เลือกตั้งและการเมือง

'นครชัย' สส.ก้าวไกล เตรียมลาออกจากตำแหน่ง แจงอดีตเคยติดคุก ยันจะต่อสู้คดีอย่างถึงที่สุด

โดย nattachat_c

28 ก.ค. 2566

591 views

วานนี้ (27 ก.ค. 66) นายนครชัย ขุนณรงค์ สส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตัวเองกรณีเคยติดคุก ระบุว่า “ตลอดสองวันที่ผ่านมา มีผู้สอบถามเข้ามามากมายว่าผมเคยติดคุกจริงหรือไม่ ผมขออภัยที่ไม่สามารถตอบได้อย่างทั่วถึง จึงขออนุญาตเรียบเรียงเรื่องทั้งหมดไว้ตรงนี้ เพื่อชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


เหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องติดคุก เกิดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2542 หรือ 24 ปีมาแล้ว ตอนนั้นผมอายุประมาณ 20 ปี กำลังวัยรุ่น วันนั้นผมสังสรรค์อยู่กับเพื่อนหลายคนในห้อง มีคนเดินเข้าออกไปมาเรื่อยๆ ผมสังเกตเห็นนาฬิกาผู้หญิงเรือนเล็กๆ เรือนหนึ่ง วางอยู่บนโต๊ะในห้อง ถามว่าของใคร ก็ไม่มีใครตอบ เลยหยิบมาดูเล่นๆ


จากนั้นไม่นาน ตำรวจได้บุกเข้ามาในห้อง จับกุมผมและเพื่อนอีกคนหนึ่ง ที่สารภาพว่าเป็นผู้ขโมยนาฬิการาคาประมาณ 1,000 บาทเรือนนั้นมา


ผมและเพื่อนถูกนำตัวไปโรงพัก ตำรวจให้เซ็นเอกสาร โดยบอกว่าเรื่องจะได้จบๆ ผมมาทราบทีหลังว่า เอกสารที่ผมได้เซ็นไป คือเอกสารยอมรับสารภาพ แม้ว่าเพื่อนผมจะให้การกับตำรวจไปแล้วว่า ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง


สุดท้าย ผมต้องโทษจำคุก 3 ปี และการรับสารภาพ ทำให้ได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน ผมรับโทษตามนั้น และออกมาประกอบอาชีพสุจริตมาโดยตลอด


จนกระทั่ง ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. เขต 3 ระยอง ในนามพรรคก้าวไกล ผมเชื่อว่าอดีตของผม ไม่ทำให้ผมขาดคุณสมบัติ เพราะผมเชื่อว่าข้อหาของผมที่ทำให้ผมติดคุกไม่ใช่ฐานความผิดที่บัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญ


ผมขออภัยพี่น้องประชาชนทุกคนที่เลือกผมเข้ามาเป็น สส. ผมขอน้อมรับคำวิจารณ์และกระบวนการทางกฎหมายที่จะตามมาหลังจากนี้ทั้งหมด และจะต่อสู้คดีอย่างถึงที่สุดเพื่อยืนยันว่า ผมไม่ได้จงใจสมัคร สส. ทั้งที่รู้ว่าขาดคุณสมบัติ


อย่างไรก็ตาม เพื่อความสง่างามในการดำรงตำแหน่ง สส. ผมขอแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน โดยการลาออกจากตำแหน่ง ในสัปดาห์หน้าครับ”

---------------
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 ได้บัญญัติคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังต่อไป


ลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง (มาตรา 42)

(9) เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ


12) เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม


หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วย

  • ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ
  • ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา
  • ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
  • กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า
  • กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก
  • กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
  • กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน

---------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Z-jbxD5UZ10

คุณอาจสนใจ

Related News