สังคม

คนขับ รถหรู ชนท้ายปาเจโร่ป้ายแดง พบเป็นนายทุนพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง

โดย onjira_n

8 ม.ค. 2566

1.9K views

จากกรณีที่เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุ รถชนกันบนทางด่วน ใกล้เคียงกับโรงเรียนนนทรี จนทำให้มีรถยนต์เสียหายทั้งหมดสามคันมีผู้จะรับบาดเจ็บทั้งหมดสี่คน ซึ่งหนึ่งในรถที่ได้รับอุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นรถของอาสาสมัครดับเพลิงที่อยู่ระหว่างการเดินทางไป ช่วยเหลือเหตุเพลิงไหม้และมีผู้ติดค้างอยู่บนอาคารในพื้นที่อุดมสุขแต่มาประสบอุบัติเหตุขึ้นก่อน รวมถึงยังมีรายงานว่าสำหรับรถหรูที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ ผู้ขับขี่เป็นนักธุรกิจที่เป็นนายทุนให้กับพรรคการเมืองหนึ่ง ทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่ ไปตรวจสอบจุดจอดรถของกลางของสถานีตำรวจ ทางด่วน 1 พบรถที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งสามคันซึ่งรถคันแรกเป็นรถยนต์หรูยี่ห้อเบนท์ลีย์ สปอร์ตสองประตู สีบรอน  คันที่ 2 คือ รถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิรุ่นปาเจโร่ สีดำ ป้ายแดง  และ รถคันสุดท้ายคือรถกะบะ ดับเพลิงของ อาสาสมัครดับเพลิงฐานฮารูน บางรัก ซึ่งทั้งสามคันอยู่ในสภาพเสียหายพังยับเยินโดยมีรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิปาเจโร่สีดำที่อยู่ในสภาพยับเยินหนักที่สุด


ทีมข่าวยังตรวจสอบภายในรถยนต์หรูยี่ห้อเบนท์ลีย์ที่ปรากฏในกล้องหน้ารถคันหนึ่ง ที่พบว่ารถยนต์หรูเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ยังพบว่าภายในระบบถุงลมนิรภัยทั้งสองลูกระเบิดทำงาน พี่เบาะหลังยังพบขวดไวน์กลิ้งอยู่ นายอิทธิพล ประสงค์ทรัพย์ อายุ 35 ปี ผู้ขับขี่รถดับเพลิงของอาสาสมัครฐานฮารูน บางรัก เล่าให้ทีมข่าวฟังถึงช่วงนาทีเกิดเหตุว่า ขณะนั้นตนเองอยู่ระหว่างการเดินทางนำอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ภายในอาคารไปสนับสนุน เหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่อุดมสุข ซึ่งตนเองได้ออกจากฐาน ย่านบางรักและไปขึ้นทางด่วนที่ด่านสาธร ก่อนที่จะมาถึงช่วงทางโค้งจุดเกิดเหตุใกล้เคียงกับโรงเรียนนนทรี ตนเองขับอยู่ที่เลนขวา สังเกตเห็นว่าทางรถหรูขับแซงขึ้นทางซ้ายและพยายามปาดเข้ามาที่ช่วงเงินกลางจึงมาพบกับรถยนต์ปาเจโร่ที่ขับขี่อยู่ที่ร้านกลางทำให้รถหรูพุ่งชนท้ายรถปาเจโร่อย่างแรงก่อนที่รถปาเจโร่จะเสียหลักหมุนขวางถนนมาที่เลนขวาทำให้ตนเองไม่สามารถเบรคได้ทันเพราะเป็นระยะกระชั้นชิดและตัวรถของตนเองมีน้ำหนักมากทำให้รถของตนเองพุ่งชนเข้าบริเวณด้านข้าง ของรถปาเจโร่ทำให้รถปาเจโร่หมุนกลิ้งจากเลนขวาข้ามไปยังเลนซ้ายสุด ตนเองยอมรับว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากแต่ก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะถือว่าเป็นอุบัติเหตุรุนแรงที่ส่วนตัวยังไม่เคยเจอมาก่อน


ส่วนรถหรูคันที่เป็นต้นตอของอุบัติเหตุในครั้งนี้ ก่อนหน้ามาถึงจุดเกิดเหตุไม่ได้สังเกตว่าขับขี่มาในทิศทางใดและตนเองก็ไม่ได้มีปัญหากับทางรถหรูคันนี้จึงไม่ทราบ ว่าเหตุใดรถหรูคันดังกล่าวถึงแซงซ้ายและพยายามปาดมา ที่เลนขวา ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองก็เดินทางไปรักษาร่างกายพร้อมกับเพื่อนที่นั่งอยู่บริเวณเบาะหน้า แต่ในจุดเกิดเหตุตนเองสังเกตุเห็นว่าผู้ที่ขับขี่รถหรูอยู่ในอาการมึนเมาโดยไม่มีการพูดจากับใครในจุดเกิดเหตุมีแต่การถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้ในมือตลอดเวลา ขณะที่ตนเองยังทราบจากเพื่อนในฐาน ที่ติดตามมาสมทบในจุดเกิดเหตุว่า ขณะที่กำลังเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุเมื่อมาถึงบริเวณเชิงทางขึ้นทางลงด่วน ก็พบกับตัวผู้ขับขี่รถหรู พร้อมหญิงสาวที่นั่งรถมาด้วยกันขึ้นรถแท็กซี่คล้ายกลับต้องการหลบออกจากจุดเกิดเหตุ ทั้งทางที่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางตำรวจ จนทำให้กลุ่มอาสาสมัครต้องช่วยกันล้อมรถแท็กซี่และบันทึกคลิปเหตุการณ์ไว้ก่อนจะพาตัวมาที่สน. ทางด่วน 1 ซึ่งขณะมีการรวมรถแท็กซี่คันดังกล่าวไว้กลุ่มอาสาสมัครยังมีการสอบถามซึ่งเจ้าตัวยังคงยืนยันว่าไม่ได้เมา


ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมีการเจรจากันเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องของการชดใช้ซึ่งในส่วนของรถดับเพลิงตัวผู้ขับขี่รถยนต์หรูได้ลงบันทึกประจำวันไว้ว่าจะดำเนินการชดใช้รถดับเพลิงคันใหม่ให้พร้อมกับอุปกรณ์ที่เสียหาย ขณะที่นายศราวุธ รีรักษ์ ผู้ขับขี่รถยนต์มิตซูบิชิปาเจโร่สีดำป้ายแดง และ นางสาวณิชชาวีณ์ ชาติสุริยพัฒน์ แฟนสาวที่นั่งมาในรถคันเดียวกันเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อคืนเกิดเหตุ ในรถมีผู้ใหญ่นั่งอยู่ห้าคนและเด็กสี่ขวบอีกหนึ่งคน พวกตนทั้งหมดอยู่ระหว่างการเดินทางไปจังหวัด บึงกาฬเพื่อไปหาครอบครัวของตนเอง ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากที่พักไม่ถึงครึ่งชั่วโมงขนาดนั้นอยู่ระหว่างการขับขี่อยู่บนทางด่วนความเร็วประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนเองก็รู้สึกว่ามีการกระแทกอย่างแรงที่บริเวณด้านหลังก่อนที่ตนเอง จะรู้สึกว่ารถหมุนเคว้งและถูกกระแทกจากด้านข้างซึ่งเมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดสงบนิ่งลงก็ได้พยายามให้คนในรถตรวจสอบร่างกายและปลดเข็มขัดนิรภัยและหาทางออกจากรถ ซึ่งจากการชนดังกล่าวถือว่าโชคดีที่ทุกคนในรถคาดเข็มขัดนิรภัยรวมถึงตัวหลานวัยสี่ขวบด้วย ทำให้ทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากนักมีเพียงคุณพ่อคนเดียวที่มีอาการบาดเจ็บแขนหักส่วนคนอื่นๆก็มีบัตรแผลฟกช้ำตามร่างกายจากแรงกระแทกเพียงเท่านั้น เมื่อทุกคนสามารถออกจากรถได้ก็เห็นว่าภายในจุดเกิดเหตุมีรถประสบอุบัติเหตุหลายคันก่อนที่จะได้เห็นคลิปหลักฐานที่เป็นกล้องหน้ารถจากรถอีกคันหนึ่งที่ขับตามหลังมาจึงรู้ว่าถูกรถยนต์หรูชนท้ายและรถตนเองเสียหลักไปหมุนขวางรถดับเพลิงทำให้เกิดอุบัติเหตุสอนขึ้นอีก


ซึ่งในจุดเกิดเหตุตนเองไม่ได้มีการพูดคุยกับทางผู้ขับขี่รถยนต์หรูเพราะยังอยู่ในอาการมึนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็สังเกตเห็นว่าผู้ขับขี่รถยนต์หรูมีอาการคล้ายคนมึนเมาสุรา แต่ตนเองจำได้ว่าผู้ขับขี่รถยนต์หรูปฏิเสธการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ตลอดเวลา ซึ่งตำรวจได้มาอธิบายกับตนเองที่สน. ว่าถือว่าเป็นความประสงค์ของผู้ขับขี่ที่จะปฏิเสธในการตรวจสอบซึ่งทางตำรวจจะดำเนินการส่งตรวจหาวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดอีกครั้งซึ่งเมื่อผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ออกจะมีการนัดคู่กรณีทั้งหมดมาทำการเจรจาในเรื่องค่าเสียหายอีกครั้งเพราะในเรื่องของค่าเสียหายรถตนเองยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางคู่กรณี นางสาวณิชชาวีณ์ แฟนสาวผู้ขับขี่และเป็นเจ้าของรถปาเจโร่สีดำยืนยันว่าฝั่งตนเองต้องการรถคันใหม่เพราะจากการที่ได้ดูสภาพรถตนเองพบว่าเสียหายอย่างหนักรอบคัน รถตนเองเป็นรถใหม่ที่เพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมาเพิ่งส่งชำระค่างวดเพียงหนึ่งงวดเท่านั้น กลับต้องมาเจอกับอุบัติเหตุแบบนี้ซึ่งหากใครที่บอกว่ารถตนเองสามารถซ่อมได้อยากขอให้มาซ่อมและมาใช้รถกับตนเองจะได้รู้ว่าความสบายใจยังมีอยู่หรือไม่กับรถที่ประสบ อุบัติเหตุหนักจนถึงสภาพนี้ พร้อมฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนขอให้คาดเข็มขัดนิรภัยในทุกจุดเพราะแม้หากตนเองไม่ขับขี่รถด้วยความเร็วแต่ก็อาจถูกคนอื่นประมาทและพุ่งชนท้ายแบบตนเองได้


ส่วนกลุ่มผู้ที่มีฐานะทางการเงินที่มีเงินซื้อรถหรูมีสมรรถนะสูงอยากขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นด้วยอย่าใช้ถนนในการขับขี่ด้วยความรวดเร็วเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นแบบครั้งนี้ ซึ่งครอบครัวตนเองยังถือว่าโชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายสาหัสหรือเสียชีวิตเพราะหากเกิดขึ้นคงถือเป็นเรื่องสูญเสียอย่างมากต่อครอบครัวตนเอง พร้อทกันนี้ทั้งคู่ยังยอมรับว่าได้ยินเรื่องที่ผู้ขับขี่รถยนต์หรู พยายามหลบจากจุดเกิดเหตุ แต่ไม่แน่ใจเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะต้องดำเนินการเรื่องการส่งตัวคุณพ่อที่ได้รับบาดเจ็บไปรักษา และตรวจสอบทรัพย์สินกระเป๋าเดินทางต่างๆ มีรายงานว่าในส่วนของผู้ขับขี่รถยนต์หรูต้นเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้คือ นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ นักธุรกิจที่มีข้อมูลว่าเป็นผู้ร่วมให้ทุนกับพรรคการเมืองแห่งหนึ่ง ขณะที่ในส่วนของความคืบหน้าทางคดี ยังไม่มีการออกมาเปิดเผยจากทางตำรวจแต่มีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้มีการส่งตัวผู้ขับขี่รถยนต์หรูไปทำการตรวจเลือดเพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์เนื่องจาก ต้องใช้หลักฐานในการพิจารณาแจ้งความเอาผิดขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ กับทางผู้ขับขี่รถยนต์หรู เพราะหากมีการแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบัตรเจ็บถือว่าเป็นโทษน้อยกว่าข้อหาเมาแล้วขับ ซึ่งคาดว่าผลการตรวจ ปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดจะทราบผลในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้




คุณอาจสนใจ