เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 26 เม.ย.66 ครม.เคาะช่วยอุ้มค่าไฟ-จับแอม คดีวางยาฆ่าเพื่อน-ภาษาพาทีสอนหุงข้าวรีไซเคิล

-กองปราบรวบ นางสาวแอม พร้อมของกลางขวดสารพิษ สอดคล้องกับผลการผ่าพิสูจน์ของผู้ตายที่พบสารนี้อยู่ในร่างกาย คุมตัวสอบเข้ม โยงคดีตายปริศนา แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" คุมตัวสอบสวนกองปราบปราม

รองโจ๊ก เผยผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ยังไม่พบอาการทางจิต สืบพบความเชื่อมโยง 9 ศพตายปริศนา บาดเจ็บ 1 ถือเป็นบุคคลสำคัญไขคดี คาดแรงจูงใจก่อเหตุคือ ล้างหนี้และประสงค์ทรัพย์

-ทนายโร่แจง นางสาวแอม ไม่ได้วางยาฆ่าเพื่อน ยันเดินลงไปช่วยก้อยวูบที่ท่าน้ำ แต่ตั้งครรภ์เลยเดินไม่สะดวก หลังข่าวดังแอมเครียด ความดันขึ้น ส่วนสามีที่เป็นนายตำรวจก็หย่ากันมา 2 ปีแล้ว ก่อนคบหากับนายแด้ ชาวอุดร และนายสุทธิศักดิ์ ที่เสียชีวิตทั้งคู่ เตรียมหาหลักฐานสู้คดี

ผู้การฯ ราชบุรี สั่งย้ายรอง ผกก.ราชบุรี สามีแอม ไปช่วยราชการ สภ.สวนผึ้ง หลังภรรยาถูกกองปราบจับกุม แจงคดีล่าช้า เพราะรอผลตรวจจากแพทย์

ด้านครอบครัวกะณิกา หนึ่งในเหยื่อ ร้องตำรวจ ชี้วันเกิดเหตุ รู้แค่วูบแล้วเสียชีวิตที่ปั๊ม มือถือ-ทองคำหาย สุดคาใจ แอมอยู่ในจุดเกิดเหตุแต่ไม่ยอมช่วย ช่วงงานศพก็ไม่เคยมาร่วมงาน

-ชูวิทย์ ลากกระเป๋าเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร้อง ผบ.ตร. สอบ 2 ตำรวจท่องเที่ยว ยกกระเป๋าเดินทางให้ทนายตั้ม และลูกความที่สุวรรณภูมิ ลั่นไม่อยากให้มีบริการเฉพาะ VVIP เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับประชาชน

ขณะที่บิ๊กโจ๊ก ปัดสั่งตำรวจดูแล หิ้วกระเป๋า ทนายตั้มจี้ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ต้องตรวจสอบให้ได้ว่าใครสั่ง เพราะทำภาพลักษณ์เสียหาย ย้ำสนิททนายตั้ม จริงแต่ถ้าทำผิดก็ต้องจับ ไม่โกรธชูวิทย์โพสต์พาดพิง เพราะไม่ใช่เรื่องจริง มองเป็นเรื่องธรรมดา 2 คนทะเลาะกัน สะเก็ดมาถูกตนบ้างก็ไม่เป็นไร

-รองโฆษก ทบ. ขอเวลาสอบนายพล เซ็กซ์ซาดิสม์ เพราะเพิ่งตั้งคณะกรรมการได้แค่วันเดียวเท่านั้น ปัดตอบเอี่ยวยาเสพติดต้องออกราชการหรือไม่ ย้ำเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวองค์กร ผบ.ตร.สั่งผู้การสงขลา เร่งทำคดีนายพล สอบสวนให้กระจ่างเป็นธรรมทุกฝ่าย ยันคดีไม่ล่าช้า เชื่อจะมีความชัดเจนมากขึ้น

-ดรามาแบบไม่พัก! แบบเรียนภาษาพาที ป.5 ชาวเน็ตวิจารณ์ นำข้าวสวยที่กินไม่หมด มาตากแดด นำไปหุงใหม่แบบรีไซเคิล บางคนแซวเอาไปทำข้าวแต๋น ข้าวตังอร่อยกว่า นักโภชนาการชี้ ข้าวนี้กินได้ เชื้อโรคถูกฆ่าเชื้อไปแล้วจากการหุง แค่วิตามินบางตัวจะหายไป แต่งงว่ายุคนี้คงไม่มีใครอดอยากถึงต้องตากข้าวไปหุงกินใหม่ แนะกระทรวงควรออกแบบเรียนสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันดีกว่า


เรื่องเล่าการเมือง

-เมื่อวานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือประชาชนเรื่องค่าไฟ ซึ่งจะต้องเสนอให้ กกต.พิจารณาอนุมัติอีกครั้ง นายกฯบอก อย่ามองเป็นเรื่องการเมือง

สำหรับมาตรการที่ ครม.เห็นชอบ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางต่อเนื่องอีก 4 เดือน และประชาชนที่ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วย ลดให้ 150 บาทในหน้าร้อน 1 เดือน คือเดือนพฤษภาคม รวมใช้งบหมื่นกว่าล้านบาท และเนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ จึงจะต้องเสนอให้ กกต.พิจารณาอนุมัติการนำงบประมาณมาใช้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า สถานการณ์ค่าพลังงานยังไม่แน่นอน ซึ่งก็ต้องดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ในขณะที่งบประมาณก็อยู่อย่างจำกัด

ยืนยันว่า รัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วนที่ร่วมบริหารจัดการพลังงาน เพราะรัฐบาลไม่สามารถจะลงทุนทั้งหมดได้ จึงให้เอกชนเข้ามาลงทุนด้วยแต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย

นายกฯ ยังได้กล่าวด้วยว่า ที่มีการบอกกันว่า มีการผลิตไฟฟ้าสำรองเกิน 50-60% ยืนยันว่าไม่ใช่ตัวเลขนั้น ขอให้เข้าใจ อย่าไปหาเสียงทำให้เกิดความตื่นตระหนก ทำให้การบริหารทำไม่ได้

และก่อนจบการแถลง นายกฯ ได้บอกว่า วันนี้พูดในนามรัฐบาล และขอขอบคุณ พรรคร่วมรัฐบาล รองนายกฯ และบรรดารัฐมนตรีเข้าประชุม ส่วนบางคนที่มีภารกิจจำเป็น และลาประชุม นายกฯบอกว่าทุกคนต้องได้รับบันทึกการประชุม เพราะถือเป็นมติ ครม.

ขณะที่ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกฯ พยายามบอกสื่อว่าอย่างโยงเรื่องมาตรการลดค่าไฟช่วยเหลือประชาชนว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องดูแลประชาชน ยืนยันไม่นำเรื่องนี้มาเป็นประโยชน์กับตนเอง



-ขณะที่พรรคไทยสร้างไทย เมื่อวานนี้ มีการยื่นฟ้องเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนทำให้ ค่าไฟฟ้าแพง ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพราะเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้เอกชน

นายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ พรรคไทยสร้างไทย พร้อมทีมกฎหมาย เดินทางไปที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ ฐานใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหาย แก่ประชาชน

เนื่องจากพบว่า ในปี 2555 สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการประมูลโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ให้เอกชนรายใหญ่จำนวนหนึ่งได้รับ สิทธิสัมปทาน โดยมีการทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเอื้อประโยชน์ให้เอกชนคู่สัญญาให้ได้รับประโยชน์ จากค่าFT และผลักภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน นำมาสู่ปัญหาค่าไฟแพงในปัจจุบัน

เช่นเดียวกับ พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวานนี้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษากรรมการนโยบายพรรค แถลงตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลรักษาการ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนหรือไม่ เพราะไม่มีการส่งเสริมโซลาร์เซลล์ตามบ้านเรือนอย่างจริงจัง แต่กลับเปิดประมูลซื้อไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ จากเอกชนรายใหญ่



-เมื่อวาน นายชูวิทย์ ออกมาแฉว่ามี 20 จังหวัดที่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ยันมีหลักฐานในมือแล้ว พร้อมระบุการเลือกตั้งครั้งนี้ มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งไปเคลื่อนไหวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดประเด็นทางการเมืองด้วย โดยระบุว่า การเลือกตั้ง ส.ส. ที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นการเลือกตั้งที่มีการซื้อสิทธิขายเสียงกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ มีการใช้ อสม.เดินจดรายชื่อ มีการเก็บบัตรประชาชนไว้จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง

ทั้งนี้นายชูวิทย์ ยังได้เปิดเผย 20 จังหวัดที่ระบุว่ามีการซื้อเสียง โดยบอกว่าพื้นที่ที่มีการซื้อเสียงกันมากที่สุดคือ ภาคอีสานตอนล่าง เช่น อำนาจเจริญ / สุรินทร์ / ศรีสะเกษ / บุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังพบที่ภาคกลาง เช่น ที่อยุธยา นนทบุรี ไปจนถึงภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งอันดามันที่จังหวัดภูเก็ตทำสถิติจ่ายสูงถึง 3 พันบาท

นายชูวิทย์ ระบวุ่า ตนมีหลักฐานอีกเยอะมาก แต่คลิปที่จะนำมาเผยแพร่จะต้องดูให้ดี เพราะจะหาว่าตนเองจัดฉากหรือกลั่นแกล้ง มีการจ่ายเงินซื้อเสียงทุกพรรคการเมือง แล้วแต่ว่าจะจ่ายมากหรือจ่ายน้อย

ซึ่งตนจะทำหนังสือถึง กกต. เพื่อให้ตรวจสอบ ทั้งนี้หลักฐานที่ตนเองจะนำไปมอบให้ กกต.ต้องชัดเจน90% หรือครบองค์ประกอบความผิด ซึ่งตอนนี้มีประมาณ 70-80 % แล้ว



-ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีสาธารณสุขและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธ ว่าไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่นายชูวิทย์ แฉว่ามี อสม.เกี่ยวข้องกับกระบวนการซื้อสิทธิขายเสียง

โดยบอกว่า ตอนนี้ส่วนใหญ่ตนทำหน้าที่หัวหน้าพรรคลงพื้นที่พร้อมสมาชิกพรรคเพื่อหาเสียง อยู่ในช่วงลาราชการ เป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้มีอำนาจสั่งการ อสม. แต่อย่างใด

ทั้งนี้เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่กับสิ่งที่นายชูวิทย์แฉออกมา นายอนุทิน ก็หัวเราะเสียงดังทันที



-เมื่อวานนี้ศาลฎีกานักการเมืองพิพากษา จำคุก 6 ปี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในคดีเรียกรับเงิน อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ระหว่างการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี2564

เมื่อวานนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต ส.ส. มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย เป็นเวลา 6 ปี พร้อมตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ในคดีที่ อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมาย ป.ป.ช. ฐานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สร้างความเสียหายแก่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลและราชการ

โดยคดีนี้ นายอนุรักษ์ ถูกกล่าวหา เมื่อครั้งเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระหว่างการทำหน้าที่ เป็นรองประธานอนุกรรมาธิการ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 โดยถูกนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวหาว่า นายอนุรักษ์ โทรศัพท์มาเรียกรับเงิน จำนวน 5ล้านบาท และขอเข้ามาเป็นผู้รับจ้างก่อสร้างงานของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อแลกกับการพิจารณางบประมาณ

ทำให้ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ออกมาเปิดโปงและร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช. นำมาสู่การลงโทษทางจริยธรรมให้นายอนุรักษ์ พ้นจากความเป็น ส.ส. ไปเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2565 และตัดสิทธิ์เลือกตั้งเป็นเวลา10ปี

ส่วนคดีอาญาเมื่อวานนี้ ศาลฎีกาพิพากษา จำคุกนายอนุรักษ์ เป็นเวลา 6ปี และตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต อย่างไรก็ตามคดีนี้ ศาลได้อนุญาตประกันตัว นายอนุรักษ์ ด้วยวงเงิน 1ล้านบาท เพื่อต่อสู้ในชั้นการอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/EZ5rb6PLEdI