‘อุ๊ หฤทัย’ เปิดใจ หวัง ‘ก้าวไกล’ โชว์ฝีมือบริหารประเทศ ให้ ‘พิธา’ เป็นนายกฯ แต่ไม่ควรแก้ ม.112

กรณีของอดีตนักร้อง ‘อุ๊ หฤทัย’ ที่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวการเลือกตั้งที่ผ่านมา ในรายการช่องหนึ่ง ระบุว่า “ส.ว.ต้องจบได้แล้ว ชี้ประยุทธ์ควรพอ ให้ประเทศเป็นไปตามกลไกเสียงข้างมาก หวังเห็น ก้าวไกล โชว์ฝีมือบริหารประเทศให้ดี”

ล่าสุดทีมข่าวได้คุยกับ ‘อุ๊ หฤทัย’ เพิ่มเติม โดยอุ๊ได้พูดถึงเรื่องเสียงของ ส.ว. ในการโหวตนายกรัฐมนตรีว่า เป็นสิทธิของ ส.ว. ซึ่ง ส.ว. มีอิสระ มีสิทธิเสรีภาพ ในการพิจารณา จะไปบังคับให้ ส.ว. ยกมือ มองว่าแบบนี้ทำไม่ได้ ซึ่งเธอมองว่า ส.ว.มาจากการคัดสรร แต่วาทกรรมจะบอกว่า ส.ว.มาจากการแต่งตั้ง ซึ่งการคัดสรร ส.ว.นั้น มาจากหลากหลายวิชาชีพ ถ้า ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง อุ๊มองว่าพิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่คนที่จะได้เป็นรัฐมนตรีคือ ‘อุ๊งอิ๊ง’

อุ๊ยังพูดอีกว่า มุมมองของเธอ มองว่าพิธาต้องฟอร์มรัฐบาลให้ได้ แต่มองดูแล้วทรงนี้ไม่น่าจะได้ แต่ถ้าพิธาฟอร์มไม่ได้ ก็มองว่าอุ๊งอิ๊งฟอร์มได้ หวยออกที่อุ๊งอิ๊งแน่นอน

เมื่อถามถึงกรณีที่เคยแสดงความคิดเห็นว่า “ส.ว.ต้องจบได้แล้ว” อุ๊บอกว่า ส.ว.ต้องจบ แต่ต้องดูว่าพิธาฟอร์มรัฐบาลได้หรือไม่ ต้องฟอร์มรัฐบาลขึ้นมาให้ได้เสียงข้างมาก แล้ว ส.ว.จะไปทำอะไรได้ ซึ่ง ส.ว. ก็ต้องพิจารณาด้วยว่าเมื่อพิธาขึ้นมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ประเทศชาติจะกระทบอะไรหรือไม่ เช่น เรื่องของความขัดแย้ง เรื่องของ ม.112 รวมทั้งการวางตัวเป็นกลางของประเทศไทยทางการเมืองระหว่างประเทศ

ส่วนประเด็นที่อุ๊เคยพูดว่า “เราควรให้ฝ่ายชนะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นรัฐบาล แต่ใจอยากให้ท่านเป็นนายกฯ (พล.อ.ประยุทธ์) แต่ฝ่ายลุงตู่แพ้ เราก็ต้องยอมรับกติกาเสียงข้างมาก เราหวังว่าหลังการเลือกตั้งจะไม่มีความขัดแย้งแล้ว ลุงตู่ ควรพอ ให้ประเทศเป็นไปตามกลไกเสียงข้างมาก” นั้น อุ๊ก็บอกว่า ถูกต้อง เราต้องยอมรับกติกาเสียงข้างมาก ใครชนะก็ฟอร์มรัฐบาลบริหารประเทศไป ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ก็แพ้การเลือกตั้งเท่านั้นเอง การเมืองมีมา แล้วก็มีไป เป็นอยู่แบบนี้ ทุกคนต้องยอมรับกติกา ใครกระโดดเข้ามาแข่งขันตั้งแต่แรกแสดงว่าต้องรู้กติกาอยู่แล้วมันเป็นการแข่งขันการเลือกตั้ง ฝ่ายชนะก็ไปฟอร์มรัฐบาล แล้วเข้าสภา แล้วก็ยกมือ พร้อมย้ำอีกครั้งว่า ส.ว.ที่มาจากการคัดสรร เขาอิสระ จะพิจารณาถึงท่าทีของพิธาด้วยว่ามีท่าทีอย่างไร อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งกับสังคมและประเทศหรือไม่ ท่าทีจะนำพาประเทศชาติไปสู่และเสี่ยงกับสงครามหรือไม่

ส่วนที่อุ๊บอกว่า “หวังว่าจะเห็นก้าวไกล โชว์ฝีมือบริหารประเทศให้ดี” อุ๊ก็บอกว่า ก็แน่นอน เพราะนโยบายเขามีดีตั้งหลายด้าน เป็นคนรุ่นใหม่ เราก็ต้องให้เขา เขากำลังไฟแรง กำลังหนุ่ม กำลังสาว เพราะเขาชนะการเลือกตั้ง แต่ว่าถ้าหากพิธาและพรรคก้าวไกลฉลาด จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีบนความขัดแย้งของสังคมไทยได้อย่างไร ตรงนี้มองว่าไม่ฉลาด ถ้าฉลาดต้องให้บ้านเมืองสงบ พร้อมตั้งคำถามว่าจะไปจุดประเด็นแก้ ม.112 ทำไม

ก่อนหน้านี้ อุ๊ได้โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้น ระบุว่า “นักข่าวโทรมาถามอุ๊เยอะมากว่า พี่อุ๊สนับสนุนให้พิธาเป็นนายกฯ? และให้ ส.ว.หยุดสกัดพิธา? ผิดค่ะ อุ๊ไม่ได้หมายความแบบนั้น บริบทการสนทนาคือ

1.พิธาชนะการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นเราต้องยอมรับกติกา เสียงข้างมาก ก็ต้องปล่อยให้พิธาเป็นนายกฯ แต่ พิธาไม่ควรแก้ ม.112 เพราะจะทำให้ประเทศเกิดความขัดแย้ง และพิธาต้องวางตัวเป็นกลางเรื่องความขัดแย้งการเมืองระหว่างประเทศของชาติมหาอำนาจ เพราะไทยวางตัวเป็นมิตรกับทุกฝ่าย และ 2 ประเด็นนี้ ส.ว.จะพิจารณาเพื่อยกมือ หรือไม่ยกมือให้พิธาด้วย

2.อุปสรรคของพิธาไม่ใช่ ส.ว. แต่อุปสรรคคือ พิธาฟอร์มรัฐบาลไม่ได้

3.ถึงแม้ว่า ถ้าเป็น ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้ง พิธาก็น่าจะแพ้ เพราะที่ผ่านมาในอดีต ส.ว.จากการเลือกตั้งมักจะเป็นคนของทักษิณ

สรุป พิธาต้องไม่จุดประเด็นความขัดแย้งทั้งในและนอกประเทศ ในประเทศก็คือ ม.112 และต้องวางตัวเป็นกลางระหว่างรัสเซีย จีน และอเมริกา แค่นี้สันติสุขก็บังเกิด และแถลงข่าวเป็นเรื่องเป็นราว ให้ ส.ว.มั่นใจ

แล้วก็จะได้เป็นนายกฯของประเทศไทยที่มีแต่ความสงบสุขและสันติ ประเทศก็ขับเคลื่อนไปได้ ก็ประมาณนี้แหละ”