ผวา เก๋งปริศนาโผล่ระยอง ตระเวนขายผ้าใบบังหน้า ชาวบ้านหวั่นเป็นแก๊งลักเด็ก

ผวา รถเก๋งปริศนาตระเวนขายผ้าใบบังหน้า ชาวบ้านสงสัยอาจเป็นแก๊งเดียวกับที่ก่อเหตุลักเด็ก ที่ จ.เพชรบูรณ์ เกิดเอะใจพูดสำเนียงชาวที่ราบสูง พฤติกรรมลุกลี้ลุกลน วงจรปิดจับภาพได้ขณะขับเข้าหมู่บ้านมาขายของ

วันที่ 28 มิถุนายน เวลา 17.00 น. ชาวบ้านชุนขนเนินมะยม ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง ได้ร้องขอให้ผู้สื่อข่าวช่วยนำเสนอข่าวแจ้งเตือนภัย หลังจากพบรถเก๋งสีบรอนซ์ลักษณะเดียวกันและพฤติกรรมเดียวกันกับแก๊งลักเด็กที่ จ.เพชรบูรณ์

นายอนุ จันทร์พิทักษ์ อายุ 45 ปี ได้แจ้งว่า วันที่ 26 มิถุนายน เวลา 14.10 น. มีรถเก๋งสีบรอนซ์ ติดฟิล์มดำสนิท มาตระเวนขายผ้าใบราคาถูก ตนนั้นเห็นแล้วนึกขึ้นได้ว่ารถและพฤติกรรมแบบนี้เหมือนในข่าว ที่ จ.เพชรบูณ์ เป็นแก๊งลักเด็ก จึงได้ไปพูดคุยกับชาวบ้านให้ระมัดระวังลูกหลานและแจ้งให้คุณครูของเด็กๆ ทราบ

ด้านนายชัยยัณต์ จันทรวิรุจ อายุ 73 ปี ได้เล่าว่า ตนได้พบเจอกับแก๊งนี้ ขับรถเก๋งคัมรี่ สีบรอนซ์รุ่นเก่า ผลิตจากออสเตรเลีย ปี 1996 มีหนึ่งคนในรถได้ลงมาพูดคุย  ใส่เสื้อสีน้ำตาล ใส่หมวก พูดคุยด้วยสำเนียงคนที่ราบสูงชาวเหนือ แต่ก็ฟังออกว่า เขาได้มาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อทำงานจบแต่ไม่อยากคืนผ้าใบให้กับทางบริษัท จึงนำมาขายในราคาถูก ซึ่งบริษัททำถนนอยู่ที่ปากซอย ตนนั้นทราบดีว่าปากซอยไม่มีการทำถนนแต่อย่างใด แต่ตนนั้นไม่ได้สนใจและไม่ได้ซื้อ แต่ที่ลงมาคุยด้วยเพราะเห็นพฤติกรรมผิดสังเกต ด้อมๆ มองๆ ไม่เหมือนคนมาขายของทั่วไป และไม่มีสินค้ามาให้ดู ขณะเสนอขาย

นายสรพงษ์ เกิดมณี อายุ 46 ปี เผยว่า ตอนแรกตนก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าเป็นคนขายของทั่วไป แต่เห็นข้อมูลและชาวบ้านพูดกันก็เริ่มสงสัย เพราะตนมีลูกเล็กอยู่ 2 คน และแก๊งนี้ก็มาขายแวะที่บ้านของตนด้วย แต่ช่วงนั้นตนไม่อยู่ แต่มีพ่อกับแม่อยู่ซึ่งก็เป็นผู้สูงอายุ และสุดท้ายหลอกพ่อตนได้สำเร็จอีกด้วย โดยแก๊งนี้ได้มาในหมู่บ้าน 2 วันติดต่อกัน

ด้านนายบรรณจบ เกิดมณี อายุ 74 ปี เล่าว่าเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน เวลา 09.50 น มีรถเก๋งสีน้ำเงินฟิล์มสีดำทึบ มาขายผ้าใบให้ตน ทางตนได้ซื้อผ้าใบมา 1 ผืนแบบงงๆ  เริ่มแรกเขาก็พูดแบบเดียวกันว่า ผ้าใบมือ 2 ทำงานเสร็จและไม่อยากคืนบริษัท จึงนำมาขายถูกๆ ในราคา 1 พันบาท แต่ตนไม่มีเงิน เขาเลยลดให้เหลือ 800 บาท แต่ตนเองมี 700 บาท และหยิบเงินให้ดู ทีแรกตนก็จะไม่เอา เดินหันหลังกลับ แต่เขาก็ดึงแขนไว้ ตนจึงจ่ายเงินซื้อไป 700 บาท และเขาขออีก 100 ดึงไปจากมือและรีบขึ้นรถไป ดูจากพฤติกรรมแล้ว พูดจาเร็ว สำเนียงเหมือนคนที่ราบสูง ลักษณะสูงประมาณ 160 ซม.

นายบรรณจบและชาวบ้านยังได้กางผ้าใบให้ผู้สื่อข่าวดูอีกด้วยว่า ขนาดของผ้าใบประมาณ 3x5 เมตร และยังเป็นของใหม่อยู่เลย ไม่ได้ผ่านการใช้งานมาแบบที่บอก ซึ่งพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยคือ เข้ามาในหมู่บ้าน 2 วันติด และส่วนใหญ่จะมาหาบ้านที่มีแต่คนชราและเด็กอยู่ โชคดีที่ตอนนั้น เด็กไป รร.กันหมด

เบื้องต้น ได้มีชาวบ้านในละแวกเดียวกัน ให้ข้อมูลว่าพบเจอรถเก๋งลักษณะดังกล่าวและเข้ามาขายของที่บ้านเช่นกัน ซึ่งก็สงสัยว่าอาจจะเป็นแก๊งลักเด็กที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมกับได้ส่งคลิปแอบถ่ายการเจรจาขณะพูดคุยกันให้ด้วย

สำหรับเรื่องราวทั้งหมดที่เกี่ยวกับรถและลักษณะการขายของแบบนี้ ชาวบ้าน ต.ตะพง เข้าใจว่าอาจเป็นแก๊งลักเด็กหรือพวกขโมยของที่มาดูลาดเลาไว้ก่อน จึงอยากขอนำเสนอเตือนให้เป็นอุทาหรณ์ให้ระมัดระวัง  หากพบเจอคนขายของในลักษณะนี้ให้สังเกต และตรวจสอบพฤติกรรมเพื่อระวังภัยไว้ด้วย