ผบ.ตร.เผยแจ้งข้อหาฟอกเงินกับตู้ห่าว ลงโทษตำรวจ 6 นายที่เกี่ยวข้องกับคดี

         พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ   กล่าวถึงความคืบหน้าคดีตู้ห่าวว่า ขณะนี้การสอบสวนเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะสรุปสำนวนเสนออัยการสูงสุดภายใน 1-2 วันนี้  ซึ่งอยู่ในกรอบระยะเวลาที่อัยการสูงสุดจะต้องเสนอส่งให้ศาลภายใน 20 มกราคม 2566  ทั้งนี้ตำรวจได้สอบสวนร่วมกับอัยการอยู่แล้ว โดยมีคณะของอัยการสูงสุดมาให้คำแนะนำหรือดูแล  ทางตำรวจจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ ส่วนตัวมั่นใจในพยานหลักฐาน ทั้งพยานเอกสาร พยานบุคคลกว่า 400 ปาก และพยานหลักฐานอื่นๆ ว่ามีเพียงพอที่จะลงโทษผู้กระทำผิดในคดีนี้ได้ ซึ่งมีผู้ต้องหาหลัก 37 คน  จับกุมได้ 19 คน หลบหนี 18 คน ไม่รวมคดีเสพต่างๆ อีก 70 กว่าคน  ส่วนนายตู้ห่าวได้แจ้งข้อหาฟอกเงินแล้ว เพราะจะสรุปสำนวนส่งอัยการในเร็วๆ นี้

        ส่วนกรณีที่มีตำรวจเข้าไปพัวพันในเรื่องนี้ด้วย  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในคดีนี้  จะแบ่งเป็นคดีหลัก คือ คดีฟอกเงิน ซึ่ง พ.ต.อ.หญิง ภรรยาของนายตู้ห่าวเกี่ยวข้องกับคดีหลัก  ส่วนตำรวจอีก 5 นาย ทั้ง รองผบก.น.6, พลขับ, รองผกก.จร.สน.ลาดพร้าว, และพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา 2 นาย  คดีต่อตำแหน่งหน้าที่ เรียกรับสินบน  ก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงไปแล้ว  และสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้วทั้งหมด 6 นาย  

           ส่วนประเด็นธุรกจรถทัวร์ที่เป็นของหลานนายกรัฐมนตรี ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว  ก็สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว  ซึ่งในเบื้องต้นได้ข้อมูลจาก ป.ป.ส.มาส่วนหนึ่ง  ว่ารถทัวร์ที่หลานนายกฯ ไปทำธุรกรรมการเช่าซื้อ เรื่องการทำธุรกิจท่องเที่ยวมีมาตั้งแต่ปี 2562 ประมาณ 33 คัน จากจำนวนหลายร้อยคันที่นายตู้ห่าวได้ทำธุรกิจ  ส่วนคดีจินหลิงเป็นคดีสมคบ ยาเสพติด  คดีองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ  ก็ดูหลักฐานความเกี่ยวเนื่องย้อนไปถึงปี 2563  ซึ่งเรื่องรถทัวร์เกิดก่อนกระทำความผิด  ไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้โดยตรง  แต่เราจะประสานข้อมูลกับ ป.ป.ส. เพิ่มเติม ในเรื่องความเกี่ยวเนื่องของทรัพย์สิน และปปง.เรื่องเส้นทางการเงิน ถ้ามีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

        ผบ.ตร.ยืนยันว่า  คดีนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดู เพราะตำรวจดำเนินการอย่างชัดเจน เพียงแต่จะไม่บอกทุกขั้นตอน เพราะเกรงว่าคนที่วางแผนจะต่อสู้คดีจะรู้ตัวก่อน แต่ตอนนี้ถือว่าใกล้เวลาที่จะต้องส่งสำนวนแล้ว จึงแจ้งความคืบหน้าให้ทราบ