‘พิธา’ ถือสองไมค์ ปราศรัยขอบคุณชาวปทุมธานี เชื่อโหวตนายกฯ ผ่านด้วยดี

‘พิธา’ ลงพื้นที่ขอบคุณชาวปทุมธานี เชื่อโหวตนายกฯ ผ่านด้วยดี บอกอย่าเหมารวม ส.ว.ต้องให้ความเป็นธรรม ส.ว. ที่กล้าหาญ กล้าตัดสินใจ เขื่อ ส.ว.ไม่โหวตสวนมติมหาประชาชนแน่ ย้ำอย่าให้การเมืองใหญ่กว่าปัญหา ปชช. ฝากถึงสมาชิกรัฐสภา ถ้ายังไม่รู้จะเลือกใคร ขอให้มองตา-ฟังเสียงประชาชนที่นี่ ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง

วันที่ 10 ก.ค.2566 เวลา 16.35 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายรัฐมนตรีของพรรค ขึ้นรถแห่พร้อมกับ ส.ส.พรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี ทั้ง 6 เขตที่ชนะการเลือกตั้ง ขอบคุณชาวปทุมธานี ตั้งแต่ถนนลำลูกกาขาเข้า ถนนไสวประชาราษฎร์ เพื่อไปปราศรัยขอบคุณประชาชน บริเวณตลาดกลางลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

ช่วงหนึ่งของการปราศรัยบนรถแห่ นายพิธาให้ความมั่นใจว่า พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย จะร่วมกันทำงานอย่างไร้รอยต่อ

เมื่อมาถึงที่ตลาดลาดสวาย มีประชาชนและแฟนคลับมารอต้อนรับจำนวนมาก แห่กรี๊ดและวิ่งตามรถนายพิธา ก่อนนายพิธาจะเดินไปขึ้นเวทีปราศรัยที่ตั้งอยู่กลางลานจอดรถของตลาด โดยช่วงต้นของการปราศรัย ไมค์เกิดการช็อต ทำให้การพูดติดๆ ดับๆ จนนายพิธา พูดขึ้นว่า “ไมค์ไกลจากลำโพงใช่หรือไม่ กลับไปขึ้นรถปราศรัยดีไหม เสียงมันขาดๆ ก็เอาสองไมค์ไปเลยละกัน ตอนแรกนึกว่ามาปทุมธานีจะไม่มีปัญหาไมค์”

นายพิธากล่าวว่า ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของปทุมธานี ถูกขีดเขียนด้วยพวกเราปทุมธานีเรียบร้อยแล้ว เหลือเวลาอีก 3 วันที่รัฐสภาจะรวมตัวกัน 750 คนในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และตนยังคงยืนยันกับพ่อแม่พี่น้องว่า ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ด้วยดี แล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามมติของมหาประชาชน

การลงพื้นที่ ปราศรัยครั้งนี้เรียบง่ายเหลือเกิน ตนเชื่อเหลือเกินว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี ทั้งเรื่อง กกต.วันนี้ที่ยังไม่มีหมายเรียกมา ถ้ามีเมื่อไหร่พร้อมจะชี้แจง และการพูดคุยกับวุฒิสภาก็เป็นไปได้ด้วยดี ยังมีส.ว.หลายคนที่ยังเป็นปัจเจกชน และยืนยันกับประชาชนว่า ส.ว.ก็เป็นนักการเมืองเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น จะไม่โหวตสวนมติมหาประชาชนแน่นอน พร้อมขอประชาชนปรบมือให้ส.ว.ที่เต็มไปด้วยหลักการและความกล้าหาญ เพื่อที่จะให้โอกาส ซึ่งไม่ใช่แค่ให้พิธา หรือก้าวไกล แต่คือการให้โอกาสปทุมธานีและประเทศไทย ให้พวกเราทุกคนสามารถเดินหน้าไปได้

นายพิธากล่าวว่า เสียดายเหลือเกินที่การลงพื้นที่ครั้งนี้ ตนยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ยังแก้ปัญหาให้คนปทุมธานีไม่ได้เต็มไม้เต็มมือ แต่รอแทบไม่ไหวที่จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และแก้ปัญหาให้ชาวปทุมธานีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ไม่ว่าท่านจะเลือกพรรคก้าวไกลทั้ง 6 เขต หรือเลือกพรรคเพื่อไทย ขอให้ปรบมือให้ตัวเอง 2 พรรคนี้รวมกับอีก 6 พรรค สามารถอนุมานได้ว่า ชาวปทุมธานีต้องการประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิม เมื่อมติประชาชนชัดเจนแล้ว พวกเราจะรออะไร มาร่วมลุ้นไปด้วยกัน 13 กรกฎาคมนี้ เหลือเวลาอีก 3 วันเท่านั้น ที่ทั่วโลกจับตาดูพวกเราว่าเราเป็นประชาธิปไตยแบบไหน คุณค่าแบบไหนที่เราจะร่วมกัน และเราเลือกทางเดินแบบไหนให้กับประเทศไทย

“ในเมื่อพวกท่านออกมาในวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา แล้วร่วมขีดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่เหลือให้เป็นหน้าที่พวกเรานักการเมือง ทั้งสภาล่าง สภาบน พวกเราสามารถยุติความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยการคืนความปกติให้การเมืองไทย ให้โอกาสปทุมธานีเดินไปข้างหน้า”

“เราต้องให้ความเป็นธรรมกับพี่ๆ วุฒิสภา เพราะผมได้ทลายกำแพงลง และได้มีโอกาสพูดคุยกับพวกเขา ผมเห็นแล้วว่าเราไม่สามารถเหมารวมวุฒิสภาได้ พวกเขาเป็นปัจเจกชนที่มีประสบการณ์ มีหลักการและมีความรู้ความสามารถ มีดุลยพินิจ ขอให้ปรบมือให้พวกเขาที่มีความกล้าหาญ และการตัดสินใจที่จะยืนอยู่ข้างประชาชน”

“พอผมได้คุยกับพวกเขา สุดท้ายพวกเราก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก เขาก็เป็นอดีตข้าราชการ เขาก็มีความปรารถนาในช่วงชีวิตราชการของเขา ในการแก้ไขปัญหาให้ชาวปทุมธานี ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาเศรษฐกิจ มันเป็นอย่างนี้เพราะปทุมธานี มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 70 ของประเทศ แต่มีความหนาแน่นเป็นอันดับ 4 ของประเทศ ดูแค่ 2 ตัวเลขนี้ก็รู้ว่ารถติดโคตรๆ มองแค่นี้ก็รู้แล้วว่ามีปัญหาเกี่ยวกับขยะ มลพิษ ปัญหาความแออัด ที่มีในปริมณฑลทั่วๆไป เพราะฉะนั้นปัญหาของประชาชน ที่กองรวมกัน มันใหญ่กว่าการเมืองที่นักการเมืองเล่นกันอยู่ในสภาแน่นอน”

“อย่าให้การเมืองของเรามันใหญ่ไปกว่าความหวังของประชาชน อย่าให้การเล่นการเมืองของนักการเมือง มันใหญ่กว่าปัญหาของประชาชนที่มันหมักหมม สะสมเป็นเวลานาน ให้ประสบการณ์ของท่านเป็นฐาน ให้มีวิธีการทำงานอย่างคิด วิเคราะห์ ให้ความคิดของเยาวชน คนหนุ่มสาว ให้คนที่มีกำลังวังชาอย่างผมอยู่ตรงกลาง ให้เยาวชนคนหนุ่มสาว เขาไปต่อยอดให้ประเทศ ผมรับประกันว่าประเทศไทยจะไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน”

นายพิธาปราศรัยฝากถึงนักการเมืองว่า ถ้าเพื่อนๆ นักการเมือง ผู้แทนราษฎร หรือ ส.ว.ยังไม่รู้ว่าวันที่ 13 นี้ จะโหวตให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ง่ายนิดเดียว ขอให้มองตาประชาชนที่อยู่ที่นี่ ฟังเสียงประชาชนที่อยู่ที่นี่ มองสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เอาแล้วคอร์รัปชัน ระบบบ้านใหญ่ มือใครยาวสาวได้สาวเอา ให้ลองคิดถึงอนาคตของประชาชนให้มากๆ แล้วตัดสินใจเลือกที่จะอยู่ข้างอนาคตและประชาชน แล้ววันที่ปทุมธานีจะเจริญรุ่งเรือง วันที่ประเทศไทยไม่เป็นสองรองใคร แล้วเราจะมาเปลี่ยนแปลงปทุมธานี และประเทศไทย เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไปด้วยกัน

จากนั้นนายพิธาได้ถ่ายรูปร่วมกับประชาชนที่มารอฟังปราศรัย ก่อนจะเดินทางกลับ

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/SLX_pP6xH5g