดว่า "ไม่ตายครับ พม.จะเป็นผู้ดึงมือผู้สูงอายุ ออกมาจากความตายเอง" ทำให้ได้รับเสียงปรบมือ จากผู้ที่มายื่นหนังสือ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/QRVvD0LlD3Y