DSI เตือนระวังมิจฉาชีพ AI เลียนเสียงนศ. โทรหลอกขอเงินผู้ปกครอง

ดีอีเอส เตือนระวังมิจฉาชีพ AI เลียนเสียงนักศึกษา หลอกขอเงินผู้ปกครองให้หลงเชื่อว่าถูกเรียกค่าไถ่


จากกรณีที่แก๊งมิจฉาชีพ คอลเซ็นเตอร์ กำลังระบาดอย่างหนัก มีหลอกลวงให้หลงเชื่อในรูปแบบต่างๆ เช่น อ้างชื่อหน่วยงานภาครัฐ หรือการส่ง SMS หลอกลวง ล่าสุดมิจฉาชีพมีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ มีการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เลียนเสียงนักศึกษาหรือผู้เสียหาย หลอกให้ผู้ปกครองหลงเชื่อว่านักศึกษาถูกเรียกค่าไถ่ พร้อมขู่โอนเงินเรียกค่าไถ่

ทั้งนี้ ดีเอสไอ ตรวจสอบพบว่า เป็นวิธีใหม่ของคนร้าย ที่โทรศัพท์ผ่านระบบ Voip หรือระบบ Internet โทรเข้ามือถือของผู้เสียหาย โดยสุ่มหรือเลือกกลุ่มนักศึกษา แล้วอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เช่น ไปรษณีย์ ธนาคาร ตำรวจ เพื่อข่มขู่ทำให้ผู้เสียหายตกใจกลัวว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือมีหมายจับต่างๆ


จากนั้น อ้างว่าสามารถช่วยเหลือไม่ให้ถูกดำเนินคดีได้และเสนอให้ความช่วยเหลือ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินมายังบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นบัญชีม้า แล้วข่มขู่ด้วยวิธีการต่างๆ ให้กลัว และหลอกลวงพร้อมช่วยเหลือเหยื่อ แล้วจะหลอกให้เหยื่อให้ออกจากห้องพัก และให้ไปเปิดซิมโทรศัพท์ใหม่ ซื้อเชือกและเทปกาวจากร้านค้า เพื่อใช้พูดคุยโต้ตอบกับมิจฉาชีพ และสั่งให้นักศึกษาทำทีปิดโทรศัพท์


และให้นักศึกษาใช้เทปกาวและเชือกมัดมือมัดเท้าตัวเอง ถ่ายคลิปวิดีโอโดยใช้เครื่องของนักศึกษาเอง เพื่อสร้างสถานการณ์ว่าถูกลักพาตัวและส่งคลิปดังกล่าวให้มิจฉาชีพทางแอปพลิเคชันหรือทางโทรศัพท์ เมื่อได้รับคลิปหรือภาพถ่ายแล้วมิจฉาชีพจะนำรูปภาพหรือเสียงปลอมของบุตรหลาน ใช้ AI ในการเลียนเสียง


จากนั้น การหลอกชั้นที่สอง มิจฉาชีพจะโทรศัพท์หลอกพ่อแม่และผู้ปกครอง เพื่อเรียกค่าไถ่ โดยจะส่งคลิปไปให้พ่อแม่และผู้ปกครอง และให้ผู้ปกครองโอนเงิน


ทั้งนี้ เตือนภัยและแนวทางป้องกันสำหรับ นักเรียน นักศึกษา

1. สังเกตเบอร์ที่โทรเข้ามาก่อนรับสาย หากเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก หรือเป็นเบอร์ที่มีเครื่องหมาย +697 +698 นำหน้า ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์


2.สังเกตความผิดปกติของปลายสายได้จากคำถาม เช่น การถามชื่อ และข้อมูลส่วนตัวโดยตรง หรือการใช้ข้อความอัตโนมัติในการตอบรับ แล้วให้เรากดเบอร์เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ เป็นต้น ถ้ามีการสนทนาทาง Video call ให้มีสติและสังเกตปากกับเสียงตรงกันหรือไม่ หรือภาพและท่าทางมีความผิดปกติหรือไม่ (มิจฉาชีพสามารถใช้โปรแกรมปลอมใบหน้าขณะสนทนาได้)


3. หากมิจฉาชีพข่มขู่ว่ากระทำผิด และต้องไปแจ้งความหรือติดต่อเจ้าหน้าที่ หากมั่นใจว่าปลายสายเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือมิจฉาชีพ ให้วางสายทันที


4. หากมิจฉาชีพให้โอนเงินห้ามโอนเงินเด็ดขาด และ ห้ามบอกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงิน


5. โหลดแอปฯ Whoscall ซึ่งสามารถตรวจสอบหมายเลข และจะระบุหมายเลขที่ไม่รู้จัก ช่วยให้ทราบว่าใครโทรมาทันที

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/V7DdJtCR6Qg