สังคม

หนุ่มร้อง เจ้าถิ่นยกพวกบุกบ้าน กระทืบคนแก่-เตะเด็ก อีกฝั่งโต้หนังคนละม้วน ถูกหาเรื่องก่อน

โดย paweena_c

19 เม.ย. 2566

106 views

หนุ่มร้องเพจโหนกระแส หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นประจำซอยยกพวกบุกเข้ามาถึงในบ้านทำร้ายเด็กและคนแก่จนดั้งจมูกหัก สาเหตุมาจากเข้าใจผิดคิดว่า ตะโกนให้ของลับใส่กัน

เรื่องดังกล่าว ทางครอบครัวผู้บาดเจ็บ ส่งมาร้องขอความเป็นธรรมกับเพจรายการโหนกระแส โดยระบุข้อความว่า โดนรุมทำร้ายร่างกายบุกเข้ามาต่อยและกระทืบถึงในบ้านพ่อโดนต่อยจนตาปิดจมูกหักและโดนเอาเงินที่มีติดตัวไป 2,000 บาทส่วนลูกชายอายุ 12 ปี โดนเตะกระเด็นอัดกลับรถแขนเกือบหัก บ้านโดนทุบฝาผนังข้าวของแตกกระจาย พระสะสมมูลค่า 150,000 กว่าบาท โดนเอาไปด้วย แจ้งตำรวจแล้วแต่เรื่องก็เงียบ

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่เกิดเหตุ พูดคุยกับนายศาสตรา อายุ 42 ปี ผู้บาดเจ็บ โดยนายศาสตราเล่าว่า วันเกิดเหตุ 14 เมษายนที่ผ่านมา ประมาณ 6 โมงเย็น ตัวเอง ขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อน้ำแข็งบริเวณท้ายซอยซึ่งจะต้อง ขี่ผ่านกลุ่มคู่กรณีที่กำลังนั่งดื่มเหล้ากันอยู่

จู่ ๆ กลุ่มคู่กรณีตะโกนเรียกให้ นายศาสตรา จอดรถและถามว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ก่อนจะ เดินปรี่เข้ามาตบ ซึ่ง นายศาสตรา ก็งง จึงพยายามถอยหนี และควักมีดคัตเตอร์ที่พกติดรถมอเตอร์ไซค์ ขึ้นมาเพื่อขู่กลุ่มคู่กรณีว่าอย่าเข้ามา จากนั้นกลุ่มคู่กรณีใช้ขวด ปาหัว ตัวเองจึงรีบวิ่งหนีกลับมาบ้าน

ขณะเดียวกันกลุ่มคู่กรณี เกือบ 10 คน ก็วิ่งตามมาจนถึงบ้านและบุกเข้ามาด้านในบ้าน ทำร้ายร่างกายตน จึงบอกให้ลูก 2 คนอายุ 14 ปีและ 12 ปีเข้าไปหลบด้านในตัวบ้านและถ่ายคลิป วีดีโอ ไว้เป็นหลักฐาน , ลูกชายคนเล็กวัย 12 ปีพยายามยกมือไหว้ขอร้องให้หยุดแต่กลุ่มคู่กรณีก็ไม่หยุด หนำซ้ำยังเตะลูกชายของนายศาสตราจนกระเด็น

จากนั้นไม่นาน นายธนู อายุ 60 ปี พ่อของนายศาสตรา ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาถึงบ้านพอดี ตะโกนถามว่าเกิดอะไรขึ้น กลุ่มคู่กรณีก็หันไปรุมทำร้ายพ่อของนายศาสตรา ด้วยการใช้หินทุบไปที่หน้าจนดั้งจมูกหัก แล้วพ่อลงไปนอนกองกับพื้น

นายศาสตราบอกอีกว่าตัวเองกับกลุ่มคู่กรณี รู้จักกันเพราะอยู่ภายในซอยเดียวกันมานาน ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน นอกจาก เจ็บตัวแล้วยังมีทรัพย์สินถูกขโมยไปด้วยมีหลวงพ่อเงินเลี่ยมทอง 1 องค์ มูลค่าประมาณ 3,000-4,000 บาท /กระเป๋า ใส่เงินของพ่อมีเงินอยู่ 2,000 บาท และชุดพระเครื่องที่ตัวเองสะสมไว้รวมถึงบ้านได้รับความเสียหาย ประเมินมูลค่าประมาณ 150,000 บาท

นายศาสตรา บอกว่า สิ่งที่งกังวลคือเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ พูดด้วยว่า เป็นลูกน้อง ตำรวจภูธรภาค 7

ขณะที่นายธนู พ่อของนายศาสตรา บอกว่า กรณีที่กลุ่มคนก่อเหตุเข้ามาทำร้ายร่างกายนั้น ตนได้รับบาดเจ็บที่จมูก เพราะจมูกหัก โหนกแก้มแตก ต้องได้รับการผ่าตัด โดยนายธนู บอกว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าลูกชาย มีเรื่องอะไรกับคู่กรณี แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าอุกอาจมาก บุกเข้ามาทำร้ายถึงในบ้าน ซึ่งตอนนี้กลัวจะไม่ปลอดภัย

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่ไปดูบริเวณ ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุ ตั้งวงดื่มเหล้า ซึ่งเป็นบริเวณสี่แยกห่าง จากบ้านนายศาสตราประมาณ 300 เมตร เป็นลักษณะ ศาลาวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

จากการสอบถาม แม่ค้าขายก๋วยจั๊บ ที่อยู่บริเวณใกล้ๆกัน บอกว่า ตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ซึ่งสิ่งที่กลุ่มผู้บาดเจ็บบอก เป็นหนังคนละม้วนเลย เพราะก่อนเกิดเหตุ นายธนู ขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านมา ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุ และมองหน้าเหมือนจะหาเรื่อง และ ตะโกนถามว่า ให้ของลับกูหรอ

ซึ่งแม่ค้าขายก๋วยจั๊บยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่ได้ตะโกนหาเรื่องอะไรนายธนู แต่เหมือนนายธนูเข้าใจผิดคิดไปเอง จากนั้นนายธนูโทรศัพท์เรียกนายศาสตราลูกชายให้มาหาที่เกิดเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลของแม่ค้าก๋วยจั๊บ สอดคล้องกับภาพกล้องวงจรปิดที่ทีมข่าวได้มา จะเห็นว่าจังหวะแรกนายธนู ขี่รถจักรยานยนต์ใส่เสื้อวินสีส้ม มาชะลอและวนอยู่ตรงบริเวณกลุ่มผู้ก่อเหตุที่กำลังนั่งดื่มเหล้า

จากนั้น ประมาณ 2 นาที นายศาสตรา ก็ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งตรงมาที่กลุ่มผู้ก่อเหตุ , ซึ่งแม่ค้าขายก๋วยจั๊บบอกว่า นายศาสตรามาถึงก็ถามลักษณะหาเรื่องและควักมีดคัตเตอร์ขึ้นมาขู่ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่พอใจและปาขวดใส่ ก่อนจะวิ่งไล่ตามกันไปถึงในบ้านนายศาสตรา

สำหรับความคืบหน้าทางคดี ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้ควบคุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ 3 คน คือ นายโอ๊ค นายปริ้น และ นายปาล์ม เบื่องต้นดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายและบุกรุกเคหสถาน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้รับการประกันตัวในชั้นศาลวงเงินประกันคนละ 80,000 บาท , โดยตำรวจยืนยันว่าทำคดีตรงไปตรงมา ยืนยันกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้เป็นพวกกับตำรวจ

ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุ หากจะแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้เสียหายก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ทีมข่าวของเราพยายามติดต่อไปยังกลุ่มคนก่อเหตุ บอกว่าไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ เพราะเรื่องที่ผู้บาดเจ็บพูดไปนั้นไม่เป็นความจริง เพราะคนในซอยรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น และรู้ว่าครอบครัวนี้เป็นอย่างไร


https://youtu.be/vHABPfsIAWU

คุณอาจสนใจ

Related News