แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งตรวจสอบ โกดัง ร้านขายพลุประทัด ทุกจังหวัดภาคใต้ มีใบอนุญาตประกอบการหรือไม่

แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งตรวจสอบละเอียด โกดัง ร้านขายพลุประทัด ทุกจังหวัดภาคใต้ มีใบอนุญาตประกอบการถูกต้องหรือไม่ / พฐ.ตรวจที่เกิดเหตุเบื้องต้น พบปริมาณดินประสิว ดินดำ เป็นตัน ตำรวจออกหมายเรียกผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีแล้ว


กรณีเกิดเหตุโกดังเก็บพลุ ในตลาดมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ระเบิด ขณะที่ช่างกำลังเชื่อม ต่อเติมชั้นวางของ ภายในโกดัง โดยมีสะเก็ดไฟกระเด็นไปถูกพลุ ที่เก็บไว้กว่า 2 คันรถสิบล้อ จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว รัศมีทำลายล้างกว่า 500 เมตร มีผู้เสียชีวิต 12 คน บาดเจ็บ 121 คน เหตุเกิดช่วงบ่ายเมื่อวานนี้


วันนี้ นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส / พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาค 4 / พลตำรวจตรี อนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส / พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุโกดังเก็บประทัด


พร้อมสั่งเปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุดังกล่าว พร้อมกำชับให้ นายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์หน้าสถานที่เกิดเหตุ จัดตั้งศูนย์พักพิง ณ สนามกีฬามูโนะ / และยังได้เปิดโรงครัวพระราชทาน แด่ผู้ประสบภัย 1,000 กล่อง ของเหล่ากาชาดอีก 1,000 กล่อง


ทั้งนี้ได้เข้าเยี่ยมชาวบ้านที่ประสบเหตุ ที่เข้าพักในศูนย์พักพิงชั่วคราว 2 ครัวเรือน รวม 12 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บ และบ้านพักอาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง เพื่อมอบถุงยังชีพและพูดคุยให้กำลังใจ ซึ่งทุกคนมีขวัญกำลังใจ และเชื่อว่าทางการจะให้ความช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่


ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 50 นาย ได้กระจายกำลังเข้าเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ / ส่วนตำรวจ สภ.มูโนะ ได้แยกย้ายกันทยอยสอบปากคำชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย


โดยแม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ต้องสอบสวนดำเนินคดี ว่าโกดังนี้ได้ขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้ก่อนช่วงเดือนรอมฎอน ตนได้สั่งการไปแล้วครั้งหนึ่งว่า ให้ตรวจสอบร้านค้าที่ขายพลุประทัด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ยังมาเกิดเหตุขึ้น หลังจากนี้ได้กำชับให้ไปตรวจสอบอย่างละเอียดทุกร้าน ทุกโกดัง ทุกจังหวัด ทั้งเรื่องการครอบครอง การเคลื่อนย้าย หรือการจำหน่าย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้ามประกอบกิจการ แต่ต้องทำให้ถูกต้อง ถูกกฎหมาย


ต่อมาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าว ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย พลตำรวจตรี อนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เผยว่า จากการตรวจสอบหลุมลึก 2 เมตร จาก 2 หลุม ในที่เกิดเหตุ พบดินประสิว ดินดำ จำนวนมาก มีปริมาณเป็นตัน ซึ่งทราบว่า ได้มีการลำเลียงมาจากนอกพื้นที่ ขณะนี้ได้ออกหมายเรียกผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีแล้ว


ในส่วนของการกระทำความผิดหลัก ๆ มี 3 ข้อหา คือ 1.ทำให้ให้เกิดการระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก 2.เรื่องการครอบครองระเบิดเพลิง และ 3.พื้นที่จังหวัดภาคใต้ เป็นพื้นที่เฉพาะ ในเรื่องของความมั่นคงในการจำหน่ายดอกไม้เพลิง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/10vcgrBEOnE