เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 10 ก.ค.66 พิธาปราศรัยกลางสายฝน-ตามหานักธุรกิจเยอรมัน-2พี่น้องถูกแม่บังคับอนาจาร

1.ตร.ชี้นักธุรกิจเยอรมันหายตัว ส่อเค้าไม่ดี มีคนทำลายหลักฐาน

เจอแล้ว รถเบนซ์นักธุรกิจเยอรมัน ที่หายตัวปริศนา โผล่จอดอยู่ใต้คอนโดที่หนองปรือ แต่ยังไร้เงาเจ้าตัว ตร.เร่งตรวจสอบหลักฐานในรถ เจอสารประหลาดสีขาวใส ก่อนรับน่าเป็นห่วง มีคนทำลายหลักฐาน หลังพบคราบน้ำยาล้างห้องน้ำ ภายในรถ ล่าสุด แฟนสาวนักธุรกิจเยอรมัน เผยพบข้อความผิดปกติ ก่อนหายตัว ทั้งที่ไม่เคยส่ง SMS จับผิดไม่คุ้นภาษาที่ใช้ ตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้ ชี้ห่วงความปลอดภัยเจ้าตัว

2.อุบัติเหตุทัวร์ ระยอง-ศรีสะเกษ เจ็บอื้อ ดับ 4

เจ็บระนาว รถบัสนักท่องเที่ยวชาวจีน 27 ชีวิต เดินทางกลับจากเกาะเสม็ด ระหว่างทางฝนตกถนนลื่น ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ตกร่องกลางถนน หวิดดับยกคัน ก่อนพบนักท่องเที่ยวโดนซากรถทับอีก 4 ราย ด้านกู้ภัยฯ เร่งระดมเครื่องมือช่วยเหลือ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่คนขับเผยถนนลื่นจนเสียหลักบังคับรถไม่อยู่

ส่วนที่ศรีสะเกษ เกิดเหตุเศร้าสลด รถบัสขนส่งนักวิ่งตกเขาทางลงช่องสะงำตาย 4 เจ็บ 49 ราย ด้านนักวิ่งที่รอด เล่านาทีระทึก ได้ยินเสียงครืดอย่างแรง คาดว่าช่วงลงเขาระบบเบรกขัดข้อง ก่อนเสียหลักชนขอบปูนกั้นขอบทาง พลิกคว่ำตกลงไปใต้สะพานที่เป็นหน้าผา

3.บุกช่วย 2 สาวพี่น้อง ถูกแม่บังคับอนาจาร หาเงินเสพยาบ้า

สุดหดหู่ พี่สาววัย 19 ปีประสาน หน่วยงาน เข้าช่วยเหลือ 2 น้องสาววัย 11 และ 16 ปี ในชุมชนป่ากล้วย เขตจตุจักร จากแม่แท้ๆ ที่บังคับให้ลูกสาวทั้ง 2 คน ทำอนาจารแลกเงิน เพื่อนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ ก่อนแฉซ้ำ คนในชุมชน รู้มาตลอด แต่ไม่ช่วยเหลือ จนน้องสาว บอกอยากฆ่าตัวตาย จึงต้องเร่งหาทางช่วยเหลือ ขณะที่ ตร.คุมแม่สอบพร้อมตรวจสารเสพติด

4.ลุ้นฎีกาคดี ธาริต พร้อมแฉเพิ่มอีก ลั่นไม่มีอะไรจะเสีย

วันนี้ลุ้น ศาลอ่านคำสั่ง คำพิพากษาศาลฎีกาคดี "ธาริต" อดีต อธ.ดีเอสไอ กับพวก ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กลั่นแกล้งแจ้งข้อหา "มาร์ค-สุเทพ" สั่งฆ่า ปชช. เหตุการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ปี 53 ด้าน ธาริต ยันไปฟังคำพิพากษาที่ศาลแน่นอน ลั่นพร้อมแฉเพิ่มอีก ข้อมูลลับคดี 99 ศพ ไม่เคยพูดมาก่อน ลั่นไม่มีอะไรจะเสีย ก็แค่ติดคุก

5.ข่าวดี! ผลเลือดพลายศักดิ์สุรินทร์ ไม่พบเชื้อ 6 โรคเฝ้าระวัง

คนไทยเฮ สถาบันคชบาลแห่งชาติ รายงานข่าวดี ผลตรวจเลือด "พลายศักดิ์สุรินทร์" ไม่พบเชื้อ 6 โรคเฝ้าระวังในช้าง แต่ยังคงต้องกักโรคให้ครบ 30 วัน ตามระเบียบของกรมปศุสัตว์ ซึ่งสถาบันคชบาลแห่งชาติ จะรายงานผลเป็นระยะ หากครบ 30 วัน จะต้องย้ายมาอยู่ที่โรงพยาบาลช้าง เพื่อวินิจฉัย อย่างละเอียดอีกครั้ง


เรื่องเล่าการเมือง

1.พิธา ปราศรัยกลางสายฝน ขอ ส.ว.อย่าทำประชาชนผิดหวัง

นับถอยหลัง อีก 4 วัน จะถึงวันโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ตอนนี้นายพิธา ก็กำลังเดินสายขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคก้าวไกล เมื่อวานช่วงสาย ไปที่ จ.สุพรรณบุรี และช่วงเย็นมาที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ กทม. ซึ่งเป็นเวทีที่นายพิธาสื่อสารไปถึง ส.ว.ด้วย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เวลา 18 นาฬิกา ท่ามกลางประชาชนที่กางร่มรอ เนื่องจากมีฝนตกลงมาตั้งแต่ช่วง 16.00 น.

ซึ่งนายพิธา เริ่มต้นกล่าวว่า "ฝนจะตกฟ้าจะร้องประชาชนไม่เคยทิ้งผม ผมก็จะไม่ทิ้งประชาชนเช่นกัน...เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้แล้ว เหลืออีกนิดเดียวพวกเราจะถึงเส้นชัยไปด้วยกัน"

วันที่ 13 ก.ค. จะเป็นการตัดสินใจของนักการเมืองทั้งสภาล่างและสภาสูง ที่จะต้องตัดสินใจร่วมกัน ว่าจะคืนความปกติให้การเมืองไทยหรือจะให้อยู่กับความไม่ปกติต่อไป

และช่วงหนึ่งได้กล่าวไปถึง ส.ว.ตรงๆ โดยได้ขอบคุณ ส.ว.ที่แสดงท่าทีว่าจะโหวตตามมติประชาชน และบอกว่า จากที่ได้คุยกับ ส.ว.ก็มีความเป็นห่วงบ้านเมือง ดังนั้นหลังได้เป็นนายกฯจะปรึกษาหารือกับ ส.ว.ด้วย

ขณะที่ช่วงท้าย นายพิธา บอกว่า ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ ก่อนจะขอเสียงคนที่จะเดินไปด้วยกัน และ บอกว่าตนจะไม่ใช่นายกฯ ที่สมบูรณ์แบบ แต่จะเป็นนายกฯ ที่ขยันที่สุด



2.พิธา ขอบคุณชาวสุพรรณ ขอช่วยบอก ส.ส.- ส.ว.โหวตเพื่อประชาธิปไตย

ส่วนการลงพื้นที่ขอบคุณชาวสุพรรณ ก็มีด้อมส้มมาต้อนรับหนาแน่นเช่นเดียวกับพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งนายพิธาได้ขอให้ชาวสุพรรณช่วยบอก ส.ส.และ ส.ว.ของ จ.สุพรรณ ให้ช่วยโหวตเพื่อหลักการประชาธิปไตย

จุดนัดพบ คือที่บริเวณสนามหญ้า หน้าโรงเรียนอนุบาลวัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งกองเชียร์พรรคก้าวไกลมารอรับอย่างเนืองแน่น

สำหรับ จ.สุพรรณ พรรคก้าวไกลไม่ได้ ส.ส.เขต โดยพรรคชาติไทยพัฒนา เจ้าถิ่น ชนะทั้ง 5 เขต แต่พรรคก้าวไกลได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มาเป็นอันดับหนึ่ง 1 แสน 7 หมื่นคะแนน

ช่วงหนึ่งนายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้เลือกตั้งมาแล้ว 2 เดือน แต่เพราะยังอยู่ในระบบที่ไม่ปกติจึงยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ และ บอกว่ามาถึงจุดนี้ขอแสดงความเห็นใจ และเข้าใจ กับเพื่อนๆ ส.ว.หลายคน ที่บอกว่าอยากจะโหวตเพื่อหลักการ โหวตให้กับรัฐบาลเสียงข้างมาก แต่โดนขู่ โดนรังแกอยู่

ก่อนจะขอว่า ใครที่รู้จักกับ ส.ส.และ ส.ว. ของสุพรรณบุรี ขอให้ช่วยกันพูด ช่วยกันบอกเขาว่า การเลือกครั้งนี้ ไม่ใช่การเลือกพิธา ไม่ใช่การเลือกพรรคก้าวไกล แต่คือการเลือกระบบประชาธิปไตย

ทั้งนี้ เย็นวันนี้นายพิธา มีคิวไปขอบคุณประชาชนที่ จ.ปทุมธานี และวันพรุ่งนี้จะไป จ.สมุทรปราการ


3.สะพัด! กกต.เตรียมลงมติ คดีหุ้นไอทีวี "พิธา" ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้

วันนี้ก็ต้องจับตา การประชุม กกต. ซึ่งจะมีการพิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา

จากกรณีที่ กกต. ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเนตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ถือหุ้นไอทีวี เข้าลักษณะต้องห้ามมีให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงหรือไม่

ล่าสุดมีรายงานว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สรุปข้อมูลเสร็จแล้ว และเตรียมเสนอต่อที่ประชุม กกต.วันนี้ (10 ก.ค.) และคาดว่าที่ประชุม กกต.จะมีมติส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญทันที

อย่างไรก็ตาม หาก กกต.มีมติเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ และหากศาลรัฐธรรมนูญที่ปกติจะมีการประชุมประจำสัปดาห์ในวันพุธ ซึ่งสัปดาห์นี้จะตรงกับวันที่ 12 ก.ค. หากศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยรับวินิจฉัย และมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ก็ย่อมมีผลต่อการโหวตนายกฯ ในวันที่ 13 ก.ค.นี้

ขณะที่นายพิธา ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แล้ว จึงไม่มีอะไรที่น่ากังวลใจ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตาม กระบวนการ ตนพร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็น

เมื่อถามว่าการที่ถูกยื่นร้องเรื่องคุณสมบัติ จะมีผลต่อการตัดสินใจของวุฒิสภาในการโหวตเลือกนายกฯหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่ฟังความคิดเห็นจากวุฒิสภาหลายท่านที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นนโยบายอะไร หรือมีเรื่องของการถือหุ้นไอทีวี ไม่ใช่หน้าที่ของวุฒิสภาที่จะพิจารณาเรื่องนี้



4.ปชป.ป่วน! องค์ประชุมล่ม ยังเลือกหัวหน้าพรรคไม่ได้

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวาน มีความปั่นป่วนเกิดขึ้น มีการประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค แต่ดำเนินการไม่สำเร็จ เพราะองค์ประชุมล่มไปก่อน

เมื่อวานพรรคประชาธิปัตย์จัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค โดยประชุมกันตั้งแต่เช้า

มีรายงานว่า เมื่อเข้าสู่วาระการเลือกหัวหน้าพรรค นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรค ได้เสนอญัตติให้ยกเว้นข้อบังคับพรรค ที่กำหนดให้สัดส่วนในการลงคะแนนของ ส.ส.พรรค กับ สมาชิกพรรคที่มีสิทธิลงคะแนน เป็น 70 ต่อ 30 และให้เปลี่ยนเป็นทุกคนมีคะแนนคนละ 1 เสียงเท่ากัน แต่เสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมไม่เห็นด้วย ข้อเสนอนี้จึงตกไป

จากนั้นนางองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรค เสนอให้เลื่อนการประชุมเลือกหัวหน้าพรรคออกไปก่อน แต่เสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน

และเมื่อเริ่มการประชุมในช่วงบ่าย ซึ่งจะเข้าสู่วาระการเสนอชื่อแคนดิเดตชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งมีความชัดเจนแล้วว่าตัวเต็งสำคัญ คือ

นายนาราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคเหนือ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค กับนายอภิสิทธิ์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝั่งนายชวน หลีกภัย แต่ปรากฏว่าองค์ประชุมไม่ครบ ทำให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน

ซึ่งมีรายงานว่า สาเหตุที่ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ เนื่องจากกลุ่มที่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เดินทางกลับไปก่อน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ระบุว่า จะนัดประชุมกรรมการบริหารพรรคในสัปดาห์นี้เพื่อกำหนดวันประชุมเลือกหัวหน้าพรรคต่อไป

นายนราพัฒน์ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ยอมรับว่า ตัดสินใจที่จะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และยอมรับว่าจากเหตุการณ์ในครั้งนี้สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของพรรคที่ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพรรค ซึ่งด้านหนึ่งก็เป็นเสน่ห์ของประชาธิปไตยของพรรค แต่อีกด้านก็เป็นจุดอ่อน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/17xvrH31UCc