เลือกตั้งและการเมือง

'อุ๊งอิ๊ง' ยันไม่พลิกขั้วตั้งรบ. ส่งกำลังใจก้าวไกล รับห่วง 'ทักษิณ' กลับไทย แต่ไม่เบรก

โดย panwilai_c

14 มิ.ย. 2566

57 views

อุ๊งอิ๊ง ยัน เพื่อไทยไม่มีพลิกขั้ว ย้ำ หนุน “พิธา” เป็นนายกฯ ขอทุกฝ่ายยึดมั่นในประชาธิปไตย เคารพเสียงประชาชน ขำโผ โซเชียล แจงยังไม่คุยเรื่องตำแหน่ง



นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ว่า พรรคเพื่อไทยถูกกระบวนการยุบพรรคมาแล้ว 2 ครั้ง จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหนักแน่นในประชาธิปไตย เคารพเสียงของประชาชน เพราะในเมื่อประชาชนเลือกมาแล้วก็อยากจะตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาประเทศต่อไป และขอให้กระบวนการยุติธรรมพิจารณากันตามข้อมูลหลักฐาน และขอส่งกำลังใจให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เพราะคิดว่าประชาชนและประเทศรอไม่ไหวในการที่จะเคลื่อนไปข้างหน้า สิ่งที่พรรคเพื่อไทย และครอบครัวเจอมา อยากให้ยุติลง และอยากให้มีการเมืองสร้างสรรค์ที่พร้อมพัฒนาประเทศให้ดีขึ้นโดยการเคารพเสียงประชาชน



นางสาวแพทองธาร ยังไม่อยากพูดถึงกรณีหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง เพราะยังไม่เกิดขึ้น แต่โจทย์ขณะนี้คือการร่วมตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล รวมถึงกรณีเกมหุ้นสื่อไอทีวี ที่อาจทำให้นายพิธาไปไม่ถึงการเป็นนายกรัฐมนตรี



แต่ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกันให้แน่น ซึ่งพรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุน และต้องเคารพเสียงของประชาชน และให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ พร้อมปฏิเสธข่าวเรื่องการพลิกขั้วทางการเมือง ยืนยัน พรรคเพื่อไทย ไม่มีแผนที่จะพลิกไปไหน ซึ่ง งง กับข่าวที่ออกมา และไม่มีรู้เรื่องดีลลับ ไปดีลกันตอนไหน คงเป็นดีลที่ลับมาจนไม่รู้เรื่อง จึงอยากให้หนักแน่นว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยคุยกับพรรคก้าวไกลยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป



หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เสียงที่ขาดอยู่กว่า 60 เสียงจะทำอย่างไร นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องคุยกับกรรมการบริหารพรรคที่ไปคุยกับพรรคก้าวไกลจะดีกว่า



ส่วนกระแสข่าวการจัดโผ ครม. ในโซเชียลมีเดีย ที่มีชื่อนางสาวแพทองธาร นั่งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีนั้น นางสาวแพทองธาร หัวเราะก่อนตอบว่า “ตายแล้ว รู้ก่อนอิ๊งอีกแล้ว” ซึ่งเห็นหลายทีแล้ว เขียนว่าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็มี และล่าสุดเป็นรองนายกรัฐมนตรี และขอขอบคุณสำหรับทุกตำแหน่ง แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องจริง ยังไม่ทราบเรื่องนี้ และไม่ทราบว่าโผ นั้นมาจากไหน ซึ่งส่วนตัวเห็นพร้อมกับคนในโซเชียล ส่วนจะรับตำแหน่งหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ แต่เรื่องที่ออกไปยังไม่เคยรับรู้ ขอให้พรรคร่วมตกลงกันดีกว่า



นางสาวแพทองธาร ยังขอบคุณที่พรรคก้าวไกลยิบหยกนโยบายเอสเอ็มอีมาขับเคลื่อน และบางนโยบายที่เป็นนโยบายเดิมของพรรคไทยรักไทย สมัยนายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และในช่วงที่หาเสียง พรรคเพื่อไทยก็มีแผนที่จะเอานโยบายที่ดี เป็นประโยชน์กลับมาใช้ ถึงวันนี้จะไม่ได้เป็นพรรคอันดับ 1 แต่หลายนโยบายถูกกลับนำมาใช้ ก็รู้สึกดีใจมาก อยากเห็นความสำเร็จอีกครั้งในปัจจุบัน



เมื่อถามว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังอยากให้นายทักษิณกลับมาหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า อยากให้กลับอยู่แล้ว แต่อยากจะให้คุณพ่อเป็นคนตัดสินใจเองว่าอยากกลับมาตอนไหน และอยากจะกลับมาอย่างไร



ส่วนตัวมองว่าคุณพ่อออกจากประเทศนานแล้ว ไม่ว่าตอนนี้ ท่านอยากกลับมาก อยากกลับมาเลี้ยงหลาน และยิางตอนนี้มีหลานคนที่ 7 แล้ว ยิ่งอยากกลับ พร้อมยืนยันว่าครอบครัวไม่ได้มีการเบรกคุณพ่ออย่างที่มีการเสนอข่าว เราแต่เป็นห่วงอยากให้ดูข้อมูลให้ครบ นี่คือสิ่งที่ครอบครัวคุยกัน คือความเป็นห่วงไม่ใช่เบรก “อิ๊งว่ามันจะไม่แฟร์กับคุณพ่อด้วยที่ออกไปกว่า 17 ปี เพราะฉะนั้นท่านจะกลับมาเมื่อไหร่ให้ท่านตัดสินใจเอง ชีวิตก็เป็นของท่าน”



เมื่อถามย้ำว่านายทักษิณ รับฟังความเห็นของครอบครัวใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่ารับฟัง เพราะในครอบครัวเราฟังกันอยู่แล้ว แต่สุดท้ายการตัดสินใจ เรื่องของใครคนนั้นก็ตัดสินใจ



เมื่อถามต่อว่าว่านายทักษิณยังคงยืนยันจะกลับภายในเดือนกรกฎาคมนี้หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ล่าสุดคุยกันก็ยังเป็นแบบนี้ เขาก็ไม่ได้อยากจะกลับมาสร้างความวุ่นวาย เพราะแน่นอนว่าคุณพ่อมีความสำคัญกับการเมืองจึงต้องดูความเหมาะสมด้วย ถ้าจะเปลี่ยนวันกลับก็ต้องดูความเหมาะสมสถานการณ์การเมืองต่างๆ



เมื่อถามต่อว่า แบบนี้แสดงนายทักษิณว่าจะเลื่อนวันกลับหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่มี แต่ต้องดูว่าใกล้ๆจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเป็นเป็นตนที่คิดแทน แต่คุณพ่อยังไม่ได้พูดกับตนว่าจะเลื่อน



เมื่อถามต่อว่าที่เป็นห่วงเพราะกลัวถูกหลอกใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าคำว่าถูกหลอกคือตลอดเวลาที่คุณพ่อไม่อยู่ประเทศไทยมา 17 ปี ได้รับข้อมูลข่าวสารที่มีทั้งถูกบ้างผิดบ้าง เราไม่ได้คิดว่าใครจะมาหลอกเราเป็นพิเศษ แต่ครอบครัวอยากให้ดูและคิดให้ดีว่าจะทำอย่างไร ทั้งหมดเป็นความห่วงใย และเตือนสติให้ดูให้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่ใครจะมาหลอกอะไร



ส่วนกรณีที่รายงานข่าวว่าครอบครัวไม่อยากให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ใช่ทางครอบครัวเบรกเป็นเรื่องที่คุณแม่พูดคุยกับลูกสาวคนเล็กที่คุณแม่ก็ภูมิใจ ว่าลูกสาวคนเล็กมายืนจุดนี้ได้ แต่ในใจลึกๆก็ยังเห็นว่าตนเป็นเด็ก จึงเข้าใจได้ว่าคุณแม่เป็นห่วง ตนไม่ได้รู้สึกโกรธเพราะเรารู้ว่าเราไม่ได้เด็กแล้ว ทุกอย่างเป็นแค่ความเป็นห่วงเท่านั้น ไม่มีมติอื่น



เมื่อถามย้ำว่าส่วนตัวพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่หากเกิดขึ้นอุบัติเหตุทางการเมืองหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า หากตนไม่พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ก็คงไม่ให้ชื่อตนเสนอเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหากไม่พร้อมก็คงไม่ก้าวเข้ามาตรงนี้


https://youtu.be/-IkXWxUg5JA

คุณอาจสนใจ

Related News