เลือกตั้งและการเมือง
รทสช.-พปชร. ประสานเสียง แก้ไข รธน.ทั้งฉบับ ต้องทำประชามติ 3 ครั้ง
โดย nattachat_c
4 พ.ย. 2567
19 views
วานนี้ (3 พ.ย. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอแนวทางเพื่อเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการลดทำประชามติเหลือ 2 ครั้ง ว่า เรื่องนี้เคยเสนอเข้าสู่สภาแล้ว และที่ประชุมเคยมีมติว่า เราต้องปฏิบัติตามคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นั่นคือต้องทำประชามติ 3 ครั้ง นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญยังมีบทบัญญัติว่า หากจะแก้ไขมาตราใด ต้องมีการทําประชามติอีกครั้งด้วย ดังนั้นหลักการของพรรค รทสช.คือ ต้องทําตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จไม่ทันภายในสมัยนี้ จะเป็นผลเสียต่อรัฐบาลหรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า พรรค รทสช.ไม่ได้ขัดข้องในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ขอให้ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอย่างเคร่งครัด และต้องไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 หรือมาตราที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น
“หากแก้ไขไม่ทัน เราก็ต้องชี้แจงกับประชาชนว่าเหตุผลเกิดจากอะไร ซึ่งคิดว่าประชาชนจะเข้าใจ ดีกว่าไปดันทุรังแก้โดยที่ผิดกฎหมาย และถูกร้อง ก็จะเป็นปัญหาได้ในภายหลัง”
นายอัครเดช กล่าวอีกว่า หากพรรค พท.มีข้อเสนอใหม่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ขอให้นํามาหารือ พรรค รทสช.จะได้นำเข้าสู่ที่ประชุมพรรค เพื่อให้กรรมการบริหารพรรคและ สส.มีมติว่าจะไปในทิศทางใด
ขณะเดียวกัน นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอแนวทางเร่งรัดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจลดการทําประชามติเหลือ 2 ครั้ง เพราะคำวินิจฉัยส่วนตนของศาลรัฐธรรมนูญมี 6 เสียง ที่บอกว่าเพียงพอแล้ว ว่า การไปนำคำวินิจฉัยส่วนตนมาใช้พิจารณาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ น่าจะไม่ถูกต้อง เพราะตามรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่าให้มีผลผูกพันทุกองค์กร ซึ่งศาลได้วินิจฉัยไว้ชัดเจนแล้วว่า ก่อนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ต้องทำประชามติถามประชาชนก่อน ดังนั้น มองว่าการจะใช้เรื่องนี้เพื่อทำประชามติ 2 ครั้ง จึงไม่ถูกต้อง หากดําเนินการไป ก็จะมีปัญหาเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรค พท.ยืนยันจะใช้แนวทางดังกล่าว จะขัดต่อข้อกฎหมายใดหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เชื่อว่าสภาจะไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนเดิม เพราะครั้งก่อน ประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ฝ่ายกฎหมายของสภาพิจารณา ซึ่งเขาไม่กล้าบรรจุเป็นวาระ เพราะถือว่าเป็นญัตติที่ไม่ชอบ ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/hDWWotpJu5c