อาชญากรรม

ตำรวจแถลงหลังค้นกองสลากพลัส ยังไม่แจ้งข้อหากองสลากพลัส

โดย kanyapak_w

16 ม.ค. 2566

226 views

ภายหลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนนครบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายค้นเข้าตรวจสอบภายในที่ทำการของบริษัท ลอตเตอร์รีออนไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของแพลตฟอร์ม กองสลากพลัส หลังได้รับการแจ้งความร้องทุกข์จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลว่ามีการจำหน่ายสลากเกินราคา และกว้านซื้อสลากฯ จากผู้ได้รับการจัดสรรโควต้าจำนวนมาก ซึ่งหลังเข้าตรวจค้นนานกว่า 2 ชั่วโมง ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการเข้าตรวจค้น



พลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การร้องทุกข์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เนื่องจากพบว่า กองสลากพลัส เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับสิทธิ์ให้จำหน่ายสลากฯ โดยเป็นการรับซื้อมาจากบุคคลอื่นเพื่อนำมาขายต่อที่เกินกว่าราคาที่กฎหมายกำหนด นอกจากนั้นจะตรวจสอบถึงเงินรายได้ประจำปี / การเสียภาษี / รวมทั้งเส้นทางการเงินที่ต้องสงสัยว่าได้รับโอนมาจากธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่ โดยมีตัวแทนของแต่ละหน่วยงานร่วมตรวจสอบ



ด้านพันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า นอกจากจะพบมีการจำหน่ายสลากเกินราคาแล้ว ทางแพลตฟอร์มยังไม่มีการคัดกรองให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีซื้อสลากฯ และยังมีการร้องเรียนว่าโฆษณาชวนเชื่อให้มาซื้อสลากฯ ซึ่งผิดกฎหมายเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี ปี 2551 ระบุว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลคือการพนันชนิดหนึ่ง ไม่สามารถโฆษณาชักชวนให้มาซื้อได้ เว้นแต่การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ซึ่งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่เคยโฆษณาชักชวนในลักษณะดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า กองสลากพลัส กับ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล คือคนละหน่วยงานกัน และไม่ได้ให้สิทธิ์กองสลากพลัสนำสลากฯ ไปจำหน่าย



ส่วนสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวการถูกรางวัลที่ 1 หรือเข้าข่ายโฆษณาชักชวนให้ซื้อสลากฯ นั้น ผู้อำนวยการสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า สื่อมวลชนแต่ละสำนักต้องระมัดระวังในกรณีดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็ได้ทำหนังสือตักเตือนสื่อบางสำนักไปบางแล้ว รวมถึงทำหนังสือถึง กสทช. และกรมประชาสัมพันธ์ให้ตรวจสอบ



สำหรับการแจ้งความดำเนินคดี ตอนนี้ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ร้องทุกแพลตฟอร์มที่ขายสลากทางออนไลน์ที่ขายเกินราคารวม 15 แพลตฟอร์ม ซึ่งทั้งหมดได้กว้านซื้อสลากจากผู้ที่ได้รับโควต้ากว่า 2 แสนราย ทั้งบุคคลและนิติบุคคลมาขายต่อ โดยเปิดเผยด้วยว่าซื้อมาในราคาที่สูงกว่า 80 บาท แต่นำมาขายในราคา 80 บาท ซึ่งในหลักธุรกิจแล้วไม่สามารถทำได้เพราะขาดทุน และทำให้ราคาในท้องตลาดต้องขายสูงกว่า 80 บาทไปด้วย



สำหรับการเข้าตรวจสอบสลากฯ ในงวดวันที่ 17 มกราคม ที่อยู่ในกองสลากพลัสว่ามีจริงตามที่โฆษณาขายหรือไม่นั้น พบว่ามีอยู่ประมาณ 11 ล้านใบ หลังจากนี้จะตรวจสอบผู้ที่ได้รับโควต้าและนำสลากฯ เหล่านี้มาขายต่อ และจะตัดสิทธิ์ทุกรายในงวดถัดๆ ไป เนื่องจากมีข้อกำหนดอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าห้ามขายช่วง หรือนำสลากฯ ไปขายส่งเด็ดขาด ซึ่งคาดว่าจะสามารถตัดสิทธิ์โควต้าได้ภายในงวดวันที่ 1 เมษายนนี้ เนื่องจากการจองสลากฯ ได้จองล่วงหน้าไปแล้ว



ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ ยังระบุถึงเงินรางวัลของสลากฯ ในแต่ละงวดด้วยว่า จะคิดเป็นสัดส่วนของการจำหน่ายสลากฯ โดยร้อยละ 60 จะเป็นเงินที่ได้มาจากการจำหน่ายสลากฯ ในแต่ละงวด ตัวอย่าง เช่น หากขายสลากฯ งวดละ 100 ล้านใบ จะมีรายได้ 8,000 ล้านบาท เงินที่จะจ่ายของการขึ้นรางวัลจะอยู่ที่ 4,800 ล้านบาท โดยจะยึดตามบัตรประชาชนของผู้ที่นำมาขึ้นเงินรางวัลซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่ไม่ต้องนำมาเสียภาษีประจำปี



แต่แพลตฟอร์มดังกล่าวได้โฆษณาเรื่องการจ่ายเงินรางวัลโดยที่ไม่หักภาษี และการซื้อขายสลากฯ ได้โอนเงินผ่านบัญชีนิติบุคคล แต่เมื่อไปขึ้นเงินรางวัล ได้ขึ้นเงินผ่านบัตรประชาชนของบุคคล ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบกับกรมสรรพากรอีกครั้งว่าเข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษีประจำปีหรือไม่



นอกจากนี้ ผู้ที่ถูกรางวัล ก็จะทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินที่ทางแพลตฟอร์มโอนให้ไปนั้น เป็นเงินมาจากที่ใด และถือว่าเป็นเงินได้ที่จะต้องนำมาคิดภาษีประจำปี ไม่ถือว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล ดังนั้น ผู้ที่ซื้อสลากฯ ไปแล้ว ยังสามารถได้เงินรางวัลอยู่ เพราะยังไม่ได้มีการยึดสลากฯ แต่ขอเตือนเรื่องการขึ้นเงินรางวัล ขอให้ผู้บริโภคตัดสินใจให้ดีก่อนเลือกซื้อสลากทางออนไลน์



ขณะที่ ตัวแทนของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. กล่าวว่า วันนี้ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ขายตรง ว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นก็ได้พยานหลักฐานไปพอสมควร นอกจากนั้นยังต้องตรวจสอบถึงการโฆษณาว่าจะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งพ.ร.บ.การพนัน ด้วยหรือไม่ ซึ่งก็จะเสนอให้ตำรวจพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป



ขณะที่ สำนักงาน ป.ป.ง. ก็มาตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ได้ข้อมูลมาว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน รวมทั้งการรับโอนเงินกับกลุ่มทำธุรกิจผิดกฎหมาย โดยจะนำกฎหมายของ ป.ป.ง. มาบังคับใช้ หากพบความผิดชัดเจนก็จะตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดมูลฐานฟอกเงินได้



ส่วนกรมสรรพากรก็จะตรวจสอบการเสียภาษี โดยตัวแทนของกรมสรรพากร เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ตรวจสอบการเสียภาษีของบริษัท มาอย่างต่อเนื่องมาสักระยะหนึ่งแล้ว วันนี้ก็จะขอตรวจสอบเอกสารการเสียภาษีเพิ่มเติม ทั้งบัญชีการเงินและเอกสาร เบื้องต้นยังพบว่า ระบบการเงินของบริษัทนี้ค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากมีทั้งบัญชีการเงินของนิติบุคคล และบุคคล รวมทั้งเงินการขึ้นเงินรางวัลที่ตามข้อมูลพบว่า การซื้อขายสลากเป็นเงินของนิติบุคคล แต่การขึ้นเงินรางวัลมาจากบุคคล ก็จะต้องประสานงานกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งวันนี้ที่เข้าตรวจค้นยังไม่พบเอกสารบัญชีที่สำคัญบางส่วน ทางบริษัทชี้แจงว่าจะส่งมอบเอกสารให้ตรวจสอบอีกครั้ง



ขณะที่ พลตำรวจตรีนภัสวุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะชุดสืบสวนการจำหน่ายสลากเกินราคา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ทดลองซื้อสลากฯ ผ่านทางแพลตฟอร์มกองสลากพลัสทั้งหมด 70 ใบ โดย 69 ใบ เป็นของงวดวันที่ 17 มกราคม และอีก 1 ใบ เป็นของงวดวันที่ 2 มกราคม และวันนี้ได้เข้ามาตรวจสอบว่ามีสลากฯ ไว้จริงหรือไม่ ซึ่งสามารถตรวจสอบพบทั้งหมด แต่จะต้องตรวจสอบการอนุญาตจำหน่ายสลากฯ ให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีต่อไป ซึ่งก็จะตรวจสอบเส้นทางการเงินประกอบด้วย และจะมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป



ทั้งนี้ พลตำรวจโทประจวบ ระบุเพิ่มเติมว่า วันนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้บริหารกองสลากพลัส แต่จะเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานจากทุกหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบ พร้อมยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งแพลตฟอร์มกองสลากพลัส แต่อยู่ในกลุ่มต้องสงสัยในการกระทำความผิด โดยเฉพาะการจำหน่ายสลากโดยที่ไม่ได้รับสิทธิ์จากสำนักงานสลากฯ รวมทั้งความผิดอื่นๆ ซึ่งก็จะเข้าตรวจค้นในทุกแพลตฟอร์มเช่นกัน



แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,กองสลากพลัส ,หวย

คุณอาจสนใจ

Related News