เจ้าอาวาสวัดร่ายยาวแจงเหตุ หนุ่มเตรียมบวชจมน้ำดับปริศนา ไม่เกี่ยวกุฏิเฮี้ยน

จากกรณีที่มีการพบศพชายอายุ 24 ปี ที่เตรียมจะบวช แล้วเสียชีวิตอยู่ในหนองน้ำ ที่ตำบลทุ่งควายกิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่งมีการเผยแพร่ข่าวว่า ผู้ตายเป็นคนกลัวผี และในวัดที่ผู้ตายไปพักค้างเพื่อฝึกท่องมนต์รออุปสมบทมีกุฏิเฮี้ยน  ล่าสุดพระปลัดยุทธนา จารุธรรมโม เจ้าอาวาสวัดชุมนุมสูง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ที่ผู้ตายไปพักค้างได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า


รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะผู้ตายเป็นเด็กดี มีความตั้งใจที่จะบวชเรียน ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ทางวัดก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะเหมือนกับว่าดูแลบุตรหลานของชาวบ้านที่นำมาฝากไว้ไม่ดี ซึ่งทางวัดก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เช่นกัน  ทางวัดก็เสียใจเหมือนกับพ่อแม่และญาติผู้ตาย เพราะก็ตั้งใจที่จะให้บุตรหลานได้บวชเรียน


ข่าวที่ออกไปอาจมีการบิดเบือนความจริง โดยเฉพาะเรื่องกุฏิผีเฮี้ยน ไม่เป็นความจริง ที่ไม่มีพระเข้าอยู่ในกุฏิหลังนี้ก็เพราะชำรุด ไม่ได้มีเรื่องผีสางแต่ประการใด ญาติโยมที่อาศัยอยู่ที่ชุมนุมสูงมา30-40 ปีก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้  อาตมภาพอยู่ที่วัดชุมนุมสูงมา 10 ปีก็เพิ่งทราบว่ามีข่าวกุฏิหลังนี้มีผีเฮี้ยน บุคคลผู้ให้ข่าวเรื่องนี้ก็ไม่เคยมาทำบุญที่วัด


ส่วนเรื่องไทม์ไลน์ในการหายตัวไปของผู้เสียชีวิต วันที่ 11 ก.ค. 66 อาตมภาพ เดินทางไปประชุมที่ จ.จันทบุรี ตั้งแต่ 07.00 น. เวลาประมาณ 9.00 น. ทางผู้เสียชีวิตโทรมาขอให้อาตมภาพกลับมาที่วัด อาตมภาพจึงเร่งเดินทางกลับมาถึงวัด เวลาประมาณ 11.30 น. ทำให้ทราบในวันนี้ว่าผู้เสียชีวิตกลัวผี จึงให้ผู้เสียชีวิตนอนด้วยในคืนวันที่ 11 ก.ค. 66 เพียง 1 คืนเท่านั้น

วันที่ 12 ก.ค. 66 ผู้เสียชีวิตตามพระไปกิจนิมนต์เพลและมาติกาในช่วงบ่าย อาตมภาพมีภารกิจเตรียมการประชุมพระสังฆาธิการตามมติ มส.ที่143/2546 ที่จะมีขึ้นในวันรุ่งขึ้น ในคืนวันที่ 12 ก.ค. 66 จึงไปพักค้างคืนยังสถานที่จัดการประชุม และให้ฝากให้พระภิกษุสามเณรช่วยดูแล ให้ผู้เสียชีวิตย้ายที่พักไปอยู่บริเวณกุฏินักเรียนบาลี เพราะมีพระภิกษุสามเณรอยู่รวมกันจักได้อุ่นใจ และได้สั่งพระเณรว่าถ้าผู้เสียชีวิตหลับ ไม่ต้องเรียก เพราะอยากให้นอนให้เต็มที่จะได้ไม่คิดมาก


วันที่ 13 ก.ค. 66 เวลาประมาณ 01.00 -02.00 น. พระภิกษุท่านขอตัวเข้าจำวัดเพราะมีภารกิจต้องบิณฑบาต ก่อนจำวัดท่านถามผู้เสียชีวิตว่า นอนคนเดียวได้หรือไม่ ผู้เสียชีวิตตอบว่า ได้ ท่านจึงเข้าจำวัด และเห็นผู้เสียชีวิตเข้าห้องนอนตามปกติ เวลาประมาณ 8.30 น. ท่านไม่เห็นผู้เสียชีวิตขึ้นไปกินข้าว ท่านจึงมาเรียก แต่ไม่พบ จึงโทรหาพบว่าโทรศัพท์อยู่ในที่พัก ท่านก็ไม่ได้คิดว่าจะเกิดเรื่องร้าย คิดว่ามีโยมมารับกลับบ้าน รีบกลับจนลืมโทรศัพท์


เวลา 17.30 น. อาตมภาพพร้อมผู้ช่วยเจ้าอาวาสเสร็จสิ้นภารกิจประชุม กลับถึงวัดจึงทราบว่าผู้เสียชีวิตไม่อยู่ที่วัด จึงรีบโทรศัพท์เพื่อสอบถามทางญาติ และพบว่าเกิดเหตุการณ์อย่างที่ทั้งทั้งหลายทราบกัน