สังคม

แฉอีก! พฤติกรรม 'แอม ไซยาไนด์' ชวนเป็นเจ้ามือหวย สุดท้ายพบเป็นวงหวยทิพย์ สูญเงินล้านห้า

โดย weerawit_c

30 เม.ย. 2566

726 views

ความคืบหน้ากรณีการกระทำของนางสาวแอมซึ่งนอกจากว่าจะมีการพบว่าหรอกเล่นแชร์จำนำรถและมีอีกหลายพฤติกรรมล่าสุด



ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้รับข้อมูลจาก มูลนิธิวินวิน ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเกี่ยวกับคดีนี้ มี สองสามีภรรยาเข้าขอความช่วยเหลือ พร้อมนำหลักฐานสลิปการโอนเงิน ให้เข้าบัญชีนายแด้ที่เป็นสามีแอม เป็นจำนวน 1 ล้านแสนบาท คลี่คลายคดี



โดยนางสาวจุ๋มมาขอความช่วยเหลือ กับมูลนิธิวินวิน ให้ช่วยเหลือจากกรณีที่ร่วมลงทุนเป็นเจ้ามือ หวยกับนางสาวแอมแต่สุดท้ายกลับถูกหลอก



ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้พูดคุยกับคุณจุ๋ม ซึ่งเป็นผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่ารู้จักกับแอมไม่นาน โดยแอมเข้ามาหาเพื่อจะขอให้ช่วยหาที่รับจำนองบ้านเนื่องจากเล่นแชร์แล้วล้มละลายจะนำบ้านมาจำนอง จากนั้นแอมก็ทำความรู้จักกับคุณจุ๋มเป็นระยะพูดคุยสอบถามจนสนิทสนมกันในระยะเวลาเพียงสามเดือน



จากนั้นนางสาวแอมก็ชวนนางสาวจุ๋มเป็นเจ้ามือหวยโดยบอกว่ามีเจ้ามือรายใหญ่ที่ใจถึงชื่อว่านายเค รับแทงหวยไม่อั้นและยังให้แทงหวยก่อนวันที่หวยออกจึงทำให้นางสาวจุ๋มเชื่อใจเพราะความเชื่อถือในตัวนางสาวแอมและทดลองเป็นเจ้ามือร่วมกัน



งวดแรกวันที่ 1 มกราคม 2566 พบนำโพยหวยไปส่งให้นายเคและได้รับเงินถูกต้องโดยที่ไม่มีการอั้นหวยเหมือนเจ้ามือรายอื่นๆ ตอนนั้นก็ทำให้รู้สึกเชื่อใจไว้ใจและแอม



จากนั้นงวดวันที่ 16 มกราคม 2566 ก็คุยกับนายเค ส่งโพยหวยไปตามปกติ และทยอยโอนเงินไป หลายรอบ งวดนั้นหวยออกมามีลูกค้าถูกหวยจำนวนมากเป็นเงินรวม1ล้านห้าแสนบาท



เมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายเงิน คนถูกหวย ทางนางสาวจุ๋มจึง LINE ไปหานายเคซึ่งมารู้ทีหลังว่าคือนายแด้ก็พบว่า LINE กลุ่มนี้ถูกปิดไปและไม่สามารถติดต่อนายเคได้จึงพยายามติดต่อนางสาวแอมเพื่อให้ติดต่อนายเคเพราะเป็นเจ้ามือรายใหญ่



แต่นางสาวแอมปฏิเสธที่จะติดต่อให้โดยอ้างว่าไม่รู้เรื่องให้ไปติดต่อกันเองจากนั้นก็มี LINE ผู้หญิง ชื่อกาเหว่าเข้ามาพูดคุยในลักษณะเหมือนกับรู้เรื่องทั้งหมดซึ่งคุณจุ๋มเชื่อว่า LINE นี้คนที่คุยคือแอม



ครอบครัวรู้สึกเครียดมากเพราะรู้ว่านี่โดนหลอกแล้ว ต้องมา เป็นหนี้สินจำนวนมากจึงเดินทางไปหาแอมที่บ้านพักแฟลตตำรวจ



เพื่อให้ช่วยตามหานายเค เมื่อไปถึงตอนนั้นแอมที่เคยรู้จักว่าเป็นคนดีพูดคุยสุภาพเรียบร้อยกลับด่าและบอกว่าจะแจ้งข้อหาบุกรุกเมื่อมาถึงบ้าน



ทางคุณจุ๋มและสามีจึงบอกไปว่าไม่ได้บุกรุกแต่มาถามว่าติดต่อใครได้บ้างเพราะไม่สามารถติดต่อเจ้ามือหวยได้และมีคนถูกหวยจำนวนมากตอนนี้ใครจะรับผิดชอบ



จากนั้นสามีแอมซึ่งเป็นตำรวจก็มาสอบถามข้อมูลและบอกว่าพวกนางสาวจุ๋มไปตกลงทำธุรกิจผิดกฎหมายร่วมกับนายเคไม่ได้เกี่ยวข้องกับแอมแล้วจะมาถามกับแอมไม่ได้



ซึ่งต้องไปตามกับนายเค แต่สามีของคุณจุ๋มบอกว่าต้องการคุยกะแอมเพราะเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากแอมแต่ก็ไม่ได้พูดคุยกับนางสาวแอมซ้ำยังถูกตำรวจเรียกไปสอบปากคำเรียกไปพูดคุยเหมือนกลายเป็นผู้ต้องหาซึ่งรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาขอคงามช่วยเหลือจากมูลนิธิวินวิน



จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่านายเค คือนายแด้ ซึ่งเป็นสามีอีกคนของนางสาวแอม



และทั้งสองคนยังรู้จักสนิทสนมกันต้นจึงเชื่อว่าถูกหลอกและเป็นหวยทิพย์ที่ไม่มีเจ้ามือจริงๆเป็นการหลอกลวงจากนางสาวแอมและนายแด้พี่วางแผนกันโดยใช้เงินหลักแสนล่อให้ตายใจ จากนั้นก็ให้พวกต้นส่งหวยไปให้และ และโอนเงินไปให้รวมแล้วล้านห้า ตามสลิปที่เคยเปิดเผยผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้



คุณจุ๋มยังบอกอีกว่าเมื่อทวงถามเงินแอมและพยายามติดต่อให้แอมพยายามชวนให้คุณจุ๋มไปตามหาเจ้ามือหวยที่แท้จริงด้วยกันสองต่อสองตอนนั้นคุณจุ๋มบอกว่ามองว่าผู้หญิงคนนี้ไม่น่าเชื่อใจอีกแล้วจึงไม่ไปด้วยและพอมาทราบข่าวการก่อเหตุวางสารพิษให้มีคนกินและเสียชีวิตหลายรายจึงรู้สึกว่าตนเองรอดชีวิตมาได้หากวันนั้นตกลงไปกับแอมยอมรับว่าคงไม่รอด



“ผู้หญิงคนนี้ร้ายมากทำให้คนอื่นไม่ตายก็เป็นหนี้ซึ่งตอนนี้ครอบครัวของตนเองเป็นหนี้สินและมีการฟ้องร้องดำเนินคดีจากอยู่ดีๆ ก็ต้องมาทุกข์จากเดิมที่แอมเข้ามาหาเราเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือแต่กลับกลายมาเป็นมิจฉาชีพหลอกลวงตั้งวงหวยทิพย์” ขอให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายส่วนกรณีตนเองขายหวยนั้นก็ยอมรับว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายแต่แอม ก็ร่วมอยู่ด้วย


สำหรับธุรกิจของนางสาวแอมนั้นนอกจากพบว่าจะเล่นวงแชร์หลายวง และมีเงินหมุนเวียนจำนวนมากแล้วยังพบว่ามีธุรกิจ จำนำรถยนต์



โดยพบว่านางสาวแอมจะพาคนที่รู้จักไปจำนำรถยนต์กับบุคคลหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เปิดเป็นเต้นท์รถ หรือ ร้านรับซื้อรถมือสอง แต่เป็นการจำนำส่วนบุคคล และตกลงทำสัญญา จำนำรถ แล้วจะได้รับเงินสด เสร็จแล้วนางสาวแอมก็จะรับผู้ตายออกมาแล้วเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้เรื่องการจำนำรถนั้นมีรายงานว่าเสียชีวิตแล้ว 2 ราย



รายที่ 1 คือนายกบ เขียงหมู ที่มีการนำรถไปจำนำ โดยแอมเป็นคนพาไปจำนำในราคา 200,000 บาทจากนั้นช่วงเย็นก็มีการนัดทานอาหาร โดยไม่แน่ชัดว่ามีแอมรวมอยู่ในกลุ่มด้วยหรือไม่ หลังจากนั้นก็พบว่าเสียชีวิตปริศนา ส่วนเงิน 200,000 บาทก็หายไปด้วย



รายที่ 2 นางสาวนิตยา ซึ่งพบว่าเสียชีวิตในพื้นที่ตำบลโพรงมะเดื่อ จังหวัดนครปฐม



วานนี้ทีมข่าว สอบถามคุณภูมิ สามีของคุณนิตยา เล่าว่า ไม่รู้ว่าแฟนตนไปรู้จักกับนางสาวแอมได้อย่างไร แต่คิดว่าน่าจะรู้จักกันเพราะเรื่องเล่นแชร์และการปล่อยเงินกู้นอกระบบ ตอนที่คุณนิตยา มาทำงานที่นครปฐมก็สนิทสนมกับแอมมาก ในระยะเวลาเพียง 5 เดือน จากนั้นนิตยาก็เสียชีวิต



ก่อนจะเสียชีวิตก็พบว่า นางสาวแอมชวนคุณนิตยาเล่นแชร์ จากนั้นก็ให้นางสาวแอม พาไปจำนำรถยนต์ ในราคา 1 แสน 5 หมื่นบาท วันที่ 22 สิงหาคม 63



จากนั้นช่วงเย็น นางสาวแอมนั่งคุยกันกับนิตยา ที่ใต้หอพักแล้วออกไปเที่ยวสถาบันเทิงกัน โดยช่วงนั้นตนก็วีดีโอคอลหา เห็นผู้หญิงนั่งข้างๆ แต่เห็นหน้าไม่ชัด เชื่อว่าเป็นนางสาวแอม

จากนั้นก็ติดต่อนิตายาไม่ได้ จนเช้าวันที่ 23 ส.ค. 63 พบนิติยา เสียชีวิตในห้องน้ำหอพัก ในลักษณะล้มฟุบหน้าคว่ำลงที่ชักโครก และมีเลือดออกจากปาก ออกจมูก ออกทวาร เหมือนธาตุไฟแตก ตอนนั้นก็แปลกใจและสงสัยว่านิตาเป็นอะไร พบมาดูผลชันสูตรพบว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว



“ซึ่งสิ่งที่ทำให้เชื่อว่าการเสียชีวิตของนิตยา เกี่ยวกับแอม เพราะอยู่ด้วยเป็นคนสุดท้าย และสภาพศพก็ไม่ปกติ นอกจากมีเลือดออกทางทวารแล้ว ตามร่างกายมีลักษณะสีคล้ำดำตามใบหน้าและตามลำตัวทั้งหมดตอนแรกไม่ได้ติดใจอะไรเพราะผลชันสูตรออกมาแบบนั้น แต่คิดในใจ และเกิดความสงสัยมาตลอด”



ส่วนเรื่องการเงิน ระหว่างนิตยาและนางสาวแอม ไม่ทราบจำนวนว่ามีการกู้ยืมเงินกันไปจำนวนเท่าไหร่เพราะเค้าสองคนจะรู้กันเพียงแค่นั้น แต่กรณีที่นำรถยนต์ไปจำนำแล้วได้รับเงินสดจำนวน 150,000 บาทออกมานั้น กลับพบว่าเงินจำนวน 150,000 บาทนั้นหายไป ไม่มีการนำเข้าบัญชีและไม่มีใครรู้ว่าเงินหนีหายไปไหน ซึ่งคนที่รู้ว่าเงินนี้ถูกเก็บไว้ที่ใดและใครเป็นผู้ใช้ก็คือนางสาวแอมที่เป็นคนกลางพาไปจำนำรถ



“เรื่องการจำนำรถและมีการเสียชีวิต คุณภูมิบอกได้เงินแล้วเงินหายไปไหน แล้วก็อยู่กับแอมตลอด จนกระทั่งจัดงานศพนิตยาเสร็จ ตนก็ไปไถ่รถคืนตอนนั้นนางสาวแอมบอกว่าต้องจ่ายจำนวน 150,000 บาทตามที่นางสาวนิตยานำไปจำนำ หลังจากนั้นก็มีชายขับรถของนิตยามาส่งให้ข้างทาง โดยไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร โดยสรุปรวม ตนไถ่ถอนรถคันนี้ 150,000 บาทและเงินที่นิตยา ไปจำนำรถจำนวน 150,000 บาทก็หายไป”



โดยส่วนตัว คุณภูมิเชื่อว่า ธุรกิจการจำนำรถของแอม แม้ว่าจะเป็นคนกลางไม่ใช่เจ้าของเงิน แต่เชื่อว่า มีคนรู้เห็นกับขบวนการจำนำรถ แล้วเสียชีวิต เพราะแอมคนเดียวไม่น่าจะทำได้ ต้องเป็นขบวนการ สมรู้ร่วมคิดกัน



พฤติกรรมนางสาวแอม เป็นบุคคลที่อันตรายเป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตและขออยากให้รับโทษสูงสุด ซึ่งกรณีที่บอกว่าเขาไม่ต้องรับโทษประหารชีวิตเพราะท้อง



“ตนมองว่าไม่เป็นธรรมเพราะคนที่เสียชีวิตไปหลายคนครอบครัวและคนอยู่เบื้องหลังที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากซึ่งมองว่าไม่ยุติธรรมสำหรับคนที่สูญเสียและอยากฝากบอกถึงแอมว่าขอให้รับผลกรรมที่ทำมา”



ขณะที่ด้านทนายธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอม เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนยังจะเดินหน้าทำคดีให้กับแอมต่อไป ไม่มีเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นหน้าที่ของทนายความที่ต้องไม่ทอดทิ้งลูกความ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการผิดมรรยาททนายความ และตนเองก็รับผิดชอบเพียงแค่คดีการเสียชีวิตของก้อยเพียงคดีเดียว ส่วนคดีอื่นตนยังไม่ได้ถูกว่าจ้าง ซึ่งแอมอาจจะไปจ้างทนายความคนอื่นก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกความ



ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจ และตามกระบวนการของคดีอาญา จำเลยก็มีสิทธิที่จะต้องแก้ต่างในสิ่งที่โจทก์ฟ้องมา โดยการนำพยานหลักฐานมาคัดค้านพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์อยู่แล้ว ซึ่งตนยังมั่นใจในการต่อสู้คดีนี้ เพราะได้วางแนวทางเอาไว้แล้ว และตอนนี้ก็รู้ความบกพร่องของฝ่ายโจทก์ด้วยว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง โดยตนเห็นผ่านสื่อตลอด ตอนนี้เพียงแค่นับถอยหลังรอเวลาเท่านั้น



ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้มี โอกาสเข้าไปเยี่ยมแอมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง แต่ได้ให้เลขาฯ เข้าไปเยี่ยมแทนแล้ว แต่ในสัปดาห์หน้าต้นจะเข้าไปซึ่งก็จะไปถาม ว่าเป็นอย่างไรบ้างสบายดีไหมแล้วจะบอกให้อดทนอยู่ให้ได้ข้างนอกเดี๋ยวตนเคลียร์เอง


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/seaNYCSRzqA

คุณอาจสนใจ

Related News