เลือกตั้งและการเมือง

‘สมชัย’ ร้องกกต. เอาผิด ‘บิ๊กป้อม’ ใช้ตำแหน่งหาเสียงเอื้อ พปชร.

โดย attayuth_b

9 ก.พ. 2566

28 views

วันนี้( 9 ก.พ.)นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และอดีตกกต. ยื่นหนังสือต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบการใช้ตำแหน่งหน้าที่ และทรัพยากรของรัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการหาเสียงเลือกตั้ง เข้าข่ายกระทำผิดต่อพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. มาตรา 78 มีโทษจำคุก 1 - 10ปี ปรับ 20,000 - 200,000 และศาลสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 20 ปี ตามมาตรา 149 จากกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ และติดตามการดำเนินโครงการด้านทรัพยากรน้ำที่จ. นครปฐม และราชบุรี เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2566 ช่วงเวลา 14.00น. โดยนายสมชัย กล่าวว่า การเดินทางตรวจราชการดังกล่าวของพล.อ.ประวิตร ซึ่งไม่ใช่การลาราชการ แต่เป็นการปฏิบัติราชการแน่นอน เพราะเวลาดังกล่าวอยู่ในกำหนดการของการตรวจราชการ มีป้ายรับรองต่างๆ เขียนชัดเจนว่าเป็นการตรวจราชการ แต่กลับมีผู้สมัครส.ส.ของพรรคพปชร.ร่วมคณะไปด้วย มีการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเกณฑ์ประชาชนมารับฟังการปราศรัย มีเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้าราชการในพื้นที่ มาร่วมรับคณะผู้ตรวจราชการ ตลอดจนมีการใช้ทรัพยากร เช่น รถยนต์ น้ำมัน ของคณะผู้ตรวจราชการ โดยพล.อ.ประวิตร ได้มีการเรียกผู้สมัครของพรรคมาแนะนำตัวกับประชาชน พร้อมกับขอให้ประชาชนเลือกผู้สมัครของพรรคพปชร.ในการเลือกตั้งส.ส.ที่จะมีขึ้น

"การกระทำดังกล่าวของพล.อ.ประวิตร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 78 และผิดแนวทางในการหาเสียงของกกต. ที่ให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางทางการเมือง โดยกกต.มีอำนาจในการสั่งให้ยุติการกระทำ และควรดำเนินการเร่งด่วน สั่ง หรือเตือน ว่าการตรวจราชการในอนาคตต้องไม่มีการกระทำในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก เพราะจะเห็นได้ว่าพล.อ.ประวิตร และรัฐมนตรี มีกำหนดการตรวจราชการค่อนข้างถี่ในช่วงนี้ รวมทั้งต้องแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชาเพื่อให้ตักเตือน และสั่งสอบวินัยของพล.อ.ประวิตร เพราะฟากยังคงให้พล.อ.ประวิตรปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีต่อไป จะเป็นปัญหาอุปสรรคทำให้การเลือกตั้งไม่มีความเป็นกลาง ก็สามารถสั่งให้พล.อ.ประวิตร ยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ"

นายสมชัย กล่าวด้วยว่าอยากเห็นกกต.ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะมิฉะนั้นจะเกิดการปฏิบัติในลักษณะนี้ ต่อเนื่องต่อไป กว่ากกต.จะตัดสินใช้เวลาหลายเดือน คนที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการจะใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ ในการหาเสียงของตนเองและพรรคพวกได้ ซึ่งไม่ถูกต้อง กกต.จึงต้องบอกว่าเรื่องนี้ทำไม่ได้ ต้องยุติ แต่กระบวนการสอบสวนเพื่อลงโทษทางอาญานั้นสามารถใช้ระยะเวลาได้ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าในฐานะของคนที่ดำรงตำแหน่งทางราชการ ทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ย่อมได้เปรียบอยู่แล้วในการใช้งบประมาณของรัฐ ในการจะนำโครงการของรัฐลงไปในพื้นที่ แต่อย่างน้อยที่สุดต้องไม่สร้างความได้เปรียบจนมากเกินไป ถึงขนาดเกณฑ์คนมาฟังการปราศรัยของผู้สมัคร ในกรณีของพรรคอื่นยังไม่ชัดเจนเท่าพรรคนี้

ทั้งนี้นายสมชัย ยังกล่าวว่าชม พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าพยายามที่จะอยู่ในกรอบตามที่กกต.กำหนด มีการระมัดระวังตัวมากที่สุด แต่ส่วนของพรรคที่ได้ไปดำเนินกิจการต่างๆ ต้องพึงระมัดระวังอย่างการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เกิดขึ้นนายกรัฐมนตรีไม่เกี่ยวเลย นายกรัฐมนตรีไปเพียงสมัครเป็นสมาชิก และเปิดตัวบนเวที แต่การกระทำของพรรคที่หมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย และได้ร้องต่อกกต.ไปแล้ว

โดยในสัปดาห์หน้าตนก็จะมาการร้องรองนายกรัฐมนตรีอีกคนหนึ่ง ที่มีการใช้ตำแหน่งหน้าที่ และทรัพยากรของรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการหาเสียงเช่นเดียวกัน โดยมีการติดป้ายตามสถานที่ราชการ โดยให้ส่วนราชการเป็นคนสั่งการ ซึ่งเอกสารหลักฐานมีจำนวนมากถึง 50 หน้า ก็จะมาติดตามเรื่องที่ได้ร้องต่อกกต.ไปก่อนหน้านี้ เพราะไม่มีเรื่องใดคืบหน้าหน้าเลย ให้ชื่อพยานไปก็ยังไม่มีการไปสอบซึ่งถือว่ากกต.ไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลาง ซึ่งก็จะมีการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินกับกกต.

คุณอาจสนใจ

Related News