สังคม

ง้อไม่สำเร็จ ชายชักมีดแทงแฟนเก่า 15 แผลดับ พร้อมขู่ฆ่ายกครัว

โดย nut_p

3 มี.ค. 2566

335 views

วันที่ 3 มี.ค. 66 เวลา 10.30 น. พ.ต.ท.วุฒิ คงชื่น รอง ผกก.สืบสวน สภ.ท่าตะโก ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดทำร้ายสาวลูกจ้างร้านรับทำพวงหรีด 'ต่อดอกไม้' เสียชีวิต บริเวณริมถนนเส้นทางสายท่าตะโก-นครสวรรค์ เขตเทศบาลท่าตะโก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ จึงนำกำลังทีมชุดสืบสวนในสังกัดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับแพทย์เวรโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่กู้ภัยท่าตะโก



ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต เป็นหญิงสาวนอนจมกองเลือดกองใหญ่อยู่ที่บริเวณหน้าร้าน สภาพร่างกายมีร่องรอยบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่ร่างกายหลายแห่ง ทั้งบริเวณคอ แขน และหน้าท้อง รวมกัน 15 แผล ทราบชื่อผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมา คือ น.ส.สำอางค์ แป้นจั่น อายุ 37 ปี ทางแพทย์เวรจึงได้ร่วมกับกู้ภัยชันสูตรตรวจสอบศพ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ ทำให้ทราบตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นแฟนเก่าของผู้ตาย คือ นายจรัส อ่อนนวล อายุ 60 ปี โดยหลังจากที่คนร้ายก่อเหตุ ได้เดินออกจากร้านหลบหนีไป มีหลักฐานเพิ่มเติมเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในช่วงก่อเหตุ



น.ส.อัจฉราพร พูลทอง อายุ 34 ปี เพื่อนสนิทผู้ตาย เล่าถึงเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้ตายเคยคบหาอยู่กินกับนายจรัส ผู้ก่อเหตุมาได้สักช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะเลิกรากันมาได้ประมาณ 1 ปี และผู้ตายก็ได้มีแฟนคนใหม่แล้ว ส่วนนายจรัส ยังคงมูฟออนกันรักครั้งนี้ไม่ได้ จึงเที่ยวมาหา และพยายามมาง้อขอคืนดีอยู่เรื่อย ๆ โดยก่อนที่จะมาเกิดเหตุการณ์สลด นายจรัสได้ว่าจ้างวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้มาส่งร้านทำพวงหรีด ที่ผู้ตายทำงานอยู่ถึง 3 รอบ ก่อนที่นายจรัสจะตัดสินใจใช้มีดที่พกมาปรี่เข้ากระซวก น.ส.สำอางค์ อย่างโหดร้ายต่อหน้าคนอื่นๆ ที่ทำงานอยู่ในร้าน



"รอบที่ 3 ที่นายจรัสมันมาหาพี่สำอางค์ คนทั้งร้านรวมถึงนายจ้างเห็นคาตาเลย ว่ามันพกปืนมาด้วย และพยายามจะชักออกมายิงพี่สำอางค์ แต่จังหวะนั้น พี่สำอางแย่งปืนจากมันได้ แล้วก็รีบส่งมาให้หนู เอาไปให้เจ้าของร้านรีบเก็บเข้าไปในร้าน เพื่อป้องกันตัว แต่ก็ยังไม่วาย เพราะนายจรัสมันดันมีไม้สอง เพราะมันรีบเดินไปหยิบมีดที่มันซ่อนอยู่ในกระเป๋าย่าม แล้วรีบนำมาไล่แทงพี่สำอางค์ทันที ซึ่งตอนนั้นหนูเห็นอีกที พี่สำอางก็โดนแทงเลือดสาดท่วมตัวไปหมดแล้ว" น.ส.อัจฉราพร กล่าว



เมื่อถามถึงชนวนเหตุที่ทำให้นายจรัสและนางสำอาง รักล่มมาก่อนหน้านี้ น.ส.อัจฉราพร ระบุว่า เป็นเพราะนายจรัสมักจะทำร้ายร่างกาย น.ส.สำอางค์ อยู่เสมอ จนเขาทนไม่ได้จึงขอเลิกและแยกทางกันไป ซึ่งก็ผ่านเวลามานานแล้ว แต่นายจรัสก็พยายามมาง้อขอคืนดี แต่ น.ส.สำอางค์ ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่ายังไงก็ไม่ยอมกลับไป เพราะกลัวว่าจะโดนทำร้ายร่างกายซ้ำ ๆ แบบเดิมอีก แล้วอีกอย่าง น.ส.สำอางค์ ก็มีคนรักใหม่ไปแล้ว



ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการเก็บรวมรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำอาวุธปืนลูกซองของนายจรัสที่ถูกแย่งได้นำมาตรวจสอบยังโรงพัก ส่วนตำรวจฝ่ายสืบสวนกำลังกระจายกำลังกันตามไล่ล่าตัวนายจรัสอย่างเร่งด่วนด้วยเช่นกัน



อย่างไรก็ตาม นางมณี แป้นจันทร์ อายุ 68 ปี มารดาของ น.ส.สำอางค์ ได้เดินทางมายังโรงพัก พร้อมกับเปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบจับตัวนายจรัสมาดำเนินคดีให้ไว้ที่สุด เพราะหากยังลอยนวลต่อไป เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายจรัสเคยข่มขู่เอาไว้ว่าจะฆ่ายกครัว จึงหวาดระแวงว่า จะวนเข้ามาก่อเหตุร้ายอีก



เมื่อถามถึง น.ส.สำอางค์ บุตรสาวที่เสียชีวิต นางมณี ระบุว่า เดิมที น.ส.สำอางค์ มีลูกติดเป็นเด็กหญิง 2 คน วัย 17 ปี และวัย 12 ปี เมื่อเลิกรากันสามีคนแรก ก็มาคบหาอยู่กินกับนายจรัสได้ไม่นาน ก็มามีปัญหาทะเลาะกันอยู่เรื่อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่นายจรัสมักจะชอบดื่มเหล้าเมื่อเมาหนักได้ที่ ก็จะสวมวิญญาณป่าเถื่อนโหดร้าย



ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ลูกสาวต้องตัดขาดเลิกรา ก็ทำร้ายหนักถึงขั้นเลือดออก แต่ยังมีหน้าจะมาขอคืนดีกับลูกสาวฉันอีก จึงไม่ยอมให้ลูกสาวกลับไปคืนดีอีกเด็ดขาด แต่ก็ยังตามมาถึงบ้าน แถมยังมาขู่ฆ่ายกครัวอีกด้วย ซึ่งตอนนี้กลัวมาก จึงขอให้ตำรวจรีบจับตัวให้ได้โดยด่วน

คุณอาจสนใจ

Related News