สังคม

แม่ร้องสื่อ ลูกชายถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรุมทำร้าย บาดเจ็บสาหัส

โดย kanyapak_w

20 พ.ค. 2566

426 views

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จากนางสุพรรณ อายุ 50 ปี ว่าเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา ลูกชาย อายุ 13 ปีได้ถูกกลุ่มผู้นำชุมชน จำนวน 3 คน ขับรถยนต์กระบะไล่ชนบุตรและเพื่อนรุ่นพี่อีก 2 คน ระหว่างนั่งซ้อนท้ายกัน เพื่อจะไปเที่ยวงานรถแห่ฉลองงานบวช ที่หมู่บ้าน นาอุดม แต่ก่อนจะถึงหมู่บ้านประมาณ 100 กว่าเมตร ได้มีรถยนต์กระบะผู้นำชุมชนหมู่บ้านดังกล่าวขับมาไล่ชน เมื่อเห็นท่าไม่ดี จึงพากันเลี้ยวรถกลับเพื่อขับหลบหนีแต่ไปได้ประมาณ 3 กม.แต่ไม่รอดจึงจอดรถ จยย.ทิ้งไว้ แล้วพากันวิ่งหลบหนีเอาตัวรอด ไปคนละทิศละทาง

โดยเด็กชาย ได้วิ่งหนีไปไม่รอด จึงโยนอาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ที่รุ่นพี่ฝากไว้ทิ้งไป และยอมให้ผู้นำชุมชนจับตัวเอาไว้ จากนั้นก็ถูกชายฉกรรจ์ จำนวน 3 คน ที่จับตัวเอาไว้ รุมทำร้ายร่างกายทั้งเต๊ะต่อย เท้าเหยียบหน้าอก และรุมกระทีบ ก่อนที่ ผช.ผญบ.ได้เก็บอาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ที่เด็กชายโยนทิ้งไป และใช้ด้ามอาวุธปืนดังกล่าวตีเข้าศรีษะเด็กชายเอ จนทำให้ปืนลั่น แตกใส่มือ ผช.ผญบ.หมู่ 2 จนได้รับบาดเจ็บทั้งคนตีและคนถูกตี โดยเด็กชายเอ.(นามสมมุติ) มีบาดแผลแตกที่ศรีษะเย็บ 5 เข็ม จึงเป็นเหตุให้ ผช.ผญบ.คนดังกล่าว แค้นจัด ปรี่เข้ารุมทำงานทั้งชกต่อยเต๊ะสารพัดจนร่างกายเด็กชายสบักสบอมไปทั้งตัว ก่อนจะลากขึ้นรถเข้าไปเค้นสอบให้ยอมรับสารภาพด้วยการบังคับขู่เข็นและทำร้ายร่างกายซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งที่เด็กชายวัย 13 อ้อนวอนขอให้พาไปส่งโรงพยาบาลเพราะตัวเองได้รับบาดเจ็บจากการรุมทำร้าย แต่ก็ไม่มีใครพาตัวไปส่งโรงพยาบาล กระทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยผึ้ง เดินทางมาถึงหมู่บ้านนาอุดม จึงได้พาตัวเด็กชายวัย 13 ปี ไปส่งให้แพทย์ทำการรักษาที่โรงพยาบาลห้วยผึ้ง

นางสุพรร  มารดาหลังทราบเรื่องได้ลางานจากจังหวัดชลบุรี เดินทางกลับดูบุตรชาย ซึ่งรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บุตรขอตนไม่ได้ทำร้ายใครแม้คนเดียว แต่กลับถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการก่อกวนในงานบวช หมู่บ้านดังกล่าว และยังกล่าวหาว่าบุตรชายของตน ก่อเหตุยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ ถึงแม้ว่าบุตรชายของตนจะเป็นคนยิงหรือไม่ยิงปืน หรือมีการพกพาอาวุธปืน มือจับตัวเด็กได้แล้ว ก็ไม่ควรทำร้ายร่างกายเด็กแต่อย่างใด ถามว่า เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สามารถทำร้ายเด็กที่ยอม และไม่มีทางต่อสู้ได้ด้วยหรือ ทำเกินกว่าเหตุไปหรือไม่ และเมื่อกระทำให้เด็กบาดเจ็บอาการสาหัสขนาดนี้ ยังไม่สนใจที่จะมาขอโทษกับการกระทำของตนเองเลย แม้กระทั่งให้โอกาส ยอมเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้วแต่ก็ยังไม่สำนึก
นางสุพรรณ ยังเปิดเผยอีกว่า ได้ทำหนังสือร้องเรียนปิดผนึกร้องเรียนไปยังนายอำเภอห้วยผึ้งเพื่อขอความเป็นธรรม และขอให้ไตร่สวนการปฏิบัติหน้าที่ของ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปแล้ว แต่กลับถูกปลัดอำเภอห้วยผึ้งคนหนึ่งอ้างว่าเป็นคนคัดกรองคำร้องเรียนก่อนส่งให้นายอำเภอ พร้อมกับฉีกเปิดซองอ่านดูต่อหน้าตน และยังพูดจากข่มขู่อ้างข้อกฎหมายต่อหน้าตนต่างๆนานา ตนจึงไม่แน่ใจว่าหนังสือร้องเรียนขอตนถึงมือนายอำเภอห้วยผึ้งหรือไม่ เพราะจนถึงวันนี้ ตนยังไม่ได้รับการประสานจากอำเภอห้วยผึ้ง ว่ามีการดำเนินการกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด แล้วอย่างนี้ความยุติธรรมมันอยู่ตรงไหนกัน

ขณะที่ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.ท.วิริยะ ชนเก่าน้อย พนักงานสอบสวนเจ้าของคคี เปิดเผยว่า หลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ ผช.ผญบ.หมู่ 2 ได้สอบปากคำเด็กชายผู้เสียหายร่วมกับสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมกับให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้เนื่องจากคู่กรณีติดใจในค่าเสียหาย จึงได้เรียกให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวในวันนี้ (20 พ.ค.) เวลา 13.30 น. เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับเจ็บ พร้อมกับดำเนินการสอบสวนเพื่อส่งฟ้องในวันจันทร์ที่ 22 พ.ค.นี้

คุณอาจสนใจ

Related News