รวบแล้ว! โจรกระชากสร้อยหญิงวัย 54 ซ้ำใช้สากตีหัว สารภาพทำจริง อ้างหาเงินแต่งเมีย

รวบคนร้าย ใช้สากกระเบือตีหัวชิงทอง อ้างทำไปเพื่อหาเงินไปแต่งเมีย ช้ำยังมีคดีโผล่อีก 2 คดี

วันนี้ (26 มิถุนายน 2566) จากเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุใช้มือล็อกคอแล้วใช้สากกะเบือตีหัวนางอำไพร อายุ 54 ปี จนได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะ และบริเวณท้ายทอยด้านขวา ขณะที่คนร้ายได้ทองคำ 1 บาท ไปครึ่งเส้น ก่อนขี่รถเครื่องหลบหนีไป

ทราบชื่อคนร้าย นายคมสันต์ อายุ 27 ปี คนร้ายหลังถูกจับกุมตัวมาที่ สภ.ท่าพล เพื่อทำการสอบสวน โดยมี พลตำรวจตรี ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ เดินทางมาร่วมรับฟังการสอบสวน ในครั้งนี้ จากการสอบสวนนายคมสันต์ รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง ซึ่งทีแรกนั้น ตนไม่คิดจะไม่ทำร้ายผู้เสียหาย แค่หวังจะกระชากสร้อยเท่านั้น แต่นางอำไพร ผู้บาดเจ็บหันมาเจอพอดี และ ร้องให้คนช่วย ตนจึงใช้สากตีเข้าไปที่ศีรษะ เพื่อหวังให้ผู้เสียหายหยุดเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่เป็นผลตนจึงรีบหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ

สาเหตุที่นายคมสันต์ ลงมือทำไป โดยอ้างว่าที่ทำไป เพราะต้องการหาเงินไปแต่งเมีย เพราะตนมาอยู่บ้านฝ่ายหญิง แล้วเกิดทะเลาะกัน ตนเลยออกมาอยู่ข้างนอก ตนไม่มั่นใจฝ่ายหญิง เลยอยากหาเงินให้แต่งงาน ให้จบๆ ไป

ขณะเดียวกันระหว่างที่กำลังสอบสวน นายคมสันต์ ก็มีผู้เสียหายอีกราย โผล่ขึ้นมาบนโรงพัก โดยหญิงรายดังกล่าวทราบชื่อคือ นางพรเดือน แม่ค้าขายแตงโม อยู่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในตำบลท่าพล ซึ่งถูกนายคมสันต์ ลงมือทำร้ายร่างกายด้วยการต่อยเข้าที่ใบหน้า เพื่อชิงเงินสด โดยผู้เสียหายรายนี้ เปิดเผยว่า เขามาขอซื้อแตงโม 1 ลูก ไม่พอใจ จะเอา 2 ลูก ก็หยิบให้แล้ววางแล้วเหมือนไม่พอใจที่มองหน้า เขาก็ต่อยปากจนล้มลงไป แล้วเขาก็เอาเงินแบงก์ 20 ไป น่าจะประมาณ 300 บาท

นอกจากนี้คนร้ายยังมีพฤติกรรมก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือ ของชาวบ้าน ที่ชาร์จทิ้งไว้ไปอีก 1 เครื่อง จึงถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม

และจากการสอบสวนยังพบว่า คนร้าย นอกจากใช้สากกระเบือทุบหัวนางอำไพร เพื่อชิงทอง แล้วยังไปก่อเหตุ ต่อยหน้าแม่ค้าขายแตงโมชิงเงินสด 300 บาท แล้ว ยังได้ไปก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มาอีก จำนวน 1 เครื่อง จึงได้ถูกแจ้งความ รวมเป็น 3 ข้อหา คือ

1.ข้อหา ลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ

2.ข้อหา ทำร้ายร่างกายแม่ค้าแตงโม 

3.ข้อหา ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะ” ซึ่งได้ก่อนเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ มาถึงที่เกิดเหตุได้ใช้อาวุธ (สากกระเบือ) ทำร้ายผู้หญิง อายุ 54 ปี และกระชากสร้อยคอทองคำไป เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทั้ง 3 ข้อหา