ปธน.ตุรกี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่แผ่นดินไหว ระยะเวลา 3 เดือน หลังยอดผู้เสียชีวิต พุ่งกว่า 5 พันคน

วันที่สองของเหตุแผ่นดินไหวที่ตุรกี จนส่งผลเสียหายครั้งใหญ่ และเกิดในวงกว้างไปยังประเทศใกล้เคียงด้วย


ล่าสุด ประธานาธิบดีของตุรกี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวเป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังยอดผู้เสียชีวิต ทั้งในตุรกีและซีเรียพุ่งกว่า 5,000 คน ขณะที่ เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และค้นหาผู้เสียชีวิตใต้ซากปรักหักพัง ท่ามกลางกำลังใจและความช่วยเหลือจากนานาชาติที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย


นานาชาติเร่งระดมความช่วยเหลือไปให้ตุรกีกับซีเรีย ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7.8 และ 7.5 แมกนิจูดเมื่อวานนี้ มีรายงานว่าขณะนี้ ประเทศต่าง ๆ ได้จัดส่งความช่วยเหลือแล้ว อย่างน้อย 65 ประเทศ ทั้ง สหภาพยุโรป, สหรัฐอเมริกา, จีน, อังกฤษ, รัสเซีย, อินเดีย, เยอรมนี, และอีกมากมาย


ขณะเดียวกัน สำนักงานการจัดการภัยพิบัติ และสถานการณ์ฉุกเฉินของตุรกี ระบุว่า ตอนนี้ ระดมเจ้าหน้าที่ เข้าไปค้นและกู้ภัยในพื้นที่แผ่นดินไหว แล้วกว่า 24,400 คน


อย่างไรก็ดี ปฏิบัติการกู้ภัยของเจ้าหน้าที่ทั้งในตุรกีและซีเรีย เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย เนื่องจากมีอากาศหนาวเย็นและหิมะตก รวมถึงฝนตกหนักในบางพื้นที่ ในขณะที่แรงสั่นสะเทือนตามมา หรือ อาฟเตอร์ช็อก ก็เกิดขึ้นต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องค้นหาผู้รอดชีวิต จากอาคารหลายพันหลังที่พังถล่ม ในขณะที่ประชาชนที่ไม่มีอุปกรณ์ หรือ เครื่องมือใดๆ ใช้มือเปล่าขุดค้นหาสมาชิกในครอบครัวที่สูญหาย ผู้ประสบภัยจำนวนมาก ต้องออกมาใช้ชีวิตบนท้องถนน ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น


ตอนนี้ ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว ทั้งในตุรกี และซีเรีย อยู่ที่ 5 พัน 21 คน ในจำนวนนี้ อยู่ในตุรกี 3 พัน 419 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 2 หมื่นคน รวมถึง มีอาคารบ้านเรือนถล่มกว่า 6 พันแห่ง


ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป เอร์โดอาน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ทั้งหมด 10 จังหวัด ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อให้การดำเนินการกู้ภัยและฟื้นฟูสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว


ส่วนที่ซีเรีย มีผู้เสียชีวิต 1 พัน 602 คน และ บาดเจ็บมากกว่า 3,600 คน อาคารบ้านเรือนในซีเรีย พังราบหลายพันแห่ง เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะที่เมืองอะเลปโป (Aleppo) เมืองที่เกิดสงครามกลางเมืองมากว่า 10 ปี ซึ่งสภาพบ้านเรือน และโครงสร้างสาธารณูปโภค ส่วนใหญ่ทรุดโทรมอยู่แล้ว


องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า จำนวนผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มที่จะสูงกว่า 2 หมื่นคน และอาจมีประชาชนได้รับผลกระทบ อย่างน้อย 23 ล้านคน ทั้งในตุรกีและซีเรีย


มีรายงานว่า ช่วงชุลมุนจากเหตุแผ่นดินไหว มีนักโทษอย่างน้อย 20 คนในเมืองราโจ (Rajo) ของซีเรีย ใกล้กับพรมแดนของตุรกี หลบหนีออกจากเรือนจำด้วย ซึ่งเรือนจำแห่งนี้ ส่วนใหญ่ใช้คุมขังสมาชิก ของกลุ่มไอเอส


สื่อต่างประเทศรายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง ในรอบกว่า 100 ปี ส่วนสาเหตุที่ตุรกีได้รับความเสียหายอย่างหนักเป็นเพราะเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวเป็นช่วงประมาณตี 4 ผู้คนยังนอนหลับไหล วิ่งหนีออกจากอาคารไม่ทัน ที่สำคัญตุรกีตั้งอยู่ในแนวเลื่อนของเปลือกโลก ที่มีชื่อ "อนาโตเลียตะวันออก" และบริเวณนี้ไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวที่มีขนาดเกิน 7.0 แมกนิจูดมาประมาณ 20 ปีแล้ว ทำให้มีการสะสมพลังงานที่มีพลานุภาพสูงเอาไว้เป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดแผ่นดินไหว จึงทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก ที่สำคัญโครงสร้างอาคารบ้านเรือนในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้แข็งแรงด้วย


สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการาประเทศตุรกี รายงานว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เบื้องต้นติดต่อคนไทยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้แล้ว 20 ราย ส่วนใหญ่ปลอดภัย แต่ได้รับความเสียหายต่อทรัพย์สิน และบางส่วนต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ ที่ทางการตุรกีจัดหาให้