สาววิ่งหนีหาย ฉุนผัวโดดทืบรถ ผัวคิดว่าโดดน้ำตาย เรียกกู้ภัยงมหา 2 ชม. ที่แท้พบอยู่อีกบ้าน

เมียวิ่งหนีหาย หลังผัวห้ามออกข้างนอก โดดขึ้นรถกระทืบกระจกหน้าแตก หาไม่เจอคิดว่าเมียโดดสระน้ำตาย ขอแรงกู้ภัยกว่า 30 คน งมหา 2 ชม.ไร้วี่แวว ญาติโทรมาแจ้งพบตัวอยู่บ้าน เมียลั่นอย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีก

สภ.เมืองการุ้ง ได้รับแจ้งเหตุสามีภรรยาทะเลาะกัน แล้วภรรยาวิ่งหนีหายลงไปในสระน้ำ ที่หมู่ 3 ต.บ้านใหม่คลองเคียน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี จึงประสานไปยังกู้ภัยให้มาช่วยกันงมร่างหาหญิงสาวดังกล่าว ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านยืนมุงดูอยู่ที่บริเวณขอบสระน้ำลึกประมาณ 4 เมตร กว้างประมาณ 1 งาน แถวบริเวณที่ทำไร่ เจ้าหน้าที่ลงงมร่างหาหญิงสาวนานหลายชั่วโมงก็ยังไร้วี่แวว จนมีชาวบ้านมาบอกว่าพบหญิงสาวแล้ว ไม่ได้จมน้ำ อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง จึงได้ยุติการค้นหาใต้น้ำ

นายเอนก หรือ นายหนู อายุ 36 ปี สามีผู้สูญหาย กล่าวว่า ผู้สูญหายชื่อนางสาวเกสรา หรือ ม่วย ช่วงเกิดเหตุเขาและนางสาวม่วยมีปากเสียงกัน โดยนายหนูบอกว่าเป็นห่วงภรรยา ไม่อยากให้ออกไปไหน อยากให้ช่วยกันทำงาน แต่ด้านภรรยานั้นจะออกไปข้างนอกอย่างเดียว เขาเลยโมโหเดินไปขวางที่หน้ารถ แล้วก็ขึ้นไปพังรถของนางสาวม่วยที่ด้านหน้าจนเกิดกระจกแตก หลังจากนั้นภรรยาก็วิ่งหายไปที่บริเวณขอบสระน้ำดังกล่าว ต่อมาเขาก็ได้บอกกับชาวบ้านว่าให้ช่วยออกกันตามหานางสาวม่วยแถวบริเวณตามป่าอ้อยก็ไม่พบ จึงคิดว่าภรรยาต้องกระโดดลงในน้ำอย่างแน่นอน พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยงมร่างภรรยา พร้อมกับจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง ทราบภายหลังว่าภรรยาไม่ได้กระโดดลงน้ำ

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนางสาวม่วย เปิดเผยว่า เธออยู่กินกับนายหนูมาเกือบ 2 ปี รู้สึกอึดอัดใจและกดดัน ไม่เคยออกไปทำธุระที่ไหน บางครั้งคนเราก็ต้องมีธุระกันบ้าง แต่สามีไม่เคยเข้าใจ จนเกิดปัญหาทะเลาะกันมาเรื่อย ล่าสุดช่วงเกิดเหตุเธอก็ขอนายหนูว่าจะไปทำธุระ ไปหาแม่และญาติบ้าง แต่ไม่เคยได้ไป เธอรู้สึกอึดอัดใจ แล้วเกิดมีปากเสียงกัน ต่อมาก็จะขับรถกระบะของเธอออกไปข้างนอก แต่นายหนูไม่ให้ไปและมาขวางที่หน้ารถ ขึ้นมาเหยียบบนรถจนกระจกด้านหน้ารถแตก เธอเห็นท่าไม่ดี ก็ได้วิ่งออกจากรถ แล้วก็วิ่งผ่านขอบสระน้ำดังกล่าวไป วิ่งเข้าไปในป่า แล้วก็ไปโผล่อีกหมู่บ้านหนึ่ง จึงได้ยืมมือถือชาวบ้านโทรหาญาติ ให้มารับเธอมาที่บ้านของตัวเอง ครั้งนี้เธอจะไม่ขอกลับไปใช้ชีวิตร่วมกับนายหนูอีก พร้อมกับขอให้มาชดใช้ค่าเสียหายของรถในครั้งนี้ด้วย แล้วต่างคนต่างอยู่กัน

ด้านนางสายลม อายุ 61 ปี แม่ของนางสาวม่วย กล่าวว่า นายหนูกับลูกสาวมีปัญหาทะเลาะกันเรื่อย นายหนูนั้นคอยจะห้ามและหวง ไม่ค่อยให้ออกไปรับจ้างที่ไหน จะไปทำงานหาเงินด้วยตัวเองก็ห้าม เธอเคยเตือนลูกสาวหลายครั้งแล้ว แต่ลูกสาวไม่เชื่อ ว่าจะอดจะอยากก็ขออย่าให้ทุกข์ พอมาเจอปัญหากับตัวเอง ก็วิ่งเข้ากอดแม่ ทั้งๆ ที่แม่เคยสอนลูกเสมอ ครั้งนี้คาดว่าลูกสาวคงจะทุกข์แล้วเกิดความกดดัน