เลือกตั้งและการเมือง
'ชัยธวัช' ห่วงเพื่อไทยโดนขั้วอำนาจเดิมควบคุม - 'ภูมิธรรม' ชี้สื่อคิดไปเอง ปมพรรคร่วมกดดัน
โดย nattachat_c
15 ส.ค. 2566
11 views
เมื่อวานนี้ (14 ส.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในกรณีต่างๆ ดังนี้
จากกระแสข่าว บางฝ่ายต้องการให้พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากนายเศรษฐา ทวีสิน เป็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นราว มีแต่การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน แต่เราก็ชัดเจนยืนยันจะเสนอ นายเศรษฐา ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะไม่ได้มีปัญหาอะไร และมีความพร้อมทุกอย่าง
ส่วนที่เป็นประเด็นเรื่องคุณสมบัติ
เรื่องนี้ไม่มีปัญหาแล้ว เพราะในทางกฎหมาย ทางบริษัทแสนสิริก็ยืนยันชัดเจนแล้ว ขณะเดียวกันนายเศรษฐาก็ได้ดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายเพื่อดำเนินการปกป้องตนเอง การบริหารจัดการเรื่องภาษี ขณะที่นายเศรษฐาเป็นผู้บริหารของบริษัท แสนสิริ นั้น ในวงการภาษี ในวงการราชการ เป็นเรื่องที่หลายคนยอมรับว่า การบริหารจัดการภาษีเป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย จึงเป็นเพียงการบริหารจัดการภาษี ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเลี่ยงภาษี ดังนั้น การกระทำที่ถูกกฎหมาย จึงไม่ใช่เรื่องที่ผิดจริยธรรม และพรรคเพื่อไทยก็ภูมิใจในตัวของ นายเศรษฐา จึงไม่มีเหตุผลใดที่พรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เท่าที่คุยกับพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เรื่องนี้ก็ยังไม่เป็นปัญหาจึงไม่ทราบว่า สื่อมวลชนไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน
ส่วนจะต้องพูดคุยกับทางพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลรวมถึง สว.เพื่อทำความเข้าใจเรื่องนี้เพิ่มเติมหรือไม่นั้น เพราะก่อนหน้านี้ เพื่อไทยเคยบอกว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องม้วนเดียวจบ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาอะไร ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือทำให้สมาชิกวุฒิสภามั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยมีเสียงสนับสนุนเพียงพอในการตั้งรัฐบาลเกิน 250 เสียง และแคนดิเดตเพื่อไทยก็ถูกต้องตามกฏหมาย ไม่มีคุณสมบัติใดที่ขัดข้อง ดังนั้น ก่อนวันที่จะมีการโหวตเลือกนายกฯ จะเห็นชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยมีรัฐบาลเกิน 250 เสียงแน่นอน
เมื่อถามว่าจะมีการเปิดตัวพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลก่อนหรือไม่
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องทำให้เกิดความชัดเจนเรื่องคนที่จะมาร่วมรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ ก็มีคนติดต่อเยอะอยู่แล้ว การตั้งรัฐบาลให้เกิน 250 เสียง จึงไม่ใช่ปัญหาของพรรคเพื่อไทย
ส่วนจะมีพรรคของ 2 ลุงด้วย หรือไม่นั้น
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็มีทุกพรรคที่อยู่ในสภาเวลานี้
ถามย้ำว่า จะมีการเปิดตัวก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่
นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่เงื่อนเวลา ความพร้อม และการคุยกันของแต่ละพรรค
ส่วนจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ 315 เสียง หรือไม่นั้น
นายภูมิธรรม ยืนยันว่า เกิน 250 เสียงแน่นอน รอให้ถึงเวลา จะมีความชัดเจนแน่นอนว่าได้กี่เสียง
เมื่อถามถึง กรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรรคร่วมกดดันพรรคเพื่อไทย ให้มีการแบ่งกระทรวงให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และ นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่อยากให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมอยู่กระทรวงเดิม
นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายเศรษฐาพูดในหลักการ ถ้าทำได้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องให้เกียรติหัวหน้าพรรคและพรรคที่มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ต้องมีการพูดคุยในรายละเอียด ให้เห็นพ้องต้องกันทั้งหมด แต่การพูดคุยกัน เราต้องเริ่มต้นจากการเอาวาระประเทศและประชาชนเป็นหลัก โดยให้การยอมรับให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี
แต่เวลานี้ การพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ก็ยอมรับว่า มีการพูดคุยบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียดของกระทรวงต่าง ๆ ดังนั้น ที่มีการนำเสนอข่าวว่าใครอยู่กระทรวงใดนั้น เป็นเรื่องที่สื่อคาดการณ์ไปเอง ยังไม่มีความชัดเจนว่า ใครได้กระทรวงใด แม้แต่พรรคเพื่อไทยและตนเอง ก็ยังไม่ทราบเลยว่า ตนเองจะมีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ และจะได้อยู่กระทรวงใด เรื่องนี้ยังไม่มีใครทราบเพราะยังไม่ได้คุยกัน
เพียงแต่ แต่ละพรรคอาจจะบอกได้ว่า ตนเองมีเจตนาหรือมีความเหมาะสมในกระทรวงใด ซึ่งการจัดรัฐมนตรีจะต้องมีการคำนึงหลายองค์ประกอบ ทั้งเรื่องนโยบายและความสามารถ เพื่อให้สอดรับกับการทำงานที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล ที่คำนึงถึงวาระประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ
เมื่อถามถึง กรณีที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุชัดเจนว่า จะต้องมีการพูดคุยเรื่องการแบ่งกระทรวงให้ชัด ก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องคุยกัน แต่ทุกอย่างต้องมีหลักการและเหตุผล ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีการพูดคุยกัน เพราะเป็นรัฐบาลผสม เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคทุกพรรคจะต้องพูดคุยกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นประเด็นหรือปัญหาอะไร
ยืนยันว่า พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้มีการกดดันใด ๆ เรื่องการแบ่งกระทรวง ต่างฝ่ายต่างเข้าใจถึงวิกฤติประเทศที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และรู้ว่าจะช่วยกันออกจากวิกฤตินี้ให้ได้อย่างไร
การเป็นรัฐบาลผสมก็ต้องเข้าใจอยู่แล้วว่า ต้องร่วมกันรับผิดชอบ การพูดคุยกันที่ผ่านมา ก็ยังไม่เห็นปัญหาใด ๆ ก็ยังรู้สึกว่า เราร่วมกันได้ดี ส่วนใหญ่เป็นการคาดการณ์ของภายนอก เท่านั้นเอง
ถามว่า ในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะให้นายเศรษฐาไปแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในระเบียบรัฐสภาไม่มีการให้แสดงวิสัยทัศน์ ที่ผ่านมาแม้กระทั่ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ได้แสดงวิสัยทัศน์ หรือแม้แต่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ไม่ได้แสดงวิสัยทัศน์ แต่เป็นการใช้สิทธิ์ที่ถูกพาดพิง จึงใช้โอกาสแสดงทัศนะในเรื่องต่างๆ ดังนั้น จึงให้เป็นไปตามกฎระเบียบ เพราะนายเศรษฐาไม่ได้เป็น สส.
ถามย้ำว่า หากรัฐสภาเปิดโอกาสให้นายเศรษฐามาแสดงวิสัยทัศน์ได้ พรรคเพื่อไทยพร้อมให้เจ้าตัวเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่
นายภูมิธรรม ย้ำว่า ให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์
-------------
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้า การถามความเห็นประชาชน ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ว่า
เป็นเรื่องที่ สส.ทำกันเอง ไม่ได้เป็นการมอบหมายจากพรรค ซึ่งจะนำเรื่องนี้กลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง ในการประชุม สส.ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยตอนนี้ ยังไม่ได้คุยกันถึงทิศทางของพรรค คาดว่าจะได้ข้อสรุปในที่ประชุม สส.พรุ่งนี้
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย เริ่มถูกกระแสกดดันจากพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ขอให้จัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ก่อนโหวตนายกฯ รวมถึงปัญหาเรื่องของตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เป็นสถานการณ์ที่น่าลำบากของพรรคเพื่อไทยหรือไม่
นายชัยธวัช กล่าวว่า การจัดแบ่งตำแหน่งคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องปกติ ในการจัดตั้งรัฐบาลในทางปฏิบัติ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป เราก็มองด้วยความเป็นห่วงว่า การจัดตั้งรัฐบาลในสถานการณ์แบบนี้ ก็น่าจะถูกเข้ามากำกับควบคุมโดยขั้วอำนาจเดิมมาก เป็นสิ่งที่น่าจะปฏิเสธด้วยยาก
ส่วนพรรคก้าวไกลอยากให้กลับมาเป็น 312 เสียงเหมือนเดิมหรือไม่
เรื่องนี้คงเป็นการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย ตอนนี้พรรคก้าวไกลอยู่ในโหมดเตรียมตัวทำงาน ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน เราก็ใช้ช่วงเวลานี้ในการเตรียมงานภายในพรรค พัฒนาศักยภาพความพร้อมในการทำงานของ สส.ใหม่
ส่วนกรณี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทวีตข้อความยืนยัน จะไม่ลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ง่ายๆ หลังพรรคก้าวไกลถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้านนั้น
นายปดิพัทธ์ ระบุว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกัน คงต้องคุยกันอีกครั้ง หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ
ส่วนการรับสมัคร สส. ในการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดระยอง
นายชัยธวัช เปิดเผยว่า ตนกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก็จะเดินทางไปด้วยตัวเอง หลังได้หมายเลขผู้สมัครแล้ว ก็จะรีบประชาสัมพันธ์ ทั้งในอำเภอแกลง และเขาชะเมา เพราะยังกังวลว่า มีประชาชนจำนวนมาก ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งซ่อม
และตามปกติแล้ว การเลือกตั้งซ่อม ประชาชนจะไม่ตื่นตัวเท่ากับเลือกตั้งทั่วไป ยืนยันจะสู้เต็มที่ เพราะเท่าที่ได้ไปสัมผัสพูดคุยกับประชาชน ก็ทำให้มีความมั่นใจว่า ก้าวไกลยังอยู่ในใจประชาชน
------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/MSApPGPmZCI