รวบยกแก๊ง! มือยิง ด.ต.-เมียท้อง 6 เดือน ดับกลางไร่มัน ตร.ยังไม่ชัด เอี่ยวปมน้ำมันเถื่อนหรือไม่

จับแล้ว! มือยิง ด.ต.-เมียท้อง 6 เดือน ดับกลางไร่มัน ด้าน ตร.เตรียมแถลงวันนี้ ยังไม่ชัดเอี่ยวปมน้ำมันเถื่อนหรือไม่  

กรณีเมื่อวันที่ 12 พ.ค.67 ตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ช่วยออกติดตามค้นหาบุคคลสูญหาย คือ ด.ต.สกล บรรลุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.อุบลราชธานี พร้อมภรรยาที่ตั้งครรภ์ ประมาณ 6 เดือนก่อนพบเป็นศพในเวลาต่อมา

โดยหลังหายตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตู้กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 11 พ.ค.67 เห็น ด.ต.สกล เดินทางมาจาก จ.อุบลราชธานี เพื่อมาเยี่ยมและพักค้างแรมอยู่ที่ตู้ยามดังกล่าว เนื่องจาก ด.ต.สกล เคยรับราชการอยู่ที่ สภ.ระเบาะไผ่ แต่ได้ย้ายไปอยู่ที่อุบลราชธานีหลายปีแล้ว โดยภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า ด.ต.สกล ใส่เสื้อสีดำ คอวี กางเกงขายาวสีดำ ยืนอยู่ที่บริเวณหน้าป้อมในช่วงเวลา 12.22 น. โดยมีภรรยาท้อง 6 เดือน เดินผ่านกล้องวงจรปิดไป ขึ้นรถปิคอัพอีซูซุ สีบอร์น 4 ประตู ออกจากป้อมยาม เพื่อเดินทางมุ่งหน้าตลาดกรอกสมบูรณ์

จากนั้นประมาณไม่ถึง 20 นาที ทางภรรยาของ ด.ต.สกล ได้ส่งข้อความหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตู้กรอกสมบูรณ์ ว่าสามีได้พบกับผู้ร้ายหรือคนที่รู้จักหรืออย่างไรยังไม่ทราบ ก่อนที่สามีจะวิ่งตามไป และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ด้วยความตกใจจึงได้ส่งพิกัดไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นเพื่อนที่ตู้กรอกสมบูรณ์

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตู้ ได้ขับรถตามพิกัดที่แจ้งมา แต่ก็ไม่พบนายดาบและภรรยา รวมทั้งรถแล้วก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ก่อนที่ในเวลาต่อมา ตร.สภ.ระเบาะไผ่ ได้พบรถของ ด.ต.สกล พร้อมภรรยา คือ น.ส.แล๊ค (ชาวลาว) อยู่ห่างจากถนนสาย 3079 ประมาณ 4 กม. ข้างบ่อน้ำในป่ายูคาลิปตัส โดยพบว่า ด.ต.สกล เสียชีวิตที่บริเวณเบาะด้านหน้ารถ ส่วนภรรยานอนตายที่เบาะหลังรถ ตำรวจสันนิษฐานว่า ทั้ง 2 คนอาจถูกคนร้ายฆ่าแล้วนำรถมาทิ้งเพื่ออำพรางศพ 

จากการตรวจสภาพศพ ด.ต.สกลถูกยิงที่หน้าอก แขนขวา แขนซ้าย ขาขวา ขาซ้าย รวม 15 นัด ส่วนภรรยาถูกยิงบริเวณราวนมขวาชายโครงขวา จำนวน 8 นัด เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ

ล่าสุดวานนี้ (13 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว เบื้องต้นมีรายงานว่ามีทั้งหมด 3-4 คน ทราบชื่อผู้ต้องหาเบื้องต้น คือนายชัยวิชิต ภู่มาลา อายุ 43 ปี (พ่อ) และ น.ส.ธัญญารัตน์ ใจกล้า (แม่) ของนายพิชิตพงศ์ ภู่มาลา อายุ 23 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จับกุมได้ในพื้นที่ จ.นครนายก และจะนำตัวมาแถลงข่าวที่ สภ.ระเบาะไผ่ โดยรักษาการอธิบดีกรมตำรวจจะเป็นผู้แถลงข่าวด้วยตนเอง ต่อมาได้แจ้งว่าต้องยกเลิกเนื่องจากฝนตกหนักแฮคอปเตอร์ไม่สามารถบินได้ ขอเลื่อนไปเป็นวันนี้ (14 พ.ค67) ในช่วงบ่าย

ต่อมา พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้เดินทางมาที่ สภ.ระเบาะไผ่ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นไม่น่าใช่กระบวนการค้าน้ำมันเถื่อน แต่น่าจะเป็นที่ดาบโก้มาพบเจอว่ามีการถ่ายน้ำมันกันกลางถนน ก็เลยลงไปตรวจสอบว่าทำอะไร คนร้ายมากันเยอะ แต่ตำรวจมาคนเดียว ก็เลยทำให้คนร้ายไม่ยอมให้ตรวจสอบ ก็เลยมีเหตุการณ์ซึ่งหน้า ส่วนการที่คนร้ายอาจรู้จักกับดาบโก้หรือไม่ต้องทำการตรวจสอบอีกที แต่ก็มีมูลเหตุว่ามีโอกาสเป็นไปได้ เขาไม่ได้แจ้งประสานขอกำลัง ถ้าแจ้งคงไม่มีเหตุเกิดแบบนี้

ส่วนที่คนร้ายทำร้ายภรรยาของดาบโก้ด้วยนั้น ก็น่าจะทำลายพยานหลักฐาน ซึ่งตอนนี้ก็จับกุมคนร้ายได้แล้ว ตอนนี้ทางตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ สืบจังหวัด สืบภาค มีการบูรณาการร่วมกันจนทราบว่าคนร้ายเป็นใครและทราบตัวหมดแล้ว ซึ่งเมื่อวานนี้ ถือว่าเป็นการมอบตัวและจับกุมพร้อมกัน โดยจับได้ที่ จ.นครนายก 3-4 คน ซึ่งเบื้องต้นก็ยังไม่ถึงขนาดเชื่อมโยงกับกระบวนการค้าน้ำมันเถื่อน

พร้อมกันนี้จากการตรวจค้นที่บ้านก็พบอาวุธปืนอาก้าและปืนยาว เบื้องต้นเป็นคนในพื้นที่ชอบเล่นปืน มีทั้งปืนยาว ปืนสั้น หลายกระบอก ส่วนช่วงเกิดเหตุดาบโก้และกลุ่มผู้ต้องหามีการพูดคุยกันหรือไม่ก็ไม่ทราบ ก็อย่างที่บอกตำรวจเรามีน้อย อาจมีการลงมือกันบ้าง คงไม่ใช่กระบวนการของผู้มีอิทธิพล คงเป็นการทะเลาะกันในที่เกิดเหตุมากกว่า โดยเบื้องต้นเป็นการลักลอบถ่ายน้ำมันจากรถบรรทุกน้ำมันใส่ปิคอัพ เอาไปขาย ส่วนประเด็นเรื่องการกระหน่ำยิงต้องทำการสืบสวนมากกว่านั้นต้องรอรายละเอียด ทรัพย์สินของผู้ตายก็มี อาวุธปืน 2 กระบอก โทรศัพท์ทั้งผู้ตายและภรรยา ก็ตามได้แล้ว

ขณะเดียวกันวานนี้ (13 พ.ค.67) พ่อและแม่ของสาวชาวลาว พร้อมญาติๆได้เดินทางมาถึงที่ สภ.ระเบาะไผ่ เพื่อรอพบกับพนักงานสอบสวน และได้เชิญวิญญาณลูกสาว พร้อมหลานที่อยู่ในท้อง รวมท้องลูกเขย บนรถรถยนต์คันที่ถูกยิงท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ก่อนที่ญาติๆจะเดินทางไปรับร่างทั้งหมดที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปกลับบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดโพธิ์ศรี จ.อำนาจเจริญต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/gYHcypqVyYA