พ่อแสดงตัว! ปัดทิ้งเด็ก 4 ขวบเลี้ยงย่า ยันไม่หวังเงินบริจาค ด้านย่าดีใจ จะมีคนส่งหลานเรียน

ธารน้ำใจมาต่อเนื่อง ช่วยน้องเตยเลี้ยงย่า เผยหน่วยงานวางแผนชีวิตน้องไว้แล้ว ย่าเผยหลานเคยพร่ำบ่นตัดพ้อ “เราไม่น่าจะเกิดมาเป็นคนจนเลย” ไม่มีบ้านสวยเหมือนคนอื่นเขา ย่ายืนยันพ่อไม่เคยเหลียวแล ครู-ย่า ดีใจ จะมีคนส่งหลานเรียน เพราะย่าคงจะไม่มีปัญญา ด้านพ่อโผล่แสดงตัวปัดทิ้งลูก ยังซื้อจักรยาน-รองเท้าไปให้ ยันไม่ได้หวังเงินบริจาค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานราชการและภาคเอกชน ยังนำสิ่งของเครื่องใช้มามอบให้เป็นกำลังใจกับ ด.ญ.สุธีมมนต์ จินดาศรี หรือน้อยเตย อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนบ้านมะขามทานตะวัน ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ และนางเสา จินดาสี อายุ 68 ปี ย่าของน้องเตยไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่เห็นใจและเห็นถึงความมุมานะของเด็กวัย 4 ขวบ ที่สามารถทำงานบ้านและเลี้ยงย่าตัวเองได้อย่างเด็กในวัยเดียวกันทำได้ยาก

โดยวานนี้ (13 มิ.ย.) นายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ,พมจ.,แพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลห้วยราช รวมถึงศูนย์จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ (คิงส์ยนต์) บุรีรัมย์ นำข้าวของเครื่องใช้มามอบให้รอบสอง

ซึ่งจากการซักถามนางเสา การใช้ชีวิตทั่วไประหว่างอยู่กับหลาน นางเสา เล่าว่าน้องเตยทำทุกอย่างตามที่ย่าสอนไม่เคยงอแง และมักจะพร่ำบ่นกับย่าเสมอว่า “เราไม่น่าจะเกิดมาเป็นคนจนเลย เพราะไม่มีบ้านสวยๆอยู่” ตอนนี้หลานดีใจมากร่าเริงทุกครั้งเมื่อไปดูสิ่งของที่ได้รับมอบ โดยเฉพาะของเล่นเด็ก

ส่วนกรณีที่พ่อน้องเตย ได้ติดต่อสำนักข่าว บอกว่า ได้ส่งเงินและซื้อของให้น้องเตยมาโดยตลอดนั้น ได้รับคำตอบจากนางเสา ว่าเลี้ยงต้องเตยมาตั้งแต่อายุ 8 วันมาจนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเงินหรือของจากลูกชายส่งให้ลูกแม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงครูที่พ่อน้องเตยอ้างว่าได้ติดต่อกันมาโดยตลอด ได้รับคำตอบจากครูอุ้มเช่นเดียวกันว่า “ไม่รู้จักและไม่ได้ติดต่อกันมาก่อน”

รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น โดยเฉพาะความปลอดภัยของเด็กถึงแม้จะมีเพื่อนบ้านหลายหลังคาเรือนก็ตาม แต่บ้านหลังนี้ก็อยู่กันแค่ 2 คนคือเด็กกับคนตาบอด ส่วนเรื่องเงินบริจาคที่ได้รับมา จะมีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงเพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่นบุตรหลานนางเสา ที่อาจจะมาล่อลวงเบิกเงินไปใช้ เนื่องจากตอนนี้ในบัญชีมาเงินมากกว่า 1,000,000 บาทแล้ว

โดยต่อมาได้มีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือน้องเตยอย่างต่อเนื่อง จนมียอดบริจาคมาแล้วกว่า 1 ล้านบาท และมีผู้ใจบุญจำนวนหนึ่งที่ต้องการอยากจะส่งน้องเตยเรียนจนกว่าจะจบปริญญาตรี แต่ยังไม่มีความชัดเจนเพราะจำนวนคนเข้ามาเสนอตัวเป็นจำนวนมาก

ต่อมานายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวคนดังของช่อง 3 ได้แสดงเจตจำนงผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ขอส่งเสียน้องเตยเรียนจนกว่าจะจบปริญญาตรีหรือมากกว่านี้ ขณะที่ครูอุ้ม หลังทราบข่าว ได้ขอขอบคุณสรยุทธ ให้เมตตาเด็ก รวมถึงย่าน้องเตย ที่ดีใจแบบบอกไม่ถูกที่จะมีคนส่งหลานเรียนจนจบ เพราะย่าคงจะไม่มีปัญญาส่งหลานเรียนอย่างแน่นอน

ด้านนางนัฎญา จิตรเกาะ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พมจ.)จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุกรณี นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา จะอุปการะส่งน้อยเตยว่า หลังทราบข่าวรู้สึกดีใจที่มีจิตรเมตตาต่อเด็กที่ด้อยโอกาส แต่อยากจะฝากถึงคุณสรยุทธ ว่าสำหรับเด็กคนนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เท่าที่สัมผัสและซักถาม น้องมีทั้ง EQ และ IQ ดี สามารถตอบคำถามหรือวิเคราะห์บุคคลรอบข้างได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าน้องจะมีความโดดเด่น และเอาตัวรอดได้

ส่วนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้มีการประชุมหารือที่จะดูแลน้องในด้านโภชนาการ ให้ร่างกายและสมองมีการพัฒนาขึ้นตามลำดับวัยที่เด็กควรจะได้รับ รวมถึงที่อยู่อาศัย ตอนนี้ได้มีวิศวกรมาออกแบบเพื่อให้ย่าซึ่งตาบอด อยู่ได้อย่างมีความสุขต่อไป

ขณะที่ฝั่งพ่อของน้องเตย ได้ติดต่อผ่านทีมเพจโหนกระแส ยืนยันไม่เคยทิ้งลูก และตนไม่ได้หย่าร้างกับแม่น้องเตย ตนทำงานอยู่ที่ จ.ระยอง แต่ก็กลับมาหาลูกเสมอ มีหลักฐานซื้อของฝากให้ตลอด และจริงๆ ตนมีลูก 2 คน น้องเตยเป็นคนเล็ก คนโตเป็นผู้ชาย เรียนชั้น ป.6 อาศัยอยู่กับคุณยาย

ส่วนที่คนมองว่าพอเป็นข่าวแล้วพ่อกลับมา จะมาเอาเงินบริจาคของลูกไหม ตนยืนยันว่าไม่ได้ต้องการเงิน แค่อยากยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งลูกตามที่เป็นข่าว เพราะมีกระแสโจมตีเยอะมาก

นอกจากนี้ พ่อของน้องได้ส่งหลักฐานของฝั่งตัวเองมาให้ทีมเพจโหนกระแส เป็นภาพที่ตนได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ในวันที่ไปส่งน้องไปโรงเรียนวันแรก และยังมีภาพที่ซื้อรถจักรยานและรองเท้าให้ลูกด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เป็นข่าว ตนก็ได้คุยกับคุณครู ขอบคุณที่ช่วยเป็นสื่อกลางช่วยเหลือครอบครัวตน ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ย่าไม่ได้ตาบอด แต่งเรื่องเพื่อเอาเงินบริจาค ตนยืนยันว่าไม่จริง ทางบ้านยากจนจริงๆ และน้องเตยก็ดูแลย่าจริง

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/PmJt-CgtgUw