สังคม

สยองหน้าห้าง! หนุ่มเมียนมาคว้ามีดรัวแทงเพื่อนร่วมชาติดับ เผยแค้นถูกฟ้องอู้งาน

โดย panwilai_c

9 มี.ค. 2566

78 views

ลูกจ้างขายผลไม้ชาวเมียนมาแค้น เพื่อนสาวร่วมชาติชอบฟ้องนายจ้างว่า "อู้งาน" คว้ามีดเดินไปกระหน่ำแทงเสียชีวิตคาร้านขายน้ำปั่น หน้าห้างดังย่านประตูน้ำ



จุดเกิดเหตุเป็นร้านขายน้ำปั่น ตั้งอยู่หน้าห้างขายส่งเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ บริเวณหลังร้านพบร่าง นาง เพียว มา อ่อง หญิงสาวชาวเมียนวัย 34 ปี โดนแทงอาการสาหัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิตนานกว่าครึ่งชั่วโมงแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้



นาย มานพ ฤทธิเดช อาสาสมัครกู้ภัยร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ตอนมาถึงผู้บาดเจ็บยังไม่เสียชีวิต แต่กำลังจะหมดสติ จึงพยายามปั๊มหัวใจ และห้ามเลือด แต่บาดแผลถูกแทงใต้ราวนมเป็นแผลใหญ่ ทำให้เสียเลือดมาก สุดท้ายไม่สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายโดนแทง 5 แผล คือ บริเวณใต้ราวนมข้างขวาซึ่งเป็นแผลใหญ่ฉกรรจ์ บริเวณลิ้นปี่เป็นแผลลึก เหนือเอวข้างขวาเป็นแผลถลอก แขนขวาโดนแทงทะลุ และถูกแทงเข้าสะโพกซ้ายด้านหลังด้วย



ขณะที่ผู้ก่อเหตุ พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างจับตัวเอาไว้ได้ เป็นชายชาวเมียนมา ชื่อ นาย ตัต ลิน อู ตั้งร้านขายผลไม้อยู่ห่างจากร้านผู้ตายไปราว 100 เมตร และมีนายจ้างคนเดียวกันกับผู้ตาย ขณะถูกคุมตัวไปที่ สน.พญาไท เจ้าตัวพูดกับสื่อแค่สั้นๆว่า "ขอโทษ" เพราะพูดไทยไม่ได้



ขณะที่แฟนสาว บอกว่า แฟนหนุ่มเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ 4-5 เดือน แต่ผู้ตายทำงานที่นี่มา 10 กว่าปีแล้ว สาเหตุที่ลงมือเพราะมีปัญหากับผู้ตาย ซึ่งเป็นลูกจ้างชาวเมียนมาด้วยกัน เท่าที่แฟนหนุ่มเล่า คือ นายจ้างลำเอียงรักลูกน้องไม่เท่ากัน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอก็โทรหานายจ้างเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่นายจ้างก็บอกว่า "ช่วยอะไรไม่ได้ "



พันตำรวจเอก กฤษฎาพร จงอักษร ผู้กำกับการ สน.พญาไท เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่า ไม่พอใจที่ผู้ตายเป็นเพื่อนร่วมชาติที่มาทำงานเหมือนกัน แต่ชอบไปฟ้องนายจ้างว่า ผู้ก่อเหตุที่ดูแลแผงผลไม้ไม่ขยันทำงาน ชอบเล่นโทรศัพท์ ทำให้โมโห จึงบันดาลโทสะใช้มีดพับ ยาว 3 นิ้ว จ้วงแทงไปถึง 5 แผล ก่อนจะวิ่งหลบหนี แต่ก็ไม่รอด



เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนาและพกพาอาวุธเข้าที่สาธารณะ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และจะส่งฝากขังภายในวันเสาร์นี้ ส่วนศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/DGCX04n9u4Q

คุณอาจสนใจ

Related News