เปิดหลักฐานสำคัญหน่วยงานต้นเรื่องเข้าตรวจค้นบ้านอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู เรียกรับสินบนเทาจีน

คดีที่ตำรวจ 191 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และทหาร เข้าตรวจค้นจับกุมกลุ่มจีนเทากลุ่มใหม่ ในบ้านพักอดีตกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย ย่านทุ่งมหาเมฆ ก่อนจะยักยอกเงินของกลางเกือบสิบล้านบาท และเรียกรับสินบนเพิ่มอีก เพื่อแลกกับการปล่อยกลุ่มจีนสีเทา ขบวนการปลอมวีซ่าไป 11 คน แล้วดำเนินคดีกับแม่บ้านชาวจีนเพียงคนเดียว



คดีนี้มีเจ้าหน้าที่ถูกดำเนินคดีรับสินบนไป 16 คน จนต่อมาเกิดข้อถกเถียงกันว่า หน่วยใดคือต้นเรื่องในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ อ้างว่า ตำรวจ 191 เป็นต้นเรื่อง แล้วมาขอให้ดีเอสไอ เป็นทีมสนับสนุน ขณะที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ระบุว่า หน่วยงานต้นเรื่องคือดีเอสไอ ซึ่งจะต้องสอบสวนว่า ใครลงนามสั่งการให้ออกมาปฏิบัติภารกิจนี้ เป็นที่มาที่เตรียมออกหมายเรียกอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมาให้ปากคำ



หลักฐานสำคัญที่ข่าว 3 มิติ ได้รับจากแหล่งข่าว เพื่อยืนยันว่า หน่วยใดเป็นเจ้าของเรื่อง และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับรู้ด้วยหรือไม่ มี 2 ชิ้นด้วยกัน



ชิ้นแรก เป็นหนังสือขออนุมัติออกปฏิบัติภารกิจเร่งด่วน แต่งตั้งชุดปฏิบัติการด้านการข่าว เพื่อตรวจสอบกลุ่มทุนต่างชาติ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 8 นาย หนังสือขออนุมัติฉบับนี้ ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2565 โดยมีอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้ลงนามอนุมัติในวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ก่อนที่อีกเพียง1 วันหลังจากลงนาม คือวันที่ 22 จึงเข้าตรวจค้นจับกุมกลุ่มจีนสีเทา นำมาซึ่งการเรียกรับสินบน



เอกสารชิ้นแรก แม้จะลงนามโดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ก่อนหน้านี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ชี้แจงว่า เป็นคำสั่งให้ทำงานด้านการข่าวตามวงรอบ ไม่ได้เจาะจงกรณี หรือ คดีใด



หลักฐานอีกชิ้นหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า ดีเอสไอ เป็นหน่วยงานต้นเรื่อง คือ ข้อความสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ไม่ใช่ข้อความที่เขียนโดย 1 ใน 8 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่ได้รับอนุมัติให้ปฏิบัติภารกิจ แต่มีรายงานว่า เป็นหน้าห้องของผู้บริหารระดับสูงของดีเอสไอ ที่ประสานทางไลน์ไปยังเพื่อน เพื่อให้ประสานไปที่ตำรวจ 191 ให้เข้าร่วมตรวจค้น โดยอ้างในข้อความว่า เรื่องนี้สถานกงสุลนาอูรูร้องขอให้ดีเอสไอ ช่วยตรวจสอบการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การทูตนาอูรู และใช้ทะเบียนรถสถานทูตปลอม สุดท้าย เรื่องร้องเรียน นำมาซึ่งการเรียกรับสินบน โดยเจ้าหน้าที่ที่สถานกงสุลนาอูรู ให้ความไว้วางใจร้องขอให้ช่วย



ทั้งหลักฐานเอกสาร 2 ชิ้นนี้ และอีกสารอีกหลายส่วน ทำให้วันนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้า เตรียมเรียกนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ว่า มีส่วนรับรู้กับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่



ทีมข่าวช่อง 3 ได้สอบถามไปที่นายไตรยฤทธิ์ เปิดเผยว่า พร้อมเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจหากมีการประสานเข้ามา และไม่รู้สึกหนักใจ เพราะมีหลักฐานที่สามารถตอบทุกข้อสงสัยของทางตำรวจได้ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยกับสื่อมวลชนในตอนนี้