รัฐบาลรักษาการ เคลียร์ดรามา ‘เบี้ยผู้สูงอายุ’ แจงยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ย้ำไม่มีนโยบายลด มีแต่เพิ่ม

กรณีเบี้ยผู้สูงอายุ ที่เป็นดรามา หลังกระทรวงมหาดไทยออกเกณฑ์การให้เงินดูแลผู้สูงอายุออกมาใหม่ เปลี่ยนจากให้ทุกคน (ถ้วนหน้า)เป็นให้เฉพาะคนจน วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ ออกมาย้ำอีกครั้งว่า ในทางปฏิบัติ ตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ถ้าจะเปลี่ยน ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง การปรับหลักเกณฑ์จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุใหม่ ว่า เดิมมีการยกร่าง ระเบียบเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุตามที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ แต่ต่อมากรมบัญชีกลางแจ้งมาว่า ผู้ที่ได้รายได้อื่น เช่น เบี้ยบำนาญ ทำให้มีการเรียกจ่ายเงินคืนประชาชน จึงเกิดปัญหาขึ้น

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จึงได้ยื่นเรื่องต่อกระทรวง พม. (กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) จากนั้นกระทรวงได้มีการส่งระเบียบไปให้กฤษฎีกาตีความ ซึ่งกฤษฎีกาตีความว่าระเบียบที่ออกมาไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ

จึงทำให้กระทรวงมหาดไทยต้องออกระเบียบใหม่ ที่จะต้องให้เบี้ยผู้สูงอายุอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม และคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติจะกำหนดรายละเอียดออกมาอีกที

ทั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มีอำนาจ เพราะผูกพันกับนโยบายของรัฐบาลใหม่ ใช้งบประมาณจำนวนมาก

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพอยู่ตอนนี้ ก็จะยังได้รับเหมือนเดิม ส่วนผู้ที่ครบอายุใหม่ ก็ยังสามารถรับได้ตามเกณฑ์เดิม หากยังไม่ออกกำหนดใหม่มา และ หากดูสถานการณ์ที่พูดกันตอนนี้ ประชาชนน่าจะได้ประโยชน์


"จุรินทร์" ยัน บอร์ดผู้สูงอายุ ไม่มีนโยบายปรับลด "เบี้ยผู้สูงอายุ" มีแต่จะเพิ่ม

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ กล่าวว่า ในส่วนของคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ยังไม่มีนโยบายปรับลดเงินและเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และที่ผ่านมาได้เข้าไปแก้ไขปัญหาการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซ้ำซ้อนจนได้ข้อยุติ กว่า 30,000 ราย โดยเปิดโอกาสให้รับเบี้ยซ้ำซ้อนได้ และไม่ต้องนำมาจ่ายคืน

ยืนยันไม่มีนโยบายลดเบี้ยยังชีพ มีแต่การศึกษาหลักการที่จะเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับค่าครองชีพและภาวะเศรษฐกิจ

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองแรกที่เริ่มต้นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยเหลือให้ผู้สูงอายุมีรายได้ในการยังชีพ


"ธนกร" ปัดวางยารัฐบาลใหม่ ปมเบี้ยผู้สูงอายุ ขออย่าบิดเบือน

เรื่องนี้ยังมีอีกหลายมุม อย่างคุณธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พูดถึงประเด็นเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุที่เป็นดรามา ว่าเราต้องอยู่กับโลกความเป็นจริง และ คิดว่าเป็นการปรับเพื่อแก้ปัญหาแบบพุ่งเป้า เหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายไว้ ย้ำว่าความเป็นธรรมต้องมี และมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น คนรวยอายุ 80 ปี ควรจะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุหรือไม่

ฉะนั้นอย่าเอาเรื่องแบบนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อบิดเบือนให้ประชาชนตกใจและไม่เข้าใจ ให้ร้ายรัฐบาลรักษาการ

คุณธนกร ย้ำว่าเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่การวางยารัฐบาลใหม่ และเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน รวมถึงระเบียบที่ออกมาจะทำให้กรมการปกครองส่วนท้องถิ่นทำงานได้ง่ายขึ้น


"พท." ติงรัฐบาลรักษาการ ปรับเกณฑ์ "เบี้ยผู้สูงอายุ" เพิ่มความยุ่งยาก "รัฐบาลใหม่"

ส่วนว่าที่รัฐบาลใหม่ว่าอย่างไร เช้านี้ คุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ก็บอกไม่เห็นด้วยกับการออกประกาศเปลี่ยนหลักเกณฑ์เบี้ยผู้สูงอายุ ของรัฐบาลรักษาการ เพราะเพิ่มความยุ่งยากให้รัฐบาลใหม่ หากต้องการให้เป็นรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าก็จะต้องมีการแก้ไขระเบียบใหม่อีกครั้ง

แต่ทั้งนี้ หากมองในเรื่องของการคลัง ส่วนตัวเห็นด้วยกับแบบเฉพาะเจาะจงให้คนที่เดือดร้อนก่อนได้รับการช่วยเหลือก่อน แต่ปัญหาคือการพิสูจน์ความยากจนซึ่งไม่สามารถใช้ฐานจากบัตรคนจนได้เพราะ 80% ของคนที่มีบัตรคนจนไม่ได้จนจริง ดังนั้นการใช้ข้อมูลนี้มาออกแบบนโยบายในอนาคตจึง เป็นการกัดกระดุมที่ผิดตั้งแต่เม็ดแรก วิธีนี้จึงไม่เหมาะสมเพราะไทยยังไม่มีระบบคัดกรองที่ดี ตนจึงเห็นว่าควรใช้ แบบถ้วนหน้าไปก่อนจนกว่าที่ไทยจะมีระบบคัดกรองที่ดีและพิสูจน์ได้ว่าใครที่มีความจำเป็นต่อมาตรการทางการครั้งนี้จริง ๆ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/tTzkxJSSoAk