เลือกตั้งและการเมือง

'ชูวิทย์' วิเคราะห์การเมืองเรื่องจับเบอร์ แซะ ภท.ได้หมายเลข 7 ส่อ ‘เจ๊ง-เจ็บ’ จากเลือกตั้ง

โดย petchpawee_k

5 เม.ย. 2566

87 views

'ชูวิทย์' วิเคราะห์การเมืองเรื่องจับเบอร์ ชี้ ภท.ได้หมายเลข 7 หมายความว่า ‘เจ๊ง’ รทสช. หมายเลข 22 ใช้อารมณ์ ตามใจตัวเอง – เพื่อไทย หมายเลข  29 มีเสน่ห์ ใช้สองเท้าก้าวเดิน 


หลังจากมีการจับหมายเลขผู้สมัครสอสอแบบบัญชีรายชื่อ และพบว่าในส่วนของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจับได้หมายเลขเจ็ด ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามความคิดเห็นของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งมา ติดตามการรับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) ว่า


หมายเลข 7 นั้น คือเลขที่หมายความว่าเจ๊ง ให้สังเกตกรณีร้านสะดวกซื้อเซเว่น ยังต้องใส่คำว่าอีเลฟเว่นด้านหลัง ทำไมถึงต้องใส่คำว่าอีเลฟเว่นทั้งๆ ที่คนเรียกแต่เซเว่น ซึ่งหมายเลข 7 นั้นเป็นหมายเลขที่แย่ที่สุดในกระบวนการของการนับหมายเลข จากนั้นคุณชูวิทย์ก็นับเลขเป็นภาษาจีนให้ผู้สื่อข่าวฟัง ซึ่งเลข 7 นั้นตรงกับคำว่า ชิก หรือแปลง่ายๆ ว่า “ชิบหาย”


ผมไม่อยากจะไปใส่ร้ายเขา แต่การจับเลขของทุกคนก็ส่งผลอย่างเช่นเวลาไปหาเสียง ถ้าเลข 7 ต้องชูสองนิ้ว หากได้เลขเดียว ชูเบอร์เดียวก็ง่ายกว่า ผมขออวยพรให้ทุกพรรคการมือง เชื่อว่าการเมืองครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลง


นักข่าวถามว่า ถ้าบอกว่าสวรรค์ชั้น 7 ได้มั้ย คุณชูวิทย์ถาม มันจะได้หรอ อยู่ที่ไหน มีแต่นรก 7 ชั้น

สำหรับพรรคภูมิใจไทย บางคนออกมาระบุว่า การที่คุณชูวิทย์ ออกมาเคลื่อนไหว สร้างสีสันให้พรรคภูมิใจไทยได้ผลดี คุณชูวิทย์บอกว่า ถ้าคิดแบบนี้ก็ดีแล้ว แต่หลังๆ อย่ามาร้อง อย่ามาขู่ผม แล้ว ส.ส. 400 เขตจะออกมาแจ้งความ รอดูคะแนนหลังเลือกตั้งดีกว่า


“จากนี้ผมจะไม่พูดแล้ว ผมไม่ไปทำอะไรที่อยู่นอกกฎหมาย และทำตามสิทธิ ที่ตนเองมีตาม รัฐธรรรมนูญ เป็นการต่อสู้ตามระบบประธิปไตย คุณอย่าเล่นสกปรก ผมก็ไม่เล่น”


และถ้าคุณอนุทินแน่จริง ต้องได้ สส.กทม 1 ที่นั่ง แต่เชื่อว่าไม่ได้ และถ้าเจอกับคุณอนุทิน ก็เจอได้

สำหรับคุณชูวิทย์ มองว่า คุณอนุทินเป็นแค่กลจักรหนึ่ง มีคนอยู่เบื้องหลัง คือคุณเนวิน ถ้าอยากเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องออกจากคุณหนู ต้องออกจากวงจรคุณเนวินให้ได้


สังเกตง่ายๆ คุณอนุทินเป็นหัวหน้าพรรค กลับไม่ได้ตำแหน่ง ก.คมนาคม แต่ได้ ก.สาธารณสุข เพราะพรรค ภูมิใจไทย ต้องเกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม เพราะเรื่องเขากระโดง


ซึ่งกรณีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่พักงาน จากกรณี เรื่องร้องเรียนซุกหุ้น จากเดิมขอเวลา 15 วันยื่นหลักฐาน แต่ตอนนี้ไปขอขยายเป็น 30 วัน รวม 45 วัน คุณชูวิทย์มั่นใจว่า เมื่อครบตามกำหนดแล้ว ก็จะเลื่อนอีก เพราะจะให้เกินวันที่ 14 พ.ค. ไปก่อน


และขอฝากว่า “คนอย่างผมชัดเจน ทำอะไรก็ชัดเจน แต่คุณเป็นนักการเมือง ทำอะไร ดูถูกประชาชน”


นายศักดิ์สยาม บอกผมไม่ได้ล้างหน้า สติไม่สมประกอบ จึงอยากถามนายศักดิ์สยามว่า ถ้าคนอย่างชูวิทย์ สติไม่สมประกอบ ถามว่า พวกคุณสมประกอบมากใช่มั้ย


1. สมประกอบแรก คือการนำกัญชาออกมาทั้งที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุม


2. สมประกอบมั้ยที่ซื้อตัวส.ส มากที่สุด


 3. สมประกอบกับการซุกหุ้น ใช้นอมินี


สิ่งต่างๆ จะปรากฎออกมาในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ผมจะออกมารณรงค์ ผมไม่ได้ทำลายพรรคภูมิใจไทย แต่ผมจะรณรงค์วิพากวิจารณ์ นโยบายกัญชาเสรี ดังนั้นเล่นกันแบบแฟร์ๆ อย่าเล่นใต้ดิน เล่นกันแบบวิถีประชาธิปไตย


ถ้ามองว่าผมเป็นสีสัน การเลือกตั้งในอดีตที่ผ่านมา ตอนที่ตนเองเลือกตั้งคะแนนยังได้มากกว่าพรรคภูมิใจไทย ขอเตือนกระสุนของพรรคภูมิใจไทยของอนุทิน มันจะด้าน เพราะผมเปิดยุทธศาสตร์ “กระแสล้อมกระสุน”


ผู้สื่อข่าวถามว่า คุณชูวิทย์ออกมารณรงค์ ต่อต้านนโยบายกัญชาพรรคภูมิใจไทย มีเพียง เจ้สุขสมรวยคนเดียวที่ฟ้อง อยากฝากอะไรถึง เจ้าตัวหรือไม่  


คุณชูวิทย์บอกว่า เขาไม่มีความหมายที่ตนจะฝาก เขาเป็นเด็กๆ ฟ้องมา ผมก็ฟ้องกลับ “อยากแอคอ๊าค แสดงบารมีนึกว่าตนเองเป็นเจ้าแม่”


ทิ้งท้ายคุณชูวิทย์ยังบอกว่า อำนาจเจริญ มีทั้งบ่อน ทั้งหวยใต้ดิน พนันออนไลน์ ชาวบ้านก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ช่วงนี้หาเสียง ใครสร้างอะไรไว้ก็รับผิดชอบเอง


ก่อนกลับ คุณชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า นิยายเรื่องสัมภเวสี ขณะนี้กำลังฟื้นขึ้นมาโดยพวกคุณ แต่จะลงหลุมเพราะผม ที่จะเอาลงหม้อใส่อาคมและถ่วงน้ำ คนแก้ตัว แก้ไปแก้มา และยืนยันว่า เรื่องที่ผมพูดคือเรื่องจริง ให้นักข่าวไปดูเอง ใครที่ผมพูดถึง แล้ววออกมาโต้มาตอบ แล้ว “รอง ห.” อยู่ไหน อยู่ไซเบอร์ “รอง ห.” เป็นใคร


จากนี้จะเดินหน้า รณรงค์การเมืองสีเทา และกัญชาเสรี การเมืองสีเทา พวกซื้อตัว ส.ส. เหมือนโสเภณี เขาขายตัวหาเลี้ยงครอบครัว ต้องชื่นชม แต่คนขายวิญญาณ ขายชาติ ต้องวิจารณ์ ดังนั้นจากนี้ จะไปจังหวัดไหน จะส่งโปรแกรมให้สื่อเป็นท่อนๆ และกำลังเช็คข้อมูลว่าจะไปพื้นที่ไหนเพื่อประเดิม

------------------------------

ขณะที่ เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วานนี้ (4 เม.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า “การเมืองเรื่องจับเบอร์


การเลือกตั้งครั้งนี้มีถึง 49 พรรค เข้าร่วมประลองยุทธ์ให้ประชาชนเลือก ไฮไลท์อยู่ที่การจับหมายเลขของแต่ละพรรค คนไทยชอบเรื่องเบอร์ จึงขอตีความตามหมายเลขให้อ่านสนุกๆ เฉพาะพรรคใหญ่ที่น่าจะได้ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์มาก เพราะบางพรรคโอกาสมี ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์คงน้อย เนื่องจากมีบัตร 2 ใบ เลือก ส.ส.เขต ที่ตัวเองถูกใจ เลือก พรรค ที่ตัวเองชอบ


เริ่มตั้งแต่


 - พรรคภูมิใจไทย ได้หมายเลข 7 อันนี้ตีความได้ชัดว่า “เจ๊ง” เพราะเป็นเลข “เจ็ด” หรือจะออกเสียงเพี้ยนว่า “เจ็บ” อันหมายถึงการเจ็บตัวในการเลือกตั้งครั้งนี้


การชูมือต้องชูมือข้างหนึ่ง 5 นิ้ว อีกมือชู 2 นิ้ว จึงดูไม่เต็มไม้เต็มมือ หากเป็นทางดาราศาสตร์ถือเป็น “ดาวแห่งทุกข์โศก” ยิ่งเอาไปตีความว่า “ทำงาน 7 วันไม่หยุด” แสดงถึงความยากลำบากของหนทางข้างหน้า


- พรรคชาติไทยพัฒนา ได้หมายเลข 18 ถือว่าเป็นเลขดีของคนจีน เพราะในภาษากวางตุ้ง หมายถึงหาเงินง่าย (ออกเสียงว่า “สับปาด”) นอกจากนั้น 1 + 8 = 9 เป็นเลขมงคล


 - พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้หมายเลข 22 เป็นเลขคู่เหมือน ชู 2 ข้าง 2 นิ้ว ถือว่าเท่าทุน ไม่ได้ไม่เสีย เป็นศูนย์รวมของอารมณ์ ทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกคน


หากให้ฝรั่งชู 2 นิ้วด้วยมือ 2 ข้าง ทำนิ้วงอๆ หมายถึงเครื่องหมาย “-“ หรืออัญประกาศ แปลว่า “คำพูด” คือ พูดเก่งแต่อยู่ในวงจำกัด

- พรรคประชาธิปัตย์ ได้หมายเลข 26 เป็นเลขอมทุกข์ มีภัยไข้เจ็บมาจากโรคเก่าเรื้อรัง แม้มีความมุ่งมั่น แต่จะพบความกดดันอย่างรุนแรง และอาจมีโรคแทรกซ้อนอีกด้วย


- พรรคเพื่อไทย ได้หมายเลข 29 มีความหมายเป็นเลขใฝ่รู้ มีเสน่ห์ หากเรียกเรียงตัว คือ “สองเก้า” คือต้องใช้สองเท้าก้าวเดินต่อไป


- พรรคก้าวไกล ได้หมายเลข 31 เป็นพลังแห่งความไม่แน่นอนของชะตา เบื้องต้นลำบาก แต่ประสบความสำเร็จในบั้นปลาย ยังมีเรื่องอุบัติเหตุกลางคันที่ต้องระวัง


- พรรคพลังประชารัฐ ได้หมายเลข 37 เป็นเลขที่บวกกันได้ 10 หมายถึงพอดี แต่ถ้าไปเล่นไพ่บาคาร่าจะกลายเป็น 0 แต้ม ต้องลุ้นอีกใบ


 หมายถึง หากฝั่งตรงข้ามชนะขาด ก็ไม่ต้องพึ่ง คือ หมอบ แต่หากชนะไม่ขาดก็ยังลุ้นได้ สถานการณ์เรียกว่าก้ำกึ่ง


ข้อดีของคนที่จับได้เลข 2 หลัก คือ ไม่ซ้ำกับเลขผู้สมัคร ส.ส. เขตแน่นอน ที่จะไปซ้ำก็เป็นพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น ที่จับหมายเลขปาร์ตี้ลิสได้เบอร์เดี่ยวอยู่พรรคเดียวที่เป็นพรรคใหญ่ และจะจำลำบาก เวลาไปกาอาจเกิดความสับสน


ไม่ว่าพรรคจะได้เบอร์อะไร ก็ขอให้ทำงานเพื่อประชาชน อย่าไปหวังเข้าสภาแล้วทำตัวเป็น ส.ส. ขายตัวก็แล้วกัน จะจับประจานเสียให้เข็ด ประชาชนต้องช่วยกันจำ จดบันทึกไว้ อย่าได้เอามาเป็น “ผู้แทน”


พรรคไหนใช้กระสุนมากสุด ก็คือลงทุนมากสุด และการลงทุนคือ “ความเสี่ยง”


กลยุทธ์ของผมครั้งนี้ ปฏิบัติการณ์ “กระแสล้อมกระสุน” ใครที่มีกระสุนมากแต่ยิงแล้วด้าน ไม่ได้ผลตรงเป้า กระสุนจึงแพ้กระเส เพราะประชาชนจะใช้กระแสสั่งสอนให้เป็นบทเรียน กับพรรคการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์”

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/o35QwelL1ao

คุณอาจสนใจ

Related News