เตือนภัยอาบังแสบ! ออกอุบายขายของ ก่อนฉกเงินในมือยายแล้วหนี บอกจะไปทำบุญให้ที่อินเดีย

เมื่อวันที่ 6 ม.ค.65 จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kanattayapat Chantanabubpa ได้มีการโพสต์รูปภาพชายรูปร่างใหญ่สวมเสื้อสีแดง ขับรถจักรยานยนต์สีแดงจอดเหมือนกำลังรอข้ามถนน และมีข้อความว่า “ใครพบเห็น แขกโพกผ้าหน้าผากมีจุดแดง ขับรถสแมชสีแดง ช่วยแจ้งเบาะแส อันตรายคนแก่แม่ที่อยู่บ้านคนเดียวมันจะให้แกไปกดเอทีเอ็มให้ แต่แม่ไม่ไป โดนมันกระชากเอาตังไป ใครรู้เบาะแสมีรางวัล เงินที่มันเอาไปไม่เยอะ แต่เป็นห่วงคนแก่ที่อยู่บ้านคนเดียว #เหตุเกิดบ้านโคกป่ากล้วย ม.12 ต.ลาดตะเคียน”

และได้มีผู้แชร์โพสต์ออกไปบางคนก็บอกว่า “พึ่งมาหนองหอยวันก่อนตอนใกล้มืดๆ” บางคนก็บอกว่า “ดีนะที่บ้านโดนไปแค่ 19 บาท 19 บาทก็ยังเอาอีกเนาะ ที่จริงจัเอา 149 บาท” บางคนก็บอกว่า “โชคดีที่หมาไล่มันเลยไม่กล้าเข้ามาที่ห้องเช่า”

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุที่ ม.12 หมู่บ้านโคกป่ากล้วย ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบบ้านได้ปิดเหมือนไม่มีใครอยู่บ้าน ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานไปทางลูกชายได้โทรบอกแม่ให้ออกมาจากบ้านเนื่องจากตอนนี้แม่ยังไม่กล้าออกมานั่งที่เปลข้างนอกบ้านเหมือนทุกๆ วัน

จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลสระบัว บริเวณสี่แยกกลางตลาดพบว่าช่วงเวลา 10.51 น. พบชายคนดังกล่าวได้ขับรถจักรยานยนต์มาจอดแล้วลงไปคุยกับบังขายไอศกรีมหน้าร้านขายของชำ ก่อนถึงแยกกลางตลาดประมาณ 20 เมตร สักพักก็พากันขับรถออกไปจอดรถคุยกันอยู่ที่สี่แยกสักพักก็พากันแยกย้ายกันไปโดยทางบังขายไอศกรีมได้ขับรถไปทางเทศบาลสระบัว และบังใส่เสื่อสีแดงได้ขับรถมุ่งหน้าไปทางบ้านหนองตลาด

ด้าน นางอำไพร ฝายพิมพ์ อายุ 65 ปี (ผู้เสียหาย) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค.65 ช่วงบ่ายตนได้นอนอยู่ที่เปลหน้าบ้านได้มีชายตัวใหญ่ๆ ใส่เสื้อสีแดงขับรถจักรยานยนต์สีแดงเข้ามา ใส่ผ้าโพกหัว ตรงหน้าผากมีอะไรสีแดงๆ แต้มไว้ ตนจึงถามว่ามาทำไมเขาบอกว่ามาขายมุ้งตนจึงบอกเขาว่าสมัยนี้เขาไม่กางมุ้งกันแล้ว เขาเลยบอกว่ามาขายผ้าถุง ผ้าถุงเขามีเยอะแยะเลย จึงบอกไปว่าตนนุ่งแต่กางเกงไม่นุ่งผ้าถุง

เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรอย่างอื่นก็มีเยอะแยะ แล้วเขาก็เดินเข้ามานั่งตรงแคร่ใกล้ๆ ตนจึงลุกขึ้นนั่งตอนแรกนอนอยู่ โทรศัพท์ตนก็วางอยู่บนแคร่ เขาก็จะเอามือจับโทรศัพท์ตนจึงบอกว่าอย่านะ แล้วเขาก็ได้โยนผ้าถุงใส่ตนเต็มเลย บอกจะให้ป้าซื้อเอาไปแจกเขา ตนเลยบอกใครอยากนุ่งก็ให้เขาซื้อเอา

แล้วก็เข้าทำนองดูดวงว่าตนดวงไม่ดีลูกดวงไม่ดีต้องทำบุญกับพระพิฆเนศ 9,999 บาท ถึงจะหายดวงจะดีไม่อย่างนั้นอีกครั้งเดียวเรียบร้อย แล้วบอกว่าแฟนที่เสียไปแล้วยังวนเวียนอยู่ต้องทำบุญไปให้เขาลูกถึงจะได้ดีแล้วจะสบาย แล้วเขาก็ขอกระดาษเอาไปเขียนเต็มหน้ากระดาษ เขียนว่าคนละ 50 บาท กี่ปีกี่เดือนอะไรของเขาก็ไม่รู้แต่เวลาไผเขาก็ฉีกกระดาษแผ่นนั้นไปด้วย ตนจึงบอกว่าไม่รู้ตนไม่ว่างจะไปซื้อเป๊ปซี่กินแล้วเขาก็บอกว่าป้ามีตังค์นิ

ตนก็บอกว่ามีแต่พอกินพอใช้ เขาบอกว่าแต่ที่ธนาคารมีเยอะ ตนจึงบอกว่ามีไม่เยอะจะใช้ทีลูกพาไปเบิก เขาบอกว่างั้นครั้งนี้ผมไปเบิกให้ปะไปกับผม ตนจึงบอกว่าตนไม่ไปหรอก แล้วตนไม่ทำบุญด้วย 9,999 บาท ตามที่พูดด้วย เขาก็โยนนาฬิกามาให้ตนก็บอกว่าไม่ใส่ที่บ้านก็มี เขาบอกงั้นจะพาไปเบิกเงินตนบอกไม่ไป แล้วเขาก็ถามว่าในตัวป้ามีเงินไหมตนจึงบอกมีแค่พอกินพอใช้เขาถามว่ามีกี่บาท

ด้วยความโง่ของตนจึงล้วงเงินในกระเป๋าออกมามีเงินอยู่ 700 บาท แล้วเขาก็ดึงเอาไปเลย ตนจึงถามว่ามาเอาไปทำไม เขาบอกว่าดึงไปแล้วจะไปประเทศอินเดียแล้วนะไปทำบุญกับพระพิฆเนศให้ ตนบอกเอาของฉันไปฉันก็ไม่มีแล้วจะมาคว้าโทรศัพท์ของฉันอีก ฉันจึงบอกว่าอย่า แล้วถามว่าตนมีโทรศัพท์เก่าๆ ไหมจะเอา ตนจึงบอกไม่มีแล้วเขาก็ขับรถออกไปเลย ทางลูกได้ทราบจึงได้ไปตามหาดูพบว่าแขกคนนั้น เขาเช่าบ้านอยู่ที่กบินทร์ แขกคนนี้ไม่เคยเห็นมาขายของที่นี่เลยแล้วก็มีคนในหมู่บ้านก็โดนคล้ายๆ ตนเหมือนกัน

นางตุ่น อุ้มหงษ์ อายุ 54 ปี (ชาวบ้านบ้านโคกป่ากล้วย) กล่าวว่า แขกคนนี้มาถามหาโทรศัพท์เก่าๆ ตนจึงบอกว่าเอาแลกไข่แลกกระเทียมไปหมดแล้วพอพูดจากตนเสร็จก็เลยมาที่นี่ ตนได้ยินยายพูดว่าไม่เอาหรอกของ และยายบอกว่ามาเอาเงินไป 700 บาท ตนก็ตกใจ ถ้ามาแบบนี้ตนก็กลัว แฟนตนก็บอกว่าถ้าเห็นพวกนี้มาขายของให้เดินหนีมันเลย แล้วก็ปิดห้องไม่ต้องคุยไม่ต้องเอาอะไรทั้งนั้นมันอันตราย มาแบบนี้เพราะไม่เคยพึ่งมาเคยเจอเมื่อวานนี่หล่ะ คนๆ นี้พึ่งเคยเห็นเข้ามาเมื่อวา นแต่พวกแขกขายของนั้นเขาไม่ได้เป็นแบบนี้

ทางเจ้าหน้าที่นั้นได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวแล้ว และจะได้นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป