โจรแสบแอบเอาทองปลอม สลับทองจริง เจ้าของร้านรู้ทัน แจ้งตำรวจตามรวบ

วานนี้ (16 มี.ค.) ผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อ @ppete331 โพสต์คลิปวีดีโอ 2 คลิป ซึ่งเป็นภาพคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิดพร้อมกับข้อความว่า EP.1 โจรขโมยร้านทอง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นภาพขณะที่คนร้ายได้แสร้างทำเป็นลูกค้ารายหนึ่ง ได้ทำทีเข้ามาขายทองเก่า เพื่อซื้อทองใหม่กับทางร้านโกดังทอง ภายในพื้นที่ ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา

โดยในภาพคนร้ายได้มีการให้เจ้าของร้าน ไปหยิบทองที่ตนเองต้องการ ในระหว่างนั้นก็ได้ล้วงมือไปยังกระเป๋าหลัง ก่อนที่จะนำทองปลอมที่เตรียมมาโยนลงที่พื้น ก่อนที่คนร้ายจะให้เจ้าของร้านไปหยิบทองที่ตู้โชว์ด้านหลังมาอีก 1 เส้น ทางคนร้ายจะหยิบทองขนาด 1 บาท ขึ้นมาทำทีท่าดูทองเส้นดังกล่าว แล้วแกล้งทำทองตก ก่อนก้มลงไปเก็บพร้อมกับเปลี่ยนกับทองปลอมที่โยนเอาไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมา แล้วก็ทำท่าลองสวมใส่

ส่วนคลิปที่ 2 คือเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน หลังจากที่ทางคนร้ายได้ทำท่าลองสวมใส่ทองที่คอ ก่อนจะวางลงคืน ซึ่งทองเส้นดังกล่าวเป็นทองปลอม ที่คนร้ายได้ทำการสับเปลี่ยนแล้วเรียบร้อย ส่วนทองจริงนั้นอยู่ที่เท้าของคนร้าย หลังจากนั้นคนร้ายก็ถอดหน้ากากอนามัยที่ใส่มา แล้วแกล้งทำตกตรงกับบริเวณที่มีทองจริงวางอยู่ ก่อนที่จะใช้หน้ากากอนามัยห่อทองเส้นจริงขึ้นมาแล้วนำใส่กระเป๋าหลัง จากนั้นพยายามจะเดินออกจากร้าน แต่ทางเจ้าของร้านไหวตัวทันจึงได้กดล็อกประตูหน้าร้านเอาไว้

ผู้สื่อข่าวสอบถามนายพลากร จินตบัณฑิตวงศ์ เจ้าของห้างทองโกดังทอง (เฮียเตี้ย) ที่อำเภอบัวใหญ่ นครราชสีมา เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ชายวัย 22 ปี ได้เข้ามาทำทีขอลองสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ลายเบนซ์ ก่อนจะทำทีตามภาพกล้องวงจรปิด ตอนแรกไม่ทันเอะใจ กระทั่งตอนที่คนร้ายสลับทองจริง และเอาทองปลอมมาคืน คนที่จับทองเป็นประจำ จะรู้ดีว่าน้ำหนักทองจะไม่เท่ากันทั้งเส้น ซึ่งทองแท้ น้ำหนัก 1 บาท จะมีน้ำหนัก 15.2 กรัม แต่ถ้าทองปลอมที่คนร้ายเอามาเปลี่ยน น้ำหนัก 15.6 กรัม เลยทำรู้ว่าถูกสลับ

จากนั้นก็เจรจา โดยมีตำรวจ สภ.บัวใหญ่มาร่วมเจรจา ตนเห็นว่าผู้ก่อเหตุยังอายุไม่มาก อ้างว่า ต้องหาเงินไปรักษาตาที่ป่วยที่โรงพยาบาลมหาราช ตนจึงให้ผู้ก่อเหตุชำระค่าเสียหายของทองที่มีรอยบุบจากการถูกขยำ ในราคา 3,000 บาท ผ่อน 2 เดือน เจ้าตัวก็ตกลง แต่พอระหว่างเอาตัวไปที่ สภ. ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์หนีการจับกุม ทำให้ตนตัดสินใจดำเนินคดีถึงที่สุดคือ ข้อหาลักทรัพย์ และหนีการจับกุม

ซึ่งต่อมาตำรวจสามารถสืบทราบ และเข้าจับกุมคนร้ายได้ที่บ้านพัก ทราบชื่อคนร้าย คือ นายอภิญโญ หาญดี อายุ 22 ปี โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าววิ่งราวทรัพย์แก่นายอภิญโญ และส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/MhcHox-rBtE