นักเรียนกีฬา ม.1 และ ม.3 โร่แจ้งความ ถูกรุ่นพี่ ม.6 ทำร้ายนานเป็นเดือน ขู่ซ้ำฟ้องครูจะเอาให้หนักกว่าเดิม

วันที่ 22 ก.พ. 66 ร.ต.อ.สมเจต นุชนารถ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งความเนื่องจากมีผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนกีฬาแห่งหนึ่ง ใน จ.สุพรรณบุรี ได้พาลูกชาย อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ซึ่งถูกรุ่นพี่ ชั้น ม.6 โรงเรียนเดียวกัน ชกต่อยทำร้ายร่างกาย จนตาบวมปูด เขียวช้ำ และปากเจ่อ มาแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อไม่อยากให้รุ่นพี่ไปทำร้ายใครอีก

ส่วนอีกคน นางสาวสุพรรณี ผู้ปกครองเด็กชายนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนเดียวกัน และเคยถูกรุ่นพี่คนเดียวกัน เตะ ต่อย ทำร้ายนานเป็นเดือน แต่ถูกรุ่นพี่ข่มขู่ ไม่ให้ฟ้องครู จึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 คน ได้พาลูกไปตรวจร่างกายที่ รพ.เจ้าพระยายมราช พร้อมนำใบรับรองแพทย์มามอบให้ตำรวจ

พ่อเด็กกล่าวว่า วันนี้พาลูกมาแจ้งความ เพราะน้องถูกทำร้ายร่างกาย น้องบอกว่ารุ่นพี่ที่โรงเรียนมาทำร้าย เหมือนมาชวนเรียกให้ออกไปชกต่อย ตัวน้องก็ไม่อยากออกไปแต่รุ่นพี่มาดึงแขนไป ลูกชายถูกทำร้ายเยอะอยู่เหมือนกัน มีบาดแผลชัดเจนที่ตาด้านซ้าย ไม่เคยคิดว่าลูกจะมาโดนแบบนี้เพราะเป็นโรงเรียนที่อยู่ในสายกีฬา แต่พอทราบมาว่าแม่ของน้องอีกคนที่โดนเหมือนกันจะไม่ยอม เพราะว่าน้องโดนมาทุกวันจนทนไม่ไหวจะขอลาออก รู้สึกเสียใจไม่คิดว่าจะเกิดแบบนี้กับลูกตน

นักเรียนชั้น ม.3 กล่าวว่า เมื่อวานตอนนอนอยู่ มีรุ่นพี่เดินลงมาจะอาบน้ำ ก่อนอาบน้ำเขาได้เดินเข้ามาในห้องของนักเรียน ม.3 แล้วเขามาเรียกตนลุกขึ้นให้ไปชกกับเขา ตนก็บอกไม่อยากเล่น แต่เขาก็จะให้ไปเล่นด้วย เขาบอกว่าเล่นเบา ๆ เอา 50% พอตนเล่นกับเขา เขาก็ใส่เต็มที่เลย โดนหมัดสุดท้ายไม่ไหวเข้าที่ตา หน้าชาไปหมด ากนั้นก็ได้แจ้งทางโรงเรียน พอตอนเช้าโค้ชทราบเรื่อง ก็พาไปพบ ผอ.แล้วก็เรียกเขามาคุย วันนี้พอผู้ปกครองทราบเรื่องก็เลยพามาลงบันทึกประจำวันแจ้งความไว้

ด้านนักเรียนชั้น ม.1 กล่าวว่า ตนโดนทุกวันตั้งแต่เดือนที่แล้ว เขาผลักติดกำแพงแล้วชกต่อย พยายามขอร้องเขาแล้วแต่เขาก็ไม่ปล่อย โดนขู่ไว้ว่าถ้าฟ้องครูจะเอาให้หนักกว่านี้ ตอนนี้มาแจ้งความซึ่งตำรวจดำเนินการรับแจ้งให้แล้ว

ทางด้าน พ.ต.อ.ชัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมือง กล่าวว่า เบื้องต้นทราบเรื่องแล้ว ซึ่งวันนี้ผู้ปกครองเด็กได้พาเด็กพร้อมใบรับรองแพทย์เข้ามาแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน เพื่อไว้ประสานงานกับทางโรงเรียนในส่วนที่รับผิดชอบ และในส่วนของทางตำรวจก็ได้รับเรื่องไว้และสอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพื่อไว้ดำเนินการในทางกฎหมายต่อไป