อาชญากรรม

จับชายแสร้งเป็นพลเมืองดี ช่วยหญิงวัย 65 ขับรถเสียหลักตกร่องน้ำ ก่อนชิงรถ-ทรัพย์สินหนี

โดย chiwatthanai_t

4 ก.ค. 2566

130 views

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ที่ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ พ.ต.ท.ชาญวุฒิ เทียมมงคล รอง ผกก.สส.สภ.บางแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้คุมตัว นายคมศักดิ์ (หรือกอล์ฟ) อายุ 44 ปี มาสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์ หลังก่อเหตุชิงรถยนต์เก๋ง โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านอำเภอเมือง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางเสื้อที่ใช้ก่อเหตุและรถจักรยานยนต์และทรัพย์สินของผู้เสียหาย โทรศัพท์มือถือ ขณะที่ผู้ต้องหาเจอหน้าผู้เสียหายได้กราบเท้าขอโทษผู้เสียหาย พร้อมยอมรับความผิด


สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 นางธนัชชนม์ อายุ 65 ปี ได้เดินทางมาแจ้งความ ที่ สภ.บางแก้ว ว่าตนขับรถตกร่องน้ำริมถนน ซึ่งผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านมาเจอ ทำทีเป็นพลเมืองดี เข้ามาช่วย ก่อนจะขับรถผู้เสียหายหลบหนีไป หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้เดินทางตรวจกล้องบริเวณที่เกิดเหตุ จนตามมาเจอรถยนต์เก๋งถูกจอดอยู่ภายในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง และสามารถตามไปจับกุมตัว นายนายคมศักดิ์ พร้อมของกลางได้ ที่ชลบุรี


จากการสอบถาม นางธนัชชนม์ (ผู้เสียหาย) เล่าว่า รถของตนเกิดอุบัติเหตุ แล้วเขาทำเป็นเหมือนพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือตน หลังจากนั้นเขาให้ตนขยับไปนั่งฝั่งซ้าย เขาก็ขึ้นมานั่งขับรถของตนและออกตัวพุ่งออกเลนขวาอย่างเร็วมาก ตนก็รู้สึกใจไม่ดีแล้ว ร้องขอผู้ก่อเหตุอย่าทำร้าย เขาก็บอกตนให้นั่งเฉย ๆ พอตนหยิบโทรศัพท์ออกมาเขาก็แย่งไป แล้วก็เขาใช้มือกดศีรษะตนให้ก้มลงไป ตอนนี้ตนก็ยังรู้สึกปวดคออยู่เลย ก็เลยเกิดการต่อสู้กันอยู่พักนึง เขาก็ขู่ว่าเขามีมีดอย่างขัดขืน แต่ตนก็สู้ไว้ก่อนเพราะไม่รู้ว่าเขาจะเอาเราไปไหน ก่อนที่ตนจะเปิดกระจกตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครช่วย ตนจึงตัดสินใจดึงเบรกมือและเปลี่ยนเกียร์ไปที่พี พอรถหยุดตนก็เลยเปิดประตูแล้วรีบลงจากรถ ตนก็พยามมองหาคนให้ช่วยตามรถไปแต่ไม่มีใครช่วยเลย ตนก็ทำได้เพียงยืนมองเขาขับรถเราออกไป ดีที่รีโมทรถอยู่ที่ตัวตน ไม่ได้อยู่ในรถ ถ้าติดไปในรถเขาก็คงขับไปไหนต่อไหนได้ คือถ้าเขาจอดตรงไหนเขาก็จะไม่สามารถสตาร์ทรถได้แล้ว ตอนนี้ตนก็ยังรู้สึกตกใจไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลัว ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่คิดว่าเขาจะทำกับตนแบบนี้ ตนก็พูดขอเขาแล้วว่าอย่าทำอะไรตนเลย ตนก็อยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว สุดยอดสามารถจับตัวคนรายได้อย่างรวดเร็ว ทรัพย์ที่โดนคนร้ายเอาไปก็ได้คืนหมด


ด้าน นายคมศักดิ์ (ผู้ต้องหา) ให้การยอมรับว่า ตนก่อเหตุด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ตนขี่รถจักรยานยนต์กำลังจะไปหาลูกที่อนุสาวรีย์ จังหวะตนเห็นผู้เสียหายยืนขอความช่วยเหลืออยู่ริมถนน และตนก็มองรอบแล้วไม่มีคนด้วยเนื่องจากเช้ามืด ตนก็เลยไปยูเทิร์นรถกลับมาช่วย คือรถเขาตกลงคลองข้างถนนไปฝั่งนึงแล้ว ตนก็เลยโดดลงน้ำช่วยเอาหินเอาอะไรไปลอง จังหวะที่ผู้เสียหายเขาเหยียบไม่ขึ้น ตนก็เลยขึ้นขับแทน จนเอารถขึ้นมาได้ ก็ขับรถออกไปเลย โดยมีผู้เสียหายนั่งอยู่ข้าง ๆ ระหว่างที่ขับมาบอกผู้เสียหายว่าตนไม่มีเงินติดตัว ตนแค่อยากได้เงินติดตัวแค่นั้นเอง ผู้เสียหายร้องขอไม่ให้ทำอะไรเขา ตนก็บอกว่าตนไม่ทำอะไรเขา ที่นี้ด้วยความกลัวของผู้เสียหาย ตนก็พูดกับเขาตลอดตนไม่ทำแน่นอน รถนี้ตนก็ไม่เอา ผู้เสียหายก็พยามต่อสู้ตน ยื้อพวงมาลัยและเกียร์อยู่ตลอด ตนก็ปล่อยรถไหลไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเขาเปิดประตู ตนก็บอกเขาว่าอย่าโดด คุยกับตนดีๆ ตนไม่ทำร้ายหลอก เดี๋ยวตนคืนรถให้ หลังจากผู้เสียหายลงจากรถไปแล้ว ตนก็ขับรถไปยูเทิร์นแล้วจอดรถในปั้มน้ำมัน ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่ไกล ตังค์ที่ตกอยู่ 250 บาท ตนก็เติมน้ำมันให้เขา 200 บาท และเอาติดตัวไป 50 บาท


ส่วนเรื่องโทรศัพท์ของผู้เสียตนเหน็บไว้ข้างๆ เผื่อผู้เสียหายโทรเข้ามาตนก็จะบอกว่ารถจอดอยู่ในปั๊ม หลังจากนั้นตนก็ถอดเสื้อนอกใส่ถุง แล้วก็ออกจากรถมานั่งรถสองแถวสีฟ้า ส่วนทรัพย์สินที่ตนนำไปมีเงินสด 250 บาท และโทรศัพท์ ตอนแรกที่ตนเจอผู้เสียหายตนมีความตั้งใจจะเข้าไปช่วย แต่ตนก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วยว่าอาจจะเป็นปมที่ตนไม่มีเหมือนพี่ ๆ น้องๆ เขา อยากมีรถ หรืออาจจะอารมณ์ชั่ววูบ แล้วจะให้ตนขอโทษผู้เสียหายตนก็มองว่าไม่ทันแล้ว ตนยอมรับสภาพแล้ว ตนยอมรับเคยติดคุกมา 2 รอบแล้ว คดีลักทรัพย์กับยา แต่นานแล้วตนก็อยากจะขอโทษผู้เสียหาย ตนไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเรื่องแบบนี้ ตนก็อยากขอขมาด้วย


พ.ต.ท.ชาญวุฒิ เทียมมงคล รอง.ผกก.สส.สภ.บางแก้ว หัวหน้าชุดจับกุม บอกว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ว่ามีผู้เสียหายเป็นหญิงสูงอายุเท่าหนึ่ง ขับขี่รถยนต์ส่วนตัวมาตามทางบนถนนเทพรัตน ขาออก จนมาถึงช่วงกม.8 รถเสียหลักตกลงไปข้างทางแล้วขับรถมาไม่ได้ จังหวะนั้นเอง ผู้ต้องหาคือ นายคมศักดิ์ อายุ 44 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเจอผู้เสียหายพอดี จึงทำทีเป็นพลเมืองดีเข้าไปช่วยเอารถขึ้นมาจากข้างทาง ด้วยการขึ้นไปขับที่นั่งคนขับ โดยออกอุบายให้ผู้เสียหายนั่งที่เบาะหน้าฝั่งซ้าย เพื่อถ่วงน้ำหนักกระทั่งสามารถถอยหลังขึ้นจากข้างทางได้สำเร็จ ผู้ต้องหาจึงแสดงตัวเป็นคนร้ายและข่มขู่ผู้เสียหายให้ยืนยันส่งทรัพย์สินมาให้แต่ผู้เสียหายเกิดการต่อสู้ก่อนจะถูกคนร้ายข่มขู่ว่ามีอาวุธทำให้ผู้เสียหายขอให้ผู้ต้องหาปล่อยตัวและอาศัยจังหวะที่ผู้ต้องหาเผลอจึงดึงเบรกมือจนรถหยุดและเปิดประตูวิ่งหลบหนี กรทั่งตำรวจตามไปจับกุมตัวได้สำเร็จในวันเดียวกัน

คุณอาจสนใจ